บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 29

บทที่ 29 ไท่ซ่างหวงทรงรับรู้ทุกอย่าง

เมื่อทุกคนออกไปจากตำหนัก ไท่ซ่างหวงมองไปที่ฉางกงกง ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ทำไมถึงยืนเป็นท่อนไม้ไม่กระดิกไปไหน?ไม่รู้รึ?

ฉางกงกงมองไปที่หยวนชิงหลิงด้วยความน้อยใจ หลังจากที่พระยาชาฉู่เข้ามาในวัง รู้สึกว่าไท่ซ่างหวงไม่เห็นความสำคัญของเขาเลย เห็นแก่นางได้ช่วยชีวิตฝูเป่าไว้ ช่างเถอะ

ฉางกงกงออกไปตำหนักด้านนอกและสั่งให้ผู้รับใช้ในวังทุกคน อย่าเข้าไปและห้ามส่งเสียงดังรบกวน

ไท่ซ่างหวงกวาดสายตามองไปที่หวงชิงหลิง “สิ่งนั้นที่อยู่บนท้องของฝูเป่าคือสิ่งใดรึ?”

“ตะขาบ………….มั้งคะ!”หยวนชิงหลิงตอบด้วยเสียงสั่นเครือ

เมื่อครู่ไม่มีใครสังเกตเห็นบางอย่างที่อยู่บนท้องฝูเป่า เพราะตอนนั้น ทั้งตัวของฝูเป่าเต็มไปด้วยเลือด

มีเพียงเจ้านายที่รักมัน ถึงได้สังเกตเห็นสิ่งนั้น

“ยังไม่รีบพูดความจริงมา จะต้องลงโทษหลานห้าก่อนใช่ไหมเจ้าถึงจะยอมบอก?”ไท่ซ่างหวงกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

จะลงโทษเขาก็ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า?ดีเสียอีกที่จะโบยเขา โบยซักสามสิบไม้ยิ่งดี หากเป็นเช่นนี้ก็ได้แก้แค้นแล้ว

แต่ทว่า นางไม่กล้าที่จะพูดเช่นนั้น ภายใต้สีหน้าเคร่งขรึมและแววตาที่เยือกเย็นทำให้นางกลัวอยู่ไม่น้อย นางกล่าวขึ้น“ภายในของฝูเป่าได้รับบาดเจ็บม้ามแตก ต้องทำการเปิดแผลและเย็บแผล จึงมีแผลที่มีลักษณะคล้ายกับตะขาบ”

ไท่ซ่างหวงไม่ถามต่อ แต่ความรู้สึกลึกๆข้างในอยากรู้มากว่าทำได้อย่างไร แต่ว่า ด้วยศักดิ์ศรีของพระองค์ จะถามเช่นนี้ไม่ได้เพราะหากถามไปก็จะแสดงว่าพระองค์ไม่เคยรู้การรักษาแบบนี้มาก่อน

“เม็ดยาจื่อจินใครเป็นคนกิน?” ไท่ซ่างหวงถามต่อด้วยความคล่องใจ

“หยวนชิงหลิงกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม “หม่อมฉันเป็นคนกินเอง”

“หลานห้าเองก็ดีกับเจ้ามาก”ไท่ซ่างหวงพยักหน้า

คำพูดนี้ทำให้หยวนชิงหลิงโมโหมาก ไม่ทำอะไรผิดก็โดนโบย เกิดอะไรขึ้นไม่เห็นถามโบยอย่างเดียว นี่หรือดีกับฉัน?

“บาดแผลบนตัวเจ้าเกิดขึ้นได้อย่างไร?” ไท่ซ่างหวงถามไถ่ด้วยความห่วงใย

ตอนนี้ หยวนชิงหลิงไม่กล้าพูดความจริงออกมา “เป็นเพราะข้าหกล้มเอง”

“เจ้าปากแข็งไม่ยอมพูดความจริง หากทำผิดแล้วโดนโบย ยังถือว่าโดนน้อยไป” ไท่ซ่างหวงกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน

หยวนชิงหลิงก้มหน้าลง “ความจริงมันไม่ใช่เรื่องที่น่าฟังหรอกค่ะ”

“เจ้าคิดว่าทั้งชีวิตของข้ารับรู้แต่เรื่องราวที่น่าฟังอย่างงั้นรึ?แต่ทั้งชีวิตของข้าได้รับฟังความจริงไม่กี่เรื่องเจ้าจะยอมพูดความจริงกับข้าไหม?”

หยวนชิงหลิงยืนนิ่งไปครู่หนึ่ง นางพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา“ถูกฟาดค่ะ”

“ทำสิ่งใดผิดรึ?”

หยวนชิงหลิงส่ายหัว “ไม่รู้ค่ะ”

“เจ้ากำลังจะกล่าวหาว่าหลานข้าโบยเจ้าอย่างไร้เหตุผลเช่นนั้นรึ?”พระองค์ขมวดคิ้วขึ้น

หยวนชิงหลิงไม่รู้ว่าในใจของไท่ซ่างหวงกำลังคิดและสงสัยอะไรอยู่ สิ่งที่สงสัยและต้องการสอบสวนกับคนที่ถูกกล่าวหาการกระทำนี้ของพระองค์ดูอ่อนโยนและไม่โหดร้าย ตอบอย่างเจื่อนๆ การมองของเขาทะลุปรุโปร่ง พูดความจริง หากเขาไม่พอใจ ตระกูลหยู่เหวินจะตกที่นั่งลำบากได้

“ถึงเวลากินยาแล้ว!”หยวนชิงหลิงเปลี่ยนเรื่องสนทนา นางเดินไปหลังผ้าม่านและหยิบยากำหนึ่งออกมา ยกน้ำหนึ่งแก้วแล้วเดินไปที่เตียง

ไท่ซ่างหวงถอนหายใจอย่างหดหู่ “อายุยังน้อย แต่จำแค้นฝังใจ ”

บ่นพึมพำไป และกินยาเป็นที่เรียบร้อย

กินยาเสร็จ ไท่ซ่างหวงแอนตัวลงนอน ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง กล่าวขึ้น “เรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น ข้ารอดมาได้ทุกครั้ง หากยังเกิดเรื่องขึ้นอีก ข้าคงไม่รอดอีกเป็นแน่ พระชายาฉู่ คอยช่วยสู้กับสิ่งชั่วร้ายเหล่านั้น เจ้าสู้อย่างโดดเดี่ยว ข้าจะตายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ”

หยวนชิงหลิงผงะไปครู่หนึ่ง นางมองไปยังไท่ซ่างหวงสีหน้าสิ้นหวังท้อแท้แววตาที่แสนเศร้า

ไอ้ลุงนี่ ในใจของเขารู้ทุกอย่างเลยวะ

รู้ว่ามีคนพยายามจะทำร้ายเขา

หยวนชิงหลิงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“มันเป็นชะตากรรม หากถึงเวลาก็ต้องยอม”

ไท่ซ่างหวงรู้สึกสงสัย พระองค์มองไปยังดวงตาของหยวนชิงหลิงเริ่มมีน้ำตาปริ่ม อย่างไรก็ตาม ปากนางเหมือนเป็นยาพิษอยู่ดี “การตายไม่ใช่เรื่องง่าย กลัวก็แต่ถูกทรมานด้วยความเจ็บอยากตายก็ไม่ได้ตายอยากมีชีวิตอยู่ต่อก็ไม่ได้”

“เป็นเช่นนั้นก็ไม่กลัว!”หยวนชิงหลิงเอ่ย

ไม่ใช่ว่าไม่กลัว กลัวก็ทำสิ่งใดไม่ได้

“เมื่อครู่ตอนที่อยู่ในตำหนักคนมากมาย ใครเป็น ใครเป็นปีศาจ เจ้าดูออกรึไม่?”ไท่ซ่างหวงถาม

หยวนชิงหลิงส่ายหัว “ดูไม่ออกค่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน