ฮูหยินย่าของตระกูลฉู่ เป็นท่านแม่ของโสวฝู่ฉู่
ฮูหยินย่าเป็นเชื้อพระวงศ์ แต่งงานกับพ่อของโสวฝู่ฉู่
ฐานะนางสูงส่ง เคร่งครัดเรื่องฐานะทางสังคม ตอนนั้นโสวฝู่ฉู่กลับมาบอกกับนางว่า จะแต่งนางกำนัลในวังเป็นเมียเอกนั้น นางคัดค้านอย่างหนัก
นางทำทุกวิถีทาง ถึงขนาดเข้าวังไปว่ากล่าวตักเตือนแม่นมสี่
นางที่เป็นเชื้อพระวงศ์ นางสนมยังมีภรรยาของขุนนาง ต่างก็มีสัมพันธ์ไมตรีที่ดีกับนาง เพราะเรื่องนี้ เหล่านางสนมยังได้กดขี่แม่นมสี่ด้วย
ชาติตระกูลที่สูงส่งของพวกนาง จะไม่มีทางยอมให้นางกำนัลคนหนึ่งมาทำให้มัวหมอง
แม้ว่าสุดท้ายลูกชายก็แต่งงานกับลูกสาวของของอวี้สื่อผู้มีโทษทัณฑ์ติดตัว นางก็ไม่ค่อยจะพอใจ แต่ว่า หลังจากที่ต่อต้านแล้ว ก็ยังคงเป็นนางที่ชนะ
สรุป ขอเพียงไม่ใช่นางกำนัลคนนั้นก็พอ
ฮูหยินย่าได้ไปถือศีลปฏิบัติธรรมอยู่ที่สถานปฏิบัติธรรมนานแล้ว ไหว้พระขอพรให้ลูกหลาน ขอพรให้ตระกูลฉู่รุ่งโรจน์ไปอีกนาน
หลังจากที่นางไปแล้ว โสวฝู่ฉู่ถึงได้เป็นผู้ที่มีอำนาจในบ้านอย่างแท้จริง
ท่านชายใหญ่ตระกูลฉู่ที่กำลังกระวนกระวายอยู่ จึงนึกขึ้นได้ให้ตามท่านย่ากลับมา มีเพียงแต่ท่านย่า ถึงจะเอาท่านพ่ออยู่
โชคดีที่สำนักนางชีเยว่เหมยก็อยู่ในเมืองหลวง ไปกลับก็ไม่ไกลนัก เขาพยายามยืดเวลา เขียนฉบับแล้วฉบับเล่า บอกว่าไม่ถูกใจ บอกให้พ่อบ้านเอาไปอ่านให้โสวฝู่ฉู่ฟัง
โสวฝู่ฉู่ก็ไม่ได้รีบร้อน ค่อยๆดื่มชา แถมยังกินหมั่นโถวไปสองลูก
คนที่อยู่ข้างใน ยังคงไม่กล้าออกเสียง คุกเข่าอยู่บนพื้น
แต่ฮูหยินใหญ่ตระกูลฉู่กลับยืนขึ้นมาแล้ว เรื่องมาถึงขั้นนี้ นางคุกเข่าก็ไร้ประโยชน์ ทำไมต้องทำตัวให้ต่ำต้อยด้วย? นางก็เป็นคุณหนูที่มาจากตระกูลที่สูงศักดิ์ ไม่ได้มาเพื่อทนใคร
เดิมนางไม่เห็นด้วยที่จะไปหาแม่นมสี่ เพราะแม่สามีก็เคยเตือนนางว่าอย่าไปล่วงเกินแม่นมสี่
แต่เพื่อหยางเอ๋อแล้ว นางทำได้เพียงไปหาแม่นมสี่ นางคิดว่า นางที่มีฐานะสูงส่งยอมลดตัวไปหานางกำนัลคนหนึ่ง และได้เสนอเงินก้อนใหญ่ แม่นมสี่ทำไมจะไม่ยอมรับเงินก้อนนี้ ใครจะไปรู้ แม่นมสี่กลับหันมาสั่งสอนนาง บอกว่าอ๋องฉู่กับหยางเอ่อไม่เหมาะสมกัน
เรื่องราวเหล่านี้ ยังจะต้องให้ขี้ข้าอย่างนางพูดด้วยเหรอ?
ไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตาเลย หรือจะคิดว่าตัวเองนั้นเป็นเจ้านายจริงๆ
เพื่อจะสั่งสอนนาง เพื่อให้นางรู้ว่าเจ้านายนั้นไม่ว่านานแค่ไหนก็เป็นเจ้านาย และขี้ข้า คือคนที่คนอื่นกำไว้อยู่ในมือ ดังนั้น จึงได้สั่งคนไปปล่อยข่าวลือของแม่นมสี่
หนังสือเลิกร้างของท่านชายใหญ่ตระกูลฉู่ ไม่มาเสียที พ่อบ้านรายงานหลายครั้ง บอกว่าไม่รู้ว่าทำไมท่านชายใหญ่เขียนยังไง เขียนไปหลายรอบ ก็เขียนผิดทุกรอบ
ตอนที่พ่อบ้านมารายงานอีกครั้ง โสวฝู่ฉู่กล่าวอย่างเรียบเฉย “บอกเขาไม่ต้องเขียนแล้ว”
ทุกคนจึงได้โล่งอก
ฮูหยินใหญ่ตระกูลฉู่แอบยิ้มเยาะอย่างไม่เห็นร่องรอย นางรู้อยู่แล้ว เลิกร้างกับนาง เพียงแค่ข่มขู่นางเท่านั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฆ่านางเลย
แต่ว่าคำพูดประโยคต่อไปของโสวฝู่ฉู่ ทำให้สีหน้าของนางเปลี่ยนไปทันที
โสวฝู่ฉู่ค่อยๆกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นเฉียบ “มู่หย่า บอกเขาให้เก็บข้าวของ ออกไปจากบ้านตระกูลฉู่ และไปแจ้งที่ทำการปกครองเมืองหลวง ข้ากับเขาได้ตัดขาดความเป็นพ่อลูกแล้ว”
มู่หย่าเป็นผู้ติดตามของเขา ฟังคำสั่งของเขาเพียงคนเดียว หลังจากที่ได้รับคำสั่ง ก็พาคนไปจัดการ
ฉู่หมิงหยางรู้ว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ก็ด่าสาปแช่งไปหนึ่งชุด ก็พยุงฮูหยินใหญ่ตระกูลฉู่กลับไป
ฮูหยินใหญ่สะบัดมือนางออก บุกเข้าไปในห้องโถง ชี้ไปที่โสวฝู่ฉู่อย่างโกรธเคือง “เขาเป็นลูกชายแท้ๆของท่าน ทำไมท่านทำเช่นนี้กับเขา? ท่านเป็นคนเลือดเย็นหรือเปล่า? ทำไมถึงได้โหดร้ายขนาดนี้?”
ฮูหยินใหญ่รู้สึกว่าตรงหน้าผ่านไปด้วยแสงที่เย็นวาบ เลือดกระเซ็น ของอะไรบางอย่างหล่นลงพื้น ดังด้วยเสียง “พรึบ”หนึ่งที
มือที่นางยื่นออกไปยังอยู่ในท่าชี้ออกไป แต่ว่า นิ้วมือได้หล่นลงบนพื้นแล้ว เลือดพุ่งออกมาอย่างต่อเนื่อง
สมองของนางทื่อไปครู่หนึ่ง เพิ่งจะรู้สึกเจ็บปวด แต่มันเป็นความหวาดกลัวที่บีบคั้นหัวใจมากกว่าความเจ็บปวด
หากคำพูดที่นางพูดมาเมื่อกี้ทั้งหมด นำมาคาดเดา ต่างก็มาจากที่นางคิดว่าพ่อสามีจะไม่ทำถึงขนาดนั้น แต่ว่าตอนนี้นางรู้แล้ว คำพูดเหล่านั้นไม่ได้ข่มขู่นาง
มีคนวิ่งเข้ามาช่วยนางกุมนิ้วเอาไว้ มีคนมาช่วยนางทำแผล ภายในห้องโถงโกลาหลไปหมด
หูของนางยังได้ยินคำพูดที่โหดร้ายของพ่อสามีอย่างชัดเจน “ชีวิตก็จะไม่มีแล้ว ยังจะทำแผลทำไม?”
ร่างของนางอ่อนปวกเปียก ลงล้มบนพื้น ตามองตรง มุมปากสั่นไม่หยุด ไม่ง่ายเลยกว่าที่แววตาจะมองหาจุดหมายจนเจอ เมื่อมองเห็นลูกชายตัวเอง นางร้องไห้อย่างเจ็บปวด “เร็วเข้า รีบไปตามท่านย่ากลับมา”
คุณชายใหญ่ตระกูลฉู่กล่าวปลอบโยน “ท่านแม่ เมื่อกี้ท่านพ่อได้สั่งให้คนไปตามแล้ว อีกไม่นานท่านย่าก็จะมาถึง ท่านวางใจเถอะ”
นางร้องไห้เหมือนใจจะขาด “ข้าทำผิดอะไรกันแน่? ข้าทำผิดอะไรกันแน่? ข้าทำผิดอะไรกันแน่?”
ฉู่หมิงชุ่ยขึ้นไปกอดนางเอาไว้ พูดปลอบใจนาง “ท่านแม่ท่านวางใจเถอะ ท่านปู่แค่ข่มขู่ท่านเท่านั้น ท่านอย่าร้องไห้เลย”
ฉู่หมิงหยางก็ตกใจจนสำลัก รีบวิ่งไปร้องไห้ตรงหน้าของโสวฝู่ฉู่ “ท่านปู่ ท่านปล่อยท่านแม่เถอะ หลานยอมแต่งงานกับอ๋องจี้เป็นชายารองแล้ว เป็นความผิดของหลานเอง ท่านแม่แค่ออกหน้าแทนหลาน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...