ฉู่หมิงชุ่ยเห็นนางยอมตกลงง่ายๆแบบนี้ อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าถามอย่างสงสัย “เจ้าคงไม่ได้ออกคำสั่งไม่ให้แม่นมสี่ไปหรอกมั้ง? เจ้าไม่มีทางใจดีขนาดนี้”
แววตาของหยวนชิงหลิงแฝงไว้ด้วยความเย้ยหยัน “แม่ของเจ้าใกล้ตายแล้ว เจ้ายังมีกะจิตกะใจมาสงสัยข้า?”
ฉู่หมิงชุ่ยหันหลังอย่างบึ้งตึง กล่าวกับอะซี่อย่างเย็นชา “เจ้าเดินนำนาง”
อะซี่ทำเสียงฮึ่มไปหนึ่งที “อย่าใช้ข้าเหมือนขี้ข้า ข้าไม่ได้เป็นขี้ข้าของใคร เก็บท่าทางที่สูงส่งของเจ้าด้วย”
ฉู่หมิงชุ่ยโกรธจนไม่รู้จะทำยังไง นางก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าอะซี่เป็นใคร วันนั้นมีเรื่องทะเลาะในจวนอ๋องฉี อะซี่ก็อยู่
นางอดกลั้นความไม่พอใจลงไป “รบกวนคุณหนูสี่นำทางด้วย”
อะซี่ก็อดกลั้นความรู้สึกเช่นกัน เก็บซ่อนหมัดที่ไม่รักดีของตัวเอง เกรงว่าตัวเองจะควบคุมมันไม่อยู่ ชกไปที่สันจมูกของนาง
อะซี่พาฉู่หมิงชุ่ยไปถึงห้องนอนของแม่นมสี่ ฉู่หมิงชุ่ยได้กลิ่นยา ก็แอบขมวดคิ้วขึ้นมา จนกระทั่งอะซี่พานางไปถึงข้างเตียง เห็นแม่นมสี่ที่นอนเหมือนผักอยู่บนเตียง นางตกใจอย่างมาก
“นาง........นางเป็นอะไร?” ฉู่หมิงชุ่ยตกใจจนเกือบจะพูดไม่ออก
อะซี่กล่าวอย่างเย็นชา “หากคนที่ข้างนอกลือกันเป็นเจ้า ไม่รู้ว่าพระชายาฉีจะสามารถทนมีชีวิตอยู่ภายใต้ความกดดันได้หรือไม่?”
ฉู่หมิงชุ่ยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ มิน่าล่ะ ท่านปู่ถึงได้ผมหงอกไปในคืนเดียว มิน่าล่ะ ท่านปู่ถือได้โมโหขนาดนั้น มิน่าล่ะ ท่านปู่ถึงต้องการให้ท่านแม่ตาย
หัวใจนาง มันก็ว่างเปล่าไปทันที
เดิมนางคิดว่ามาหาแม่นมสี่ จะใช้ความรักทำให้แม่นมเห็นใจ จะใช้เหตุผลทำให้แม่นมเข้าใจ แม่นมอยู่ในวังมาหลายปี มีประสบการณ์ทางโลกไม่น้อย คงไม่ให้ท่านปู่ฆ่าท่านแม่ เพื่อทำให้ข่าวลือยิ่งลือหนักเข้าไปอีก
นางคิดว่าเพียงแค่พาแม่นมสี่กลับไป ก็จะสามารถขัดขวางท่านปู่ได้
“เจ้ามีปัญญา ก็ทำให้แม่นมสี่ลุกขึ้นมาพูด คนในจวนอ๋องฉู่ต้องขอบคุณเจ้าอย่างแน่นอน” อะซี่กล่าวอย่างเย็นชา
ฉู่หมิงชุ่ยกล่าวอย่างอ่ำๆอึ้งๆ “เรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกับท่านแม่ข้า เป็นเพราะนางคิดไม่ตกเอง ห้ามเอาความโกรธแค้นมาลงที่แม่ของข้า”
“พระชายาฉีเชิญกลับไปเถอะ” อะซี่ออกปากเชิญ
ในใจฉู่หมิงชุ่ยว้าวุ่นมาก แล้วจะทำอย่างไรดี? แม่นมสี่กำลังเป็นกำลังตาย ยังจะสามารถไปหาใครได้อีก?
นางคิดถึงฮองเฮา แต่นางได้ถูกยึดป้ายคืนไปแล้ว ทำได้เพียงกลับไปที่จวนอ๋องฉีเพื่อขอป้ายเข้าวัง
อีกอย่าง ท่านปู่บอกว่าให้เวลาสองชั่วยาม เฮ้ย ก็ไม่รู้ว่าจะทันหรือเปล่า นางทำได้เพียงลองพยายามดู
อ๋องฉีหลังจากที่กลับมาจากจวนตระกูลฉู่ ในใจก็หงุดหงิดมาก จึงได้เชิญกู้ซือมาดื่มเหล้าที่จวน
ไม่ง่ายเลยที่วันนี้กู้ซือจะไม่เข้าเวร เดิมนั้นคิดจะไปที่จวนอ๋องฉู่ เห็นอ๋องฉีเรียนเชิญบอกว่ามีเหล้าชั้นดี ก็เลยมา
ดื่มไปสักพัก ฉู่หมิงชุ่ยก็กลับมาถึง
ฉู่หมิงชุ่ยคิดถึงการกระทำของเขาที่อยู่ในจวนตระกูลฉู่ ในใจยังคงโกรธมาก บวกกับเวลาที่เร่งรีบ ก็เลยไม่อยากจะพูดมาก เดินเข้าประตูมาก็ไม่มองกู้ซือแม้แต่แวบเดียว เพียงกล่าวกับอ๋องฉีอย่างเรียบเฉย “เอาป้ายเข้าวังของท่าน ให้ข้าหน่อย”
อ๋องฉีดื่มจนเกือบจะเมาแล้ว เห็นนางที่เข้ามาด้วยสีหน้าบึ้งตึง ก็นึกถึงเรื่องที่จวนตระกูลฉู่เมื่อกี้ “อดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างเย็นชา ป้ายเข้าวัง? ตระกูลฉู่เข้าวังยังต้องใช้ป้ายอีกเหรอ? ไม่ใช่แค่อาศัยแซ่ของตระกูลฉู่ก็เข้าออกได้อย่างตามใจ?”
ฉู่หมิงชุ่ยทั้งอายทั้งโกรธ “ข้าไม่อยากจะเถียงเรื่องพวกนี้กับท่าน ข้ามีเรื่องเร่งด่วน ท่านรีบเอาป้ายมาให้ข้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...