บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 302

คนในตระกูลฉู่ยังอยู่ในสภาวะที่ตกใจ

ฮูหยินโสวฝู่ฉู่ยอมไปอยู่ที่สำนักนางชีเยว่เหมยด้วยตัวเอง แต่ว่า ฮูหยินย่านั้นกลับไม่ยอมที่จะกลับไปแล้ว

นางมองดูตระกูลฉู่ที่ถูกจัดระเบียบอย่างโกรธแค้น ในใจนั้นโกรธมาก นางที่อยู่ในจวน เป็นการอยู่อย่างน่าเกรงขาม นางไม่ยอมให้ใครมาแย่งอำนาจ

ดังนั้น นางจึงเรียกผู้อาวุโสของตระกูลฉู่มาออกหน้า มาที่ตระกูลฉู่พร้อมกัน เพื่อมาสอบสวนโสวฝู่ฉู่อย่างเป็นทางการ

คนในตระกูลฉู่ทั้งหมด ล้วนเคารพฮูหยินย่าท่านนี้อย่างมาก

ตั้งแต่สาวๆมาถึงตอนนี้ จัดการดูแลจวนตระกูลฉู่ด้วยสองมือของตัวเอง ไม่ว่าบ้านไหนจะเกิดเรื่องอะไร นางก็จะออกหน้าช่วยเหลือ

สามารถพูดได้ว่า นางที่อยู่ในเมืองหลวง แม้แต่องค์หญิงพระองค์ใหญ่ ยังเทียบความน่าเกรงขามของนางไม่ได้

นางรักญาติพี่น้อง

ขอเพียงเป็นคนของตระกูลฉู่ ไม่ว่าจะเป็นคนในเรือนของนางหรือไม่ นางก็ปกป้องทั้งนั้น

ไม่ว่าตระกูลฉู่เกิดเรื่องอะไร นางก็สามารถจัดการได้หมด

หลายปีก่อน นางมีหลานที่ไม่รักดีคนหนึ่ง ทำร้ายคนอื่นจนเสียชีวิต คนอื่นจะไปร้องเรียนที่ศาล นางออกหน้าไปจัดการ ไม่เพียงแต่ไม่ต้องเสียงเงินแม้แต่แดงเดียว ยังให้ญาติผู้ตายมาขอขมาที่จวน บอกว่าเป็นการทำลายเกียรติของตระกูลฉู่

คดีนี้ ไม่ถึงศาล ญาติของผู้เสียชีวิตทำได้เพียงยอมรับว่าผู้ตายนั้นหกล้มตายเพราะความซวย เพราะกลัวว่าตระกูลฉู่จะมาโจมตีทำร้าย ก็เก็บข้าวของหนีไปจากเมืองหลวงในคืนกลางดึก

เรื่องนี้ จัดการได้รัดกุมมาก ก็เป็นธรรมดาที่เรื่องนี้ไม่มีใครกล้าแพร่งพรายออกไป

ฮูหยินย่านั้นชอบความรู้สึกที่ถูกเทิดทูนแบบนี้ มีความสุขที่ลูกหลานเคารพบูชา วันเกิดทุกปี นางกลับมาที่จวน มองดูคนมากมายคุกเข่ารอนาง ในปากของทุกคนก็จะกล่าวคำอวยพรที่เป็นสิริมงคล นางยิ่งรู้สึกปลาบปลื้มอย่างมาก

ชีวิตครึ่งชีวิตของฮูหยินย่า คุ้นชินกับชีวิตที่ครื้นเครง แม้ว่าจะอยู่ในสำนักนางชีเยว่เหมย ทุกวันก็ครึกครื้น ภรรยาขุนนางในเมืองหลวง และฮูหยินรุ่นหลังของตระกูลฉู่ ต่างแวะเวียนมาเยี่ยมเป็นประจำ นำค่าใช้จ่ายแต่ละอย่างมาให้

สำหรับคนพวกนั้นแล้ว ในสำนักนางชีเยว่เหมยมีเทพอยู่ เทพองค์นี้ ก็คือฮูหยินย่า

หากมีเรื่องแล้วมาขอความช่วยเหลือ ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าไหว้พระอีก

แต่ในวันนี้ ในจวนตระกูลฉู่ แม้แต่คนที่อยู่ใต้อำนาจของนางยังผิดหวังในตัวนางแล้ว

นางไม่ใช่บรรพชนที่มีความสามารถในการแก้ไขวิกฤตต่างๆอีกแล้ว

นางไม่ใช่หัวหน้าครอบครัวที่พูดคำไหนคำนั้นอีกแล้ว

นางไม่สามารถทนต่อสถานการณ์เช่นนี้ได้

ดังนั้น จึงได้เชิญผู้อาวุโสในตระกูล มันเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องจัดการ

ผู้อาวุโสในตระกูล มารวมตัวกันพร้อมเพรียงในห้องโถง ตามคำเชิญของนาง

สำหรับเรื่องของฮูหยินใหญ่ตระกูลฉู่ ทุกคนก็ได้ยินมาบ้างแล้ว ต่างรู้สึกตกใจ ก็แค่ใส่ความฮู่กั๋วกงกับขี้ข้าไปเพียงไม่กี่คำ? ทำไมต้องตาย? ไท่ซ่างหวงไม่เห็นตระกูลฉู่อยู่ในสายตาแล้วใช่มั้ย?

และท่านชายใหญ่ตระกูลฉู่ก็ถูกไล่ออกจากจวน ถึงวันนี้ยังไม่สามารถกลับเข้ามาในจวน เรื่องนี้ทำให้ทุกคนขุ่นเคืองอย่างมาก ท่านชายใหญ่เป็นผู้สืบเชื้อสายโดยตรงของตระกูลฉู่ จะให้ไปเร่ร่อนอยู่ข้างนอกได้อย่างไรกัน?

เจ้าคำนึง ข้าคำนึงประณามการกระทำของโสวฝู่ฉู่

จนกระทั่งโสวฝู่ฉู่เข้ามา บรรยากาศมาถึงจุดที่ตึงเครียดมาก ทุกคนนั้นเต็มไปด้วยความโกรธ

ท่านอารองของโสวฝู่ฉู่ลุกขึ้นมา ชี้ไปที่โสวฝู่ฉู่กล่าวอย่างตำหนิ “วันนี้เจ้ามีอำนาจมีตำแหน่งที่สูง ทำไมถึงได้ลืมความกตัญญู? การกระทำของเจ้าในช่วงนี้ ทำให้ตระกูลฉู่ของเราขายหน้าจนหมดสิ้น บัดนี้ข้างนอกต่างเข้าใจว่าตระกูลฉู่นั้นอ่อนแอรังแกได้ง่าย หากเป็นแบบนี้ต่อไป ความน่าเกรงขามของตระกูลฉู่ ในไม่ช้าคงได้ถูกเจ้าทำลายไปจนหมดสิ้น”

เดิมท่านอารองของโสวฝู่ฉู่ก็นั่งอยู่กลางห้องโถงพร้อมกับฮูหยินย่า ตอนนี้เขาลุกขึ้นมา โสวฝู่ฉู่ก็นั่งลงไปแทนที่เขาทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน