ตอนที่อุ้มหยวนชิงหลิงกลับไปยังจวนอ๋องฉู่ หยู่เหวินเห้ายังคงตัวสั่นเทาไม่หยุด
เขาไม่กล้าจะคิด ถ้ามาช้าไปอีกก้าวจะเกิดอะไรขึ้น
ตอนที่เขาเห็นฉู่หมิงชุ่ยพุ่งเข้ามาบีบคอของหยวนชิงหลิงเอาไว้จากที่ไกลๆ นาทีความสิ้นหวังเกาะอยู่เต็มอกของเขา
จวนอ๋องฉีไฟไหม้ เจ้าเจ็ดติดอยู่ในกองเพลิง เพลิงโหมลุกไหม้รุนแรง และรวดเร็ว ตัดขาดเจ้าเจ็ดจากหนทางแห่งการเอาชีวิตรอด
และที่สำคัญไปกว่านั้นคือเจ้าเจ็ดได้สลบไปแล้ว เขาไม่รู้เลยสักนิดว่าเกิดไฟไหม้ขึ้น
องครักษ์ลับผีมาถึงก่อน แต่ว่าตอนนั้นไฟไหม้จนไม่สามารถคุมเพลิงได้แล้ว ด้วยความรุนแรงของเพลิงที่ปะทุขึ้น ภายในระยะห้าร้อยเมตร ยังสามารถรู้สึกได้ถึงไฟที่แผดเผา
แต่ไหนแต่ไรมาเจ้าเจ็ดเป็นคนมีรสนิยมรักงานศิลปะ สิ่งก่อสร้างในจวนส่วนมากทำมาจากไม้ ประตูทั้งบานก็ทำจากไม้เนื้อแข็งทั้งสิ้น พอเกิดไฟลุกไหม้ ก็กลายเป็นทะเลเพลิง องครักษ์ลับผีไม่มีทางเข้าใกล้ได้เลย แม้จะเสี่ยงอันตรายบุกเข้าไป ก็ไม่มีทางที่จะแบกตัวอ๋องฉีออกมาได้
ตอนที่พวกเขาเร่งรุดไปถึง ไฟนั้นลามจนยากจะควบคุมได้แล้ว และกำลังลุกลามไปยังบริเวณข้างๆ
เพื่อป้องกันไม่ให้เรือนที่อยู่ข้างๆกันได้รับผลกระทบไปด้วย จำเป็นต้องดับไฟให้ได้เร็วที่สุด เขากับเจ้าสามไปช่วยเจ้าเจ็ดด้วยกัน ใช้น้ำราดไม่น้อย ที่สุดก็ทำให้ไฟที่หน้าประตูมอดลงได้ และช่วยตัวเจ้าเจ็ดออกมา
แต่สถานการณ์ตรงนี้ยังไม่คลี่คลาย ก็ได้ยินคนของจวนอ๋องซุนมารายงาน บอกว่ามีขโมยบุกเข้าจวน ได้จับตัวพระชายาฉู่และพระชายาจี้ไป อีกทั้งยังทำร้ายอะซี่จนได้รับบาดเจ็บ
เขาในตอนนั้น รู้สึกกระวนกระวายไปหมด ไม่รู้ว่าจะไปหาที่ไหน พาคนไปค้นหาในเมืองหลวงจนทั่วอย่างสะเปะสะปะและไร้ผล มีคนงานขนของที่ทำงานท่าเรือมารายงานว่า มีคนจับตัวพระชายาฉู่ลงเรือไปแล้ว เขาจึงนำคนออกตามทันที
ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเป็นหมันเอ๋อที่ให้คนงานมารายงานเขา เขาวางหยวนชิงหลิงไว้บนเตียง สายตามีแววแห้งกร้านวาบผ่าน ลูบไล้อยู่บนใบหน้าที่ขาวซีดไร้สีเลือดของนาง ปลายนิ้วยังคงสั่นเทาอย่างรุนแรง
หยวนชิงหลิงยังไม่ตื่น ตัวอ่อนปวกเปียกราวกับนกนางแอ่นที่ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บตกลงบนพื้น ไม่มีกระไอแห่งชีวิตเลย
แม่นมสี่กับแม่นมฉีต่างก็รีบเข้ามา จับตัวสวีอีถามเรื่องที่เกิดขึ้น สวีอีเล่าทั้งหมด บอกว่าพระชายาได้รับบาดเจ็บ แต่ว่าไม่ได้อันตรายถึงชีวิต ทุกคนจึงวางใจลงบ้าง
หยู่เหวินเห้าให้ทุกคนรออยู่ข้างนอก เพื่อเปลี่ยนชุดให้กับหยวนชิงหลิง ค่อยเปิดประตูออก
“สวีอี ไปเอาเหล้ามาให้ข้าถ้วยหนึ่ง”หยู่เหวินเห้าสั่งการด้วยหางเสียงที่สั่นเทา
สวีอีรู้ว่าเขาถูกทำให้ตกใจจนขวัญหนี จึงรีบไปเทเหล้ามาให้เขาหนึ่งถ้วย
ปลายนิ้วของหยู่เหวินเห้าที่ถือถ้วยเหล้านั้นซีดขาว สายตาที่หรี่ลงนั้นแฝงแววเย็นเยือก เขาเงยหน้าขึ้น ดื่มเหล้าหมดในคำเดียว จึงทำให้การหายใจค่อยๆกลับมาเป็นปกติ
“ท่านอ๋อง ท่านอย่ากังวล เมื่อครู่ตอนอยู่บนเรือ องครักษ์ลับผีก็บอกแล้วว่าพระชายาไม่เป็นอะไร ”สวีอีพูดปลอบ
ดวงตาของหยู่เหวินเห้านั้นมีความดำมืดที่มองไม่เห็นจุดสิ้นสุด พูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า “ส่งฉู่หมิงชุ่ยไปถึงไหนแล้ว ”
สวีอีพูดว่า “ได้ยินองครักษ์ลับผีบอกว่า ส่งกลับไปยังบ้านตระกูลฉู่ ”
แววตาของหยู่เหวินเห้ายิ่งทวีความเย็นชา “เจ้านำความไปบอกกับโสวฝู่ว่า นี่ไม่ใช่เรื่องในบ้าน หวังว่าโสวฝู่จะไม่จัดการด้วยตนเองโดยพลการ ”
สวีอีนิ่งอึ้ง “นี่ ท่านอ๋องหมายความว่า ”
หยู่เหวินเห้าสีหน้าไร้ความรู้สึก “กรมการพระนครรับผิดชอบรักษาความสงบในเมืองหลวง นี่เป็นคดีจงใจวางเพลิงเพื่อฆ่า เจ้าไปถ่ายทอดคำสั่งของข้าที่กรมการพระนคร ให้ผู้ช่วยเจ้ากรมนำคนไปจับตัวคนร้ายที่บ้านตระกูลฉู่ด้วยตนเอง ”
ทังหยางรีบเดินเข้ามา พูดว่า “ท่านอ๋อง ยังไงก็ให้โสวฝู่จัดการด้วยตนเองเถอะ ถ้าเรื่องนี้ไปถึงทางการ เกิดคดีใหญ่เช่นนี้ขึ้นในเมืองหลวง กรมการพระนครก็มีความผิดฐานลาดตระเวนไม่ทั่วถึง ถึงตอนนั้น แม้จะสามารถลงโทษฉู่หมิงชุ่ยได้อย่างราบรื่น แต่ท่านก็ต้องถูกถามถึงความรับผิดชอบอยู่ดี ”
หยู่เหวินเห้าสีหน้านิ่งขรึม “ข้าบกพร่องในหน้าที่จริง ถ้าเสด็จพ่อจะลงโทษ ข้าก็แค่ยอมรับโทษ เจ้ามีอะไรจะต้องกลัว”
ทังหยางพูดว่า “ท่านอ๋อง โสวฝู่ฉู่คงต้องหาวิธีลงโทษอย่างหนักแน่ และฉู่หมิงชุ่ยเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้จะไม่ได้รับการลงโทษถึงตาย แต่เกรงว่าคงจะผ่านด่านนี้ไปยากมาก ท่านไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองเข้าไปพัวพันเลย ”
หยู่เหวินเห้าเหลือบสายตาดุร้ายขึ้นมอง แววตาคมปลาบดุจแสงอาทิตย์ที่สะท้อนลงบนพื้นที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ทำให้ไม่กล้าสบตามองตรงๆ น้ำเสียงของเขาก็ไร้ความรู้สึก “ทังหยาง นางวางแผนเรื่องนี้ ไม่ให้มีพิรุธ ใช้เพลิงล่อพวกองครักษ์ลับผี จากนั้นก็ล่อคนไปที่จวนอ๋องซุนทำร้ายอะซี่ และจับตัวพระชายาไป นี่เป็นเรื่องที่นางจะกระทำคนเดียวได้หรือ นางก็แค่หญิงสาวคนหนึ่ง แต่กลับล้อเล่นกับเหล่าอ๋องทั้งหลายในราชวงศ์ราวกับลูกไก่ในกำมือ เจ้าเชื่อ ข้าไม่เชื่อ ฉู่หมิงชุ่ยมีความสามารถแค่ไหน ข้ารู้ดีแก่ใจ ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...