บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 331

ตอนที่อุ้มหยวนชิงหลิงกลับไปยังจวนอ๋องฉู่ หยู่เหวินเห้ายังคงตัวสั่นเทาไม่หยุด

เขาไม่กล้าจะคิด ถ้ามาช้าไปอีกก้าวจะเกิดอะไรขึ้น

ตอนที่เขาเห็นฉู่หมิงชุ่ยพุ่งเข้ามาบีบคอของหยวนชิงหลิงเอาไว้จากที่ไกลๆ นาทีความสิ้นหวังเกาะอยู่เต็มอกของเขา

จวนอ๋องฉีไฟไหม้ เจ้าเจ็ดติดอยู่ในกองเพลิง เพลิงโหมลุกไหม้รุนแรง และรวดเร็ว ตัดขาดเจ้าเจ็ดจากหนทางแห่งการเอาชีวิตรอด

และที่สำคัญไปกว่านั้นคือเจ้าเจ็ดได้สลบไปแล้ว เขาไม่รู้เลยสักนิดว่าเกิดไฟไหม้ขึ้น

องครักษ์ลับผีมาถึงก่อน แต่ว่าตอนนั้นไฟไหม้จนไม่สามารถคุมเพลิงได้แล้ว ด้วยความรุนแรงของเพลิงที่ปะทุขึ้น ภายในระยะห้าร้อยเมตร ยังสามารถรู้สึกได้ถึงไฟที่แผดเผา

แต่ไหนแต่ไรมาเจ้าเจ็ดเป็นคนมีรสนิยมรักงานศิลปะ สิ่งก่อสร้างในจวนส่วนมากทำมาจากไม้ ประตูทั้งบานก็ทำจากไม้เนื้อแข็งทั้งสิ้น พอเกิดไฟลุกไหม้ ก็กลายเป็นทะเลเพลิง องครักษ์ลับผีไม่มีทางเข้าใกล้ได้เลย แม้จะเสี่ยงอันตรายบุกเข้าไป ก็ไม่มีทางที่จะแบกตัวอ๋องฉีออกมาได้

ตอนที่พวกเขาเร่งรุดไปถึง ไฟนั้นลามจนยากจะควบคุมได้แล้ว และกำลังลุกลามไปยังบริเวณข้างๆ

เพื่อป้องกันไม่ให้เรือนที่อยู่ข้างๆกันได้รับผลกระทบไปด้วย จำเป็นต้องดับไฟให้ได้เร็วที่สุด เขากับเจ้าสามไปช่วยเจ้าเจ็ดด้วยกัน ใช้น้ำราดไม่น้อย ที่สุดก็ทำให้ไฟที่หน้าประตูมอดลงได้ และช่วยตัวเจ้าเจ็ดออกมา

แต่สถานการณ์ตรงนี้ยังไม่คลี่คลาย ก็ได้ยินคนของจวนอ๋องซุนมารายงาน บอกว่ามีขโมยบุกเข้าจวน ได้จับตัวพระชายาฉู่และพระชายาจี้ไป อีกทั้งยังทำร้ายอะซี่จนได้รับบาดเจ็บ

เขาในตอนนั้น รู้สึกกระวนกระวายไปหมด ไม่รู้ว่าจะไปหาที่ไหน พาคนไปค้นหาในเมืองหลวงจนทั่วอย่างสะเปะสะปะและไร้ผล มีคนงานขนของที่ทำงานท่าเรือมารายงานว่า มีคนจับตัวพระชายาฉู่ลงเรือไปแล้ว เขาจึงนำคนออกตามทันที

ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเป็นหมันเอ๋อที่ให้คนงานมารายงานเขา เขาวางหยวนชิงหลิงไว้บนเตียง สายตามีแววแห้งกร้านวาบผ่าน ลูบไล้อยู่บนใบหน้าที่ขาวซีดไร้สีเลือดของนาง ปลายนิ้วยังคงสั่นเทาอย่างรุนแรง

หยวนชิงหลิงยังไม่ตื่น ตัวอ่อนปวกเปียกราวกับนกนางแอ่นที่ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บตกลงบนพื้น ไม่มีกระไอแห่งชีวิตเลย

แม่นมสี่กับแม่นมฉีต่างก็รีบเข้ามา จับตัวสวีอีถามเรื่องที่เกิดขึ้น สวีอีเล่าทั้งหมด บอกว่าพระชายาได้รับบาดเจ็บ แต่ว่าไม่ได้อันตรายถึงชีวิต ทุกคนจึงวางใจลงบ้าง

หยู่เหวินเห้าให้ทุกคนรออยู่ข้างนอก เพื่อเปลี่ยนชุดให้กับหยวนชิงหลิง ค่อยเปิดประตูออก

“สวีอี ไปเอาเหล้ามาให้ข้าถ้วยหนึ่ง”หยู่เหวินเห้าสั่งการด้วยหางเสียงที่สั่นเทา

สวีอีรู้ว่าเขาถูกทำให้ตกใจจนขวัญหนี จึงรีบไปเทเหล้ามาให้เขาหนึ่งถ้วย

ปลายนิ้วของหยู่เหวินเห้าที่ถือถ้วยเหล้านั้นซีดขาว สายตาที่หรี่ลงนั้นแฝงแววเย็นเยือก เขาเงยหน้าขึ้น ดื่มเหล้าหมดในคำเดียว จึงทำให้การหายใจค่อยๆกลับมาเป็นปกติ

“ท่านอ๋อง ท่านอย่ากังวล เมื่อครู่ตอนอยู่บนเรือ องครักษ์ลับผีก็บอกแล้วว่าพระชายาไม่เป็นอะไร ”สวีอีพูดปลอบ

ดวงตาของหยู่เหวินเห้านั้นมีความดำมืดที่มองไม่เห็นจุดสิ้นสุด พูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า “ส่งฉู่หมิงชุ่ยไปถึงไหนแล้ว ”

สวีอีพูดว่า “ได้ยินองครักษ์ลับผีบอกว่า ส่งกลับไปยังบ้านตระกูลฉู่ ”

แววตาของหยู่เหวินเห้ายิ่งทวีความเย็นชา “เจ้านำความไปบอกกับโสวฝู่ว่า นี่ไม่ใช่เรื่องในบ้าน หวังว่าโสวฝู่จะไม่จัดการด้วยตนเองโดยพลการ ”

สวีอีนิ่งอึ้ง “นี่ ท่านอ๋องหมายความว่า ”

หยู่เหวินเห้าสีหน้าไร้ความรู้สึก “กรมการพระนครรับผิดชอบรักษาความสงบในเมืองหลวง นี่เป็นคดีจงใจวางเพลิงเพื่อฆ่า เจ้าไปถ่ายทอดคำสั่งของข้าที่กรมการพระนคร ให้ผู้ช่วยเจ้ากรมนำคนไปจับตัวคนร้ายที่บ้านตระกูลฉู่ด้วยตนเอง ”

ทังหยางรีบเดินเข้ามา พูดว่า “ท่านอ๋อง ยังไงก็ให้โสวฝู่จัดการด้วยตนเองเถอะ ถ้าเรื่องนี้ไปถึงทางการ เกิดคดีใหญ่เช่นนี้ขึ้นในเมืองหลวง กรมการพระนครก็มีความผิดฐานลาดตระเวนไม่ทั่วถึง ถึงตอนนั้น แม้จะสามารถลงโทษฉู่หมิงชุ่ยได้อย่างราบรื่น แต่ท่านก็ต้องถูกถามถึงความรับผิดชอบอยู่ดี ”

หยู่เหวินเห้าสีหน้านิ่งขรึม “ข้าบกพร่องในหน้าที่จริง ถ้าเสด็จพ่อจะลงโทษ ข้าก็แค่ยอมรับโทษ เจ้ามีอะไรจะต้องกลัว”

ทังหยางพูดว่า “ท่านอ๋อง โสวฝู่ฉู่คงต้องหาวิธีลงโทษอย่างหนักแน่ และฉู่หมิงชุ่ยเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้จะไม่ได้รับการลงโทษถึงตาย แต่เกรงว่าคงจะผ่านด่านนี้ไปยากมาก ท่านไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองเข้าไปพัวพันเลย ”

หยู่เหวินเห้าเหลือบสายตาดุร้ายขึ้นมอง แววตาคมปลาบดุจแสงอาทิตย์ที่สะท้อนลงบนพื้นที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ทำให้ไม่กล้าสบตามองตรงๆ น้ำเสียงของเขาก็ไร้ความรู้สึก “ทังหยาง นางวางแผนเรื่องนี้ ไม่ให้มีพิรุธ ใช้เพลิงล่อพวกองครักษ์ลับผี จากนั้นก็ล่อคนไปที่จวนอ๋องซุนทำร้ายอะซี่ และจับตัวพระชายาไป นี่เป็นเรื่องที่นางจะกระทำคนเดียวได้หรือ นางก็แค่หญิงสาวคนหนึ่ง แต่กลับล้อเล่นกับเหล่าอ๋องทั้งหลายในราชวงศ์ราวกับลูกไก่ในกำมือ เจ้าเชื่อ ข้าไม่เชื่อ ฉู่หมิงชุ่ยมีความสามารถแค่ไหน ข้ารู้ดีแก่ใจ ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน