เขายื่นมือออกไปกอดนางไว้ พูดเบาๆว่า “อย่าขยับ นอนนิ่งๆดีๆ สักพักก็ไม่เจ็บแล้ว”
หยวนชิงหลิงมองเข้าไปในดวงตาที่ลึกล้ำของเขา จึงนึกถึงอะซี่ขึ้นมาได้อย่างกะทันหัน รีบถามขึ้นว่า “อะซี่เล่า ”
หยู่เหวินเห้าพูดว่า “นางได้รับบาดเจ็บบริเวณท้อง แต่ว่าอาการไม่ได้รุนแรงนัก ได้ส่งกลับจวนหยวนไปแล้ว ”
“หมันเอ๋อเล่า”
หยู่เหวินเห้าส่ายหน้า “ตอนนี้ยังไม่รู้”
“ช่วยนางให้สุดกำลัง ”หยวนชิงหลิงกุมมือของเขาเอาไว้ เส้นผมกระจายเต็มหมอน ปลายผมยังมีคราบเลือดติดอยู่ “ถ้าหากไม่ใช่นาง ข้าคงตายไปนานแล้ว ”
แววตาของเขายิ่งลึกขึ้น เอ่ยเสียงแหบว่า“เจ้าวางใจ นางจะไม่เป็นไร นางเป็นคนมีวรยุทธ์ พื้นฐานดีกว่าเจ้า และได้รับบาดเจ็บในจุดที่ไม่สำคัญนัก เพียงแต่ให้แรงมากไปเท่านั้น พักแล้วก็คงไม่เป็นไร ”
หยวนชิงหลิงทิ้งหัวที่หนักอึ้งลงไป หันมามองเขา ใบหน้าขาวซีดของนางตื่นตระหนกจนมีสีเลือดจางๆผุดขึ้นเล็กน้อย “ฉู่หมิงชุ่ยเล่า ”
เขาใช้นิ้วกวาดผ่านริมฝีปากของนาง แววตาเยือกเย็น “นางฆ่าคนไปตั้งมากมาย แน่นอนว่าต้องได้รับโทษตามกฎหมาย ”
“แล้วโทษของนาง จะตัดสินอย่างไร ”หยวนชิงหลิงถาม
“ตายน่ะต้องตายแน่ แต่ต้องดูว่าตายอย่างไร ”หยู่เหวินเห้าพูดได้นุ่มนวลยิ่งนัก
หยวนชิงหลิงมองเขา “ท่านจะสอบสวนเองหรือ”
“กรมการพระนคร เป็นหน้าที่ข้าจะผลักภาระให้ผู้อื่นมิได้”
“นางกับท่าน……”หยวนชิงหลิงครุ่นคิด ไม่พูดดีกว่า
แววตาของเขายังคงเยือกเย็น “ข้ากับนางไม่มีความรู้สึกใดๆให้ต้องรำลึกแล้ว ใครจะว่าอย่างไร ก็เรื่องของเขา ปากนั้นอยู่กับผู้อื่น ข้าควบคุมไม่ได้ ”
หยวนชิงหลิงส่ายหน้า “ข้าไม่ได้กลัวว่าคนอื่นจะพูดถึงท่านว่าอย่างไร นางผิดย่อมต้องได้รับโทษ ข้าแค่เกรงว่าท่านจะไม่สบายใจเสียเอง เพราะว่า พวกท่านก็เคยคบหากันมาก่อน ”
“ข้าไปคิดถึงเรื่องเก่าๆทำไม แค่คิดเพียงนิดเดียว ก็รู้สึกผิดต่อเจ้าแล้ว ยิ่งกว่านั้นคือ ข้าไม่มีความรู้สึกอะไรตั้งนานแล้ว ”หยู่เหวินเห้ากดทับมุมผ้าห่มเอาไว้ เอ่ยเสียงอ่อนโยน “เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องสนใจ สนใจแต่ดูแลรักษาตัวเองเถอะ”
หยวนชิงหลิงขยับแขน ถอนหายใจพูดว่า “บาดแผลที่ขานั้นไม่เจ็บ แต่แขนนี่สิ ตรงที่นางกัด ยังเจ็บอยู่เลย ”
หยู่เหวินเห้ามองนางด้วยสายตาเจ็บปวด
เขาช่วยเจ็บปวดแทนนางไม่ได้ ทำได้แต่ระบายความแค้นแทนนาง
ตอนที่ส่งฉู่หมิงชุ่ยถึงบ้านนั้น ก็เหลือลมหายใจแผ่วเบาแล้ว
องครักษ์ลับผีเป็นคนส่งกลับไปเอง ได้บอกเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดต่อโสวฝู่ฉู่ โสวฝู่ฉู่ไม่พูดอะไร เพียงแค่ให้พวกเขาวางฉู่หมิงชุ่ยไว้ที่ลานบ้าน ปล่อยไปตามยถากรรม
คนอื่นๆในจวนต่างก็ไม่รู้ว่าฉู่หมิงชุ่ยไปกระทำการผิดอะไรมา ได้แต่คิดว่านางคงถูกรังแกจากจวนอ๋องฉีมา แต่ว่า ก็มีคนไม่น้อยที่รู้ว่าจวนอ๋องฉีนั้นไฟไหม้ จนไม่เหลืออะไรแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นคือมีคนคาดเดาว่านางเป็นคนวางเพลิงจนถูกทำร้ายถึงเพียงนี้
ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีใครขอร้องแทนฉู่หมิงชุ่ย
โดยเฉพาะ ฉู่หมิงหยางที่จะเป็นเจ้าสาวในวันพรุ่งนี้ เพียงแค่เดินมาดูอย่างเฉยเมย แล้วก็จากไป
ฉู่หมิงหยางนั้นหลังจากที่ท่านแม่ตายไป ก็เอาแต่ซ่อนตัวอยู่ในห้อง ตกใจจนไม่สบาย หลังจากดีขึ้นแล้ว ก็ต้องยอมรับความจริงเรื่องที่ตนต้องแต่งไปเป็นพระชายารองของอ๋องจี้โดยปริยาย
เพราะว่าจะถึงงานมงคลของฉู่หมิงหยางอยู่รอมร่อแล้ว ฉะนั้นในจวนทั้งนายและบ่าวต่างก็ยุ่งวุ่นวายในการแต่งบ้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความชื่นมื่น ฉู่หมิงชุ่ยนอนอยู่บนแคร่ไม้ที่ทำขึ้นชั่วคราวในลานบ้าน รอเวลาสิ้นใจ รอบบ้านเต็มไปด้วยสีแดงแห่งความเป็นมงคล ได้ส่องกระทบมาที่ดวงตาอันสิ้นหวังของนาง ทำให้เกิดภาพเปรียบเทียบที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ในลานบ้านนั้นหนาวเหน็บ มีคนเอาผ้าห่มมาให้ฉู่หมิงชุ่ย ถ้าไม่ผ่านการรักษามาก่อน นางคงตายไปนานแล้ว
ตอนนี้เหลือลมหายใจเฮือกสุดท้าย มากสุดก็มีชีวิตอยู่ได้อีกวันสองวัน
ฉู่หมิงชุ่ยนอนอยู่ตรงนั้น ร่างสั่นเท่า นางไม่ได้เจ็บมาก เพราะว่าองครักษ์ลับผีได้ให้นางกินน้ำจื่อจินแล้ว น้ำจื่อจินสามารถรักษาชีวิตนางเอาไว้ได้ชั่วขณะ
สงบเรียบร้อย มุมปากของหยู่เหวินเห้ามีรอยยิ้มเยาะผุดขึ้น
ไต่สวนฉู่หมิงชุ่ย แม้ว่าจะได้ความอย่างไรก็ตาม ก็คงไม่มีหลักฐานอะไรที่แน่ชัด
แต่เขาจะใช้ปากคำในการถวายรายงาน
คืนนี้ มีคนหลายคนที่นอนไม่หลับ
คนตระกูลหยวนนั้นมีความโมโหอยู่เต็มอก หากไม่ใช่เพราะเกรงว่าจะทำอ๋องฉู่เสียเรื่อง ฮูหยินแก่ตระกูลหยวนคงไปคิดบัญชีกับตระกูลฉู่นานแล้ว
อาการบาดเจ็บของอะซี่นั้นค่อนข้างร้ายแรง เสียเลือดไปมาก แม้ว่าคนจะได้สติตื่นมาแล้ว แต่ว่าก็อ่อนแอมาก อย่างน้อยคงต้องพักรักษากว่าครึ่งเดือน
ฮูหยินเฒ่าตระกูลหยวนเจ็บใจที่หลานสาวเกือบเอาชีวิตไม่รอด แล้วก็ยังเจ็บใจแทนหลานสาวกับหลานเขยที่เกือบจะถูกเผาตาย คืนนี้แม้แต่ข้าวก็ไม่ยอมกิน ให้คนในตระกูลหยวนทั้งหมดเขียนหนังสือฎีกา
จวนอ๋องฉีถูกไฟไหม้ไปแล้ว
อ๋องฉี๋ไร้ที่พำนัก ต้องอยู่ในจวนอ๋องซุนเป็นการชั่วคราว ขาของเขาได้รับบาดเจ็บการจากถูกไฟลวก ส่วนอื่นๆก็ไม่มีปัญหาอะไร
แต่ว่าบ่าวรับใช้ในจวนอ๋องฉีที่ตายจากเหตุการณ์ไฟไหม้ในครั้งนี้มีทั้งหมดหกคน บ่าวรับใช้ที่คอยดูแลเขาทั้งสองคนก็ตายอยู่ในกองไฟด้วย
เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เล็ก ออกมาจากวังพร้อมกัน ความผูกพันแน่นแฟ้น อ๋องฉีเห็นร่างไร้วิญญาณของพวกเขาแล้ว อดไม่ได้ที่จะตาแดงก่ำ
แต่ว่า เขาไม่ได้พูดอะไร หยวนหย่งอี้อยู่เป็นเพื่อนเขาที่จวนอ๋องซุน
ตั้งแต่พระชายาซุนถูกทำให้ตกใจจนอกสั่นขวัญแขวน จนกระทั่งบัดนี้ก็ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว แต่นางยังคงรู้สึกว่าหัวใจของนางยังคงเต้นไม่เป็นจังหวะ นิดๆหน่อยๆก็รู้สึกวุ่นวายใจ
ถ้าหากครั้งนี้เป็นการฆ่าไม่เลือกหน้า และคนที่อยู่ในจวนเป็นเหล่าองค์หญิงกับท่านอ๋อง บวกกับหยวนชิงหลิงที่ถูกจับตัวไป ทุกคนต่างมีสถานะสูงส่ง นางไม่กล้าคิดเลยว่าผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไร
อ๋องซุนแต่ไหนแต่ไรแม้ฟ้าจะถล่มก็ไม่เคยมีวันไหนที่ไม่กินข้าวมาก่อน แต่วันนี้เป็นวันเกิดเขา เขากลับกินอะไรไม่ลงเลย ยังคงนั่งอยู่หน้าระเบียง สอดมือไว้ในแขนเสื้อ นิ่งเหม่อลอยอยู่ตรงนั้น ทุกคนต่างรู้ว่าเขาขวัญเสียอย่างมาก ซึ่งอันที่จริงแล้ว เขาก็ตกใจจนขวัญเสียจริงๆ ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไร ก็คงคิดไม่ถึงว่าฉู่หมิงชุ่ยคนเดียวจะสามารถก่อเรื่องใหญ่โตได้เช่นนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...