บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 337

พระชายาจี้รับไม่ได้กับท่าทีของนางเช่นนี้ “เจ้ารู้หรือไม่ ว่าเจ้าเกือบตายคามือนางแล้ว หรือเจ้าคิดว่าเจ้าไม่สมควรจะถามให้ละเอียด ชีวิตเป็นของเจ้า เจ้ารู้แล้ว ก็ยังสามารถป้องกันตัวเองได้ ”

หยวนชิงหลิงฉีดยาให้นาง ไม่ได้เหลือบตาขึ้นมอง “ข้าเชื่อเจ้าห้า คดีนี้เขาเป็นคนสอบสวน เขาย่อมรู้ดีแก่ใจว่าอะไรเป็นอะไร ”

“เชื่อบุรุษหรือ ”พระชายาจี้ทำเสียงขึ้นจมูก “ตอนนี้เขาดีกับเจ้า แต่ภายหน้าเล่า ตอนที่พวกเจ้ามีอันตรายเล่า เจ้ากล้าแน่ใจหรือว่าเขาจะยืดอกออกมาช่วยเหลือเจ้า เจ้าอย่าไร้เดียงสาไปหน่อยเลย บนโลกนี้สิ่งที่ไม่น่าเชื่อถือมากที่สุดก็คือผู้ชาย ”

หยู่เหวินเห้าเดินออกมาพอดี ได้ยินคำนี้เข้า ก็ก้าวเท้าเข้ามา “พี่สะใภ้ใหญ่ ใต้หล้านี้คนที่กระทำผิดไม่ได้มีแต่บุรุษเสียหน่อย”

พระชายาจี้คิดไม่ถึงว่าเขาก็อยู่ด้วย ปกติแล้วนางติดนิสัยชอบทำตัวเป็นคนดีต่อหน้าผู้อื่น ไม่พูดจาให้ร้ายใคร แต่พอรู้จักหยวนชิงหลิงนานเข้า จึงได้พูดคำเหล่านี้ออกไปจากใจจริง คิดไม่ถึงว่าหยู่เหวินเห้าจะได้ยิน ชั่วขณะนั้น สีหน้าละอายใจ แต่ก็พูดเสียงดุออกไปว่า “หญิงทำชั่วนั้นเพราะถูกบีบบังคับทั้งสิ้น ”

หยู่เหวินเห้านั่งลง ดวงตาที่ชุ่มฉ่ำของเขามีแววเยาะเย้ยอยู่หลายส่วน “ถูกบีบบังคับ ถ้ามีจิตใจทะเยอทะยานก็เรียกว่าบีบบังคับหรือ เช่นนั้นก็มีเรื่องบีบบังคับเยอะมากสินะ”

พระชายาจี้เงยหน้าขึ้นทันที “เจ้าว่าข้าหรือ”

“พี่สะใภ้ใหญ่จะร้อนตัวไปไย”

พระชายาจี้มองเขา สีหน้าซีดเซียวของนางมีแววขมขื่น “ตอนนี้ข้าต้องขอความช่วยเหลือจากพวกเจ้า พวกเจ้าอยากจะพูดอะไรก็พูดเถอะ วันนี้ที่ข้าเตือนนาง ก็เพราะความหวังดี วางใจได้ วันหลังข้าจะไม่ใจดีเช่นนี้อีก”

หยู่เหวินเห้าเอ่ยอย่างสงบว่า “ถ้าเป็นความหวังดี ข้าก็ขอบคุณแทนยายหยวนด้วย แต่ว่า ข้าไม่อยากได้ยินคำพูดที่ยุยงและทำลายความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาของพวกเรา จำพวกที่ว่าบุรุษนั้นเชื่อไม่ได้ เท่ากับปลาเน่าตัวเดียวเหม็นไปทั้งข้อง”

“ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นซะหน่อย”พระชายาจี้ตระหนกอยู่บ้าง

หยวนชิงหลิงดุเบาๆว่า “พอแล้ว หุบปากทุกคนเลย”

นางเงยหน้าขึ้นมองพระชายาจี้แวบหนึ่ง “ระหว่างสามีภรรยา หากสามารถปฏิบัติต่อกันด้วยใจจริง ต่างก็เชื่อใจกัน ก็คือความสุขอย่างหนึ่ง ไม่ใช่หรือ”

พระชายาจี้เอ่ยอย่างไม่ค่อยพอใจว่า “แน่นอน แต่ว่าก็คงไม่ใช่ทุกคนที่เป็นเช่นนี้ ”

“ เขาสามารถทำเพื่อข้าได้แค่ไหน ข้ารู้ดีแก่ใจ”

“แต่ใครเล่าจะรู้ ว่าข้างในมีกี่ส่วนที่จริงกี่ส่วนที่เท็จ”นางมองหยู่เหวินเห้า พูดว่า “เจ้าห้าเจ้าอย่าเข้าใจผิด ข้าไม่ได้ว่าเจ้า ข้าแค่รู้สึกว่า ไม่มีใครที่ปฏิบัติต่อกันด้วยใจจริงจนสามารถเชื่อใจอีกคนได้อย่างสนิทใจ นี่มันอันตรายต่อตัวเองมากเกินไป ไม่ว่าข้าจะยอมรับหรือไม่ พระชายาฉู่คือคนที่ข้าคิดว่าดีที่สุดเท่าที่เคยพบเจอมา บางที ข้าก็ทำร้ายนางไม่ลงจริงๆ ”

หยวนชิงหลิงรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง ไม่คิดว่าพระชายาจี้จะพูดคำนี้ออกมา

นางหันกลับไปมองหยู่เหวินเห้าแวบหนึ่ง ใบหน้าของหยู่เหวินเห้าเกือบจะอยู่ในสภาวะแข็งทื่อ ประหลาดใจอย่างที่สุด

พระชายาจี้รู้สึกอายจนกลายเป็นความโมโห “พวกเจ้าไม่ชอบฟังก็ช่างเถอะ ไม่พูดแล้ว ”

หยวนชิงหลิงให้น้ำเกลือนาง และพูดว่า “ไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องขอบคุณความหวังดีของท่าน ”

ใบหน้าเฉยชาของพระชายาจี้ มีเพียงดวงตาที่ไหววูบ

ผ่านไปสองวัน อากาศยิ่งทวีความหนาวเย็นมากขึ้น

ตื่นขึ้นมาเปิดหน้าต่างออกแต่เช้า ก็เห็นว่าด้านนอกเต็มไปด้วยหิมะ ที่สะท้อนแสง

แม่นมสี่ผลักประตูเข้ามา ก็มีลมเย็นๆพัดโชยเข้ามา นางสลัดหิมะบนไหล่ทิ้ง พูดว่า “ท่านอ๋อง ท่านโสวฝู่มา”

ตั้งแต่เกิดคดีขึ้น ตระกูลฉู่ไม่เคยถามไถ่อะไรเลย หยู่เหวินเห้าก็ได้แต่เขียนสรุปคดี ถวายให้กับฮ่องเต้หมิงหยวน นับว่าสิ้นสุดไปอีกหนึ่งคดี

เขานึกว่าโสวฝู่จะไม่ถามเสียแล้ว คิดไม่ถึงว่า วันนี้จะมาถึงที่

“เจ้าพาไปรอที่ห้องหนังสือสักครู่ ข้าจะตามไปทันที ”หยู่เหวินเห้าพูด

หยู่เหวินเห้าไม่ปิดบัง พูดออกไปว่า “สารภาพแล้ว บอกว่าเรื่องทั้งหมดโสวฝู่เป็นคนบงการ”

โสวฝู่ฉู่สีหน้ายังคงไม่เปลี่ยนไป แต่แม่นมสี่กลับตะลึง มองไปยังหยู่เหวินเห้าเขม็ง “นางพูดเช่นนี้หรือ”

หยู่เหวินเห้าพูดว่า “ถูกต้อง ผู้ช่วยเจ้ากรมก็จดบันทึกอยู่ข้างๆด้วย”

“แต่ว่าข้าไม่ได้เห็นคำให้การฉบับนี้ ”โสวฝู่ฉู่พูดเสียงเรียบ

“ข้าได้ให้ผู้ช่วยเจ้ากรมฉีกมันทิ้งแล้ว ”หยู่เหวินเห้าพูด

โสวฝู่ฉู่มองเขา เอ่ยอย่างให้ความสนใจว่า “เพราะอะไร”

หยู่เหวินเห้าพูดว่า “คำให้การไม่เป็นจริง”

โสวฝู่ฉู่ถามขึ้นว่า “ท่านอ๋องใช้อะไรตัดสินว่าคำให้การนั้นไม่เป็นความจริง พิจารณาจากสันดานหรือ ข้าแทบจะไม่ใช่คนดีอะไรเลย”

หยู่เหวินเห้าไม่พอใจและถามกลับอย่างเยาะเย้ยว่า “ท่านโสวฝู่รู้ดีแก่ใจ แต่ว่า นี่ไม่เกี่ยวกับสันดาน คำให้การของนางมีข้อพิรุธน่าสงสัย ข้าไม่ปักใจเชื่อ มาจากพื้นฐานประสบการณ์ในการตัดสินคดีความ ไม่เกี่ยวกับเรื่องอื่น ”

โสวฝู่ฉู่พยักหน้า “ท่านพูดเช่นนี้ แม้จะไม่เพียงพอที่จะทำให้คนอื่นเชื่อได้ แต่ว่า ในมุมมองของข้า มันดีสำหรับข้า นอกจากชี้ความผิดมาที่ข้าแล้ว นางไม่พูดเรื่องอื่นหรือ”

หยู่เหวินเห้าส่ายหน้า “เรื่องเกี่ยวกับคดี นางพูดแค่นี้”

“ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ท่านอ๋องไม่มีเบาะแสสักนิดเลยหรือ ”

ใบหน้าหล่อเหลาของหยู่เหวินเห้ามีแววครุ่นคิดวาบผ่าน “ก็ไม่เชิง เบาะแสนั้นพอจะมี แต่ไม่มีหลักฐาน ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน