บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 415

เสียนเฟยรู้ตัวว่าตนพูดไม่เหมาะสม จึงรีบหุบปาก แต่ความยินดีคือความจริง ความกังวลก็คือความจริง

หากแฝดสามสามารถมีชีวิตรอด เท่ากับมีบุญวาสนาอย่างมาก

แต่หากมีคนสองคนไม่รอด หากค่อนข้างสาหัสหน่อย….งั้นตอนนี้ยินดีแค่ไหน ต่อไปก็จะต้องเป็นกังวลขนาดนั้น

ไทเฮาดึงรั้งพวกเขาทั้งสองสามีภรรยาทานอาหารแล้วค่อยกลับ ในฐานะที่เคยคลอดลูกและเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างมีอำนาจ นางเล่าประสบการณ์ของตนเองให้หยวนชิงหลิงฟังอย่างไม่ปกปิด แต่ประสบการณ์ของนางนั้นยังคงไม่เพียงพอ เพราะถึงแม้นางจะเคยคลอดลูกแล้วหลายคน กลับล้วนเป็นการคลอดทีละคน

ไทเฮาแสดงถึงการให้ความสำคัญอย่างมาก

เริ่มตั้งแต่หยวนชิงหลิงออกจากวังกลับมาถึงจวน ตลอดทางมีทหารรักษาพระองค์ตามส่งอย่างมิดชิด เมื่อกลับมาถึงจวนแล้ว ยังเหลือคนไว้อีกแปดคน คนทั้งแปดคนนี้รับผิดชอบปกป้องคุ้มกันหยวนชิงหลิงเข้าออก เมื่ออยู่ในจวนก็รับผิดชอบตรวจลาดตระเวน

ไทเฮายังตามฮ่องเต้หมิงหยวนมา สั่งอย่างเด็ดขาดว่าห้ามไม่ให้กระทำให้อ๋องฉู่ทั้งสองสามีภรรยาต้องทุกข์ใจ หากเพราะการกระทำของเขาส่งผลทำให้พระชายาอ๋องฉู่ไม่สบายใจเพียงนิด ไทเฮาก็จะตายให้เขาดู

ลูกของพระชายาอ๋องเว่ย ลูกของรองพระชายาจี้ ข้ารอคอยอย่างมีความหวัง สุดท้ายกลับกลายเป็นเรื่องเศร้า นางรับเรื่องร้ายๆต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว

โดยเฉพาะแฝดสามของหยวนชิงหลิง นางคิดว่านี่เป็นบุญวาสนาที่สวรรค์ประทาน จะปล่อยให้การกระทำของคนที่สะเพร่าจนทำให้กลายเป็นเรื่องเศร้า

ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดปลอบเสด็จย่าว่า “ลูกเคยกระทำให้พวกเขาลำบากใจตั้งแต่เมื่อไหร่? สำหรับพระชายาอ๋องฉู่ ข้าให้ความเอ็นดูมาตลอด”

เสด็จย่าถลึงตาขึ้น พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ทำให้พระชายาอ๋องฉู่ลำบากใจ แต่ทำให้เจ้าห้าลำบากใจใช่ไหม? พระชายาอ๋องฉู่จะไม่เป็นห่วงสามีของตนหรือ? เมื่อเป็นห่วงสามีอารมณ์จิตใจก็จะไม่ดี

เมื่ออารมณ์ไม่ดีก็จะทานไม่ลง เจ้าเว้นวันโบยคนอื่น ต่อให้ก้นเป็นเหล็กก็ทนรับไม่ไหว เรื่องใหญ่ขนาดไหนเชียว? โตกันขนาดนี้แล้ว? ทำไมถึงไม่ยอมให้กับลูกของตนเองบ้าง” ที่ผ่านมาเสด็จย่าไม่เคยพูดเช่นนี้กับฮ่องเต้

หลังจากที่ลูกชายเป็นฮ่องเต้แล้ว ก็ไม่ใช่แค่ลูกชายแล้ว ยังเป็นฮ่องเต้ ไม่ว่าจะต่อหน้าคนลับหลังคนล้วนต้องมีความน่าเกรงขาม เป็นไทเฮา ก็ต้องสนับสนุนความน่าเกรงขามนี้ของลูก

ดังนั้น หากไม่ใช่เรื่องที่เกินกว่าเหตุ ไทเฮาก็จะปล่อยไป

แต่บ่อยครั้งที่ลงมือกับเจ้าห้า หากเป็นเมื่อก่อน ก็ให้เจ้าห้าอดทนหน่อย แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว นางก็เป็นผู้หญิง ตั้งแต่วันที่อภิเษกกับไท่ซ่างหวง ทุกอย่างก็คิดถึงแต่พระสวามีของตน ต่อให้เขาแค่เวียนหัวปวดหัว นางก็จะรู้สึกอยู่ไม่เป็นสุขนอนไม่หลับ

เจ้าห้าถูกโบยงั้นคนที่เป็นภรรยาจะไม่สงสารเป็นห่วงหรือ? ดูพระชายาอ๋องฉู่เหมือนจะผอมลงไปบ้าง จะต้องเป็นกังวลแล้วก็ทานข้าวไม่ลงเป็นแน่ จนทำให้หิวจนผอมหมดแล้ว

อีกอย่าง ให้นางกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่ในเวลาแบบนี้ ไม่รู้ว่าในใจจะเป็นกังวลคิดอะไรอยู่บ้าง วันวันใช้ชีวิตอยู่อย่างเป็นกังวลเช่นนี้ ครรภ์นี้จะยังปลอดภัยได้หรือ?

ดังนั้น เสด็จย่าจึงจะต้องระงับความชั่วร้ายพวกนี้ตั้งแต่ต้นต่อ

ตอนนี้คนที่สามารถทำให้สองสามีภรรยาลำบากใจได้ ก็มีเพียงฮ่องเต้

ในที่ลับพวกนั้น ไม่รู้จะป้องกันได้ยังไง ดังนั้นจึงสั่งคนให้ไปเฝ้าไว้

ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดอธิบายว่า “ตอนที่โบย ก็ไม่รู้ว่านางตั้งครรภ์เป็นแฝดสามนี่”

เสด็จย่าพูดขึ้นอย่างโกรธจัดว่า “ยังไง? ตอนนี้หลานของเจ้ามีเยอะแล้วใช่ไหม? ไม่เห็นค่าครรภ์ที่มีคนเดียวใช่ไหม?”

ฮ่องเต้หมิงหยวนเห็นเสด็จย่าหวั่นใจขนาดนี้ จึงรีบพูดปลอบว่า “ลูกไม่กล้า ท่านวางใจ ต่อไปลูกจะไม่ทำให้พวกเขาลำบากใจอย่างไม่มีเหตุผล จนกว่าหลานคนสำคัญของท่านจะคลอดออกมาอย่างปลอดภัย?”

เขานวดกรามตนเอง ตั้งแต่รู้เรื่องนี้ ก็หัวเราะจนปวดกรามไปหมด

ฮ่องเต้หมิงหยวนยังคงไม่ชอบหน้าเจ้าห้า เพราะยังไงเจ้านี่ก็ดื้อไม่เชื่อฟัง

ให้หยวนชิงหลิงกลับไปอยู่บ้าน ไม่ใช่เป็นการสั่งสอนหยวนชิงหลิง แต่เป็นเขา แน่นอนวันนั้นที่หยวนชิงหลิงปฏิเสธขนาดนั้นก็ควรที่จะถูกสั่งสอน

สองสามีภรรยานี้ เหมือนคอสวมปลอกเหล็กไว้ ดื้อรั้นอย่างไม่ยอมประนีประนอม สั่งสอนอย่างเหมาะสม ให้พวกเขารู้ว่า บางครั้งก็ยังต้องก้มหัวให้กับพลังชั่วร้าย

สุดท้ายเป็นเขาที่ยอมก้มหัวให้กับแฝดสาม จะเห็นได้ว่าไม่มีสิ่งใดที่เด็กจะแก้ไม่ได้ในโลกนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน