บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 453

หลังจากที่เสียนเฟยถูกส่งกลับวังไป นางก็เอาแค่กังวลใจไม่หยุด

เป็นเพราะไทเฮาทรงทราบข่าว เรื่องที่พระชายาฉู่ได้รับบาดเจ็บจนกระทบกระเทือนครรภ์ พระนางจึงเป็นลมไปถึงสองครั้ง หากมีอะไรเกิดขึ้นกับไทเฮา ตระกูลซูจะทำอย่างไร? ตระกูลซูในตอนนี้ ล้วนต้องพึ่งพาการสนับสนุนจากไทเฮาทั้งสิ้น

นางนึกย้อนไปถึงคำพูดที่เจ้าห้าพูดมา จึงรู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่ง หยวนชิงหลิงคนนี้รู้วิชาไสยเวทย์มนตร์ดำหรืออย่างไรกัน ? ถึงได้ทำให้เจ้าห้าเป็นไปได้ขนาดนี้ ถึงกับพูดออกมาจากปากตัวเองว่า หากถึงช่วงเวลาวิกฤต เขาจะเลือกรักษาชีวิตหยวนชิงหลิงไว้โดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

เขาไม่คิดถึงอนาคตของตัวเองแล้วหรือ ? ไม่ได้ จะให้หยวนชิงหลิงอยู่ข้างกายเขาต่อไปอีกไม่ได้ ไม่อย่างนั้น หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เจ้าห้าก็จะไม่หลงเหลือจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ แล้วกลายเป็นแค่คนขี้ขลาดอย่างสมบูรณ์

นางต้องคิดหาวิธีการอะไรสักอย่าง

เพียงชั่วพริบตาก็ล่วงเช้าสู่ต้นเดือนเมษายน หยวนชิงหลิงได้รับบาดเจ็บจนถึงรากฐาน การพักฟื้นในช่วงนี้ จึงไม่แสดงให้เห็นผลลัพธ์มากมายอะไรนัก ยังคงต้องนอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียงเหมือนเดิม

ทุกคนต่างก็คิดว่าประมาณปลายเดือนมีนาคม หยวนชิงหลิงก็คงจะคลอดแล้ว แต่คาดไม่ถึงว่า จนถึงต้นเดือนเมษายนก็ยังไม่เห็นการเคลื่อนไหวใด ๆ เลย นี่ถือเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจอย่างยิ่ง

หากนับดูดี ๆ นี่ก็ครบเก้าเดือนเต็ม ๆ แล้ว

ไม่รู้ว่าราชวงศ์เป่ยถังปีนี้ได้ก่อเวรสร้างกรรมกับใคร หรือมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ไทเฮาทรงประชวรหนัก แม้แต่ไท่ซ่างหวงก็ทรงประชวรด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

เรื่องนี้ดูเหมือนจะเป็นสิ่งยืนยันถึงข่าวลือที่ประชาชนเล่าลือกัน จนมันแพร่สะพัดไปทั่วจริง ๆ ว่าฮ่องเต้นั้นไร้ศีลธรรม จึงทำให้ราชวงศ์มีปัญหาต่อเนื่องไม่หยุดเช่นนี้

ฮ่องเต้หมิงหยวนทรงวิตกกังวลมาก เริ่มรู้สึกไร้เรี่ยวแรงกำลังขึ้นมาบ้างแล้ว ไม่ว่าพระองค์จะยอมรับหรือไม่ พระองค์ก็เป็นคนที่มีอายุอานามปาเข้าไปถึงสี่สิบกว่า ๆ แล้ว พระองค์รู้ตัวดีว่า ตำแหน่งผู้สืบทอดบัลลังก์นี้ ย่อมไม่อาจถูกทิ้งไว้ให้ว่างเปล่าได้

ภายในห้องหนังสือของจวนอ๋องอาน

อะหลูจุดธูปพลางยกยิ้ม แล้วพูดขึ้นว่า “ตอนนี้ท่านอ๋องคงรู้สึกวางใจไปได้แล้วกระมัง ? พระชายาฉู่ตกอยู่ในสภาพร่อแร่เช่นนี้ เกรงว่าคงจะไม่มีแรงเหลือมากพอที่จะคลอดลูกได้ไหวอีกต่อไปแล้วล่ะ”

อ๋องอานหลับตา แต่กลับยังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่

เมื่อเห็นเช่นนั้น อะหลู่ก็เข้ามาถามว่า “ท่านอ๋องยังมีเรื่องอะไรที่ไม่วางใจอีกอย่างนั้นหรือ?”

อ๋องอานลืมตาขึ้นมา ปรายตามองอะหลู่ด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าว่า เจ้าอาวาสวัดฮู่กว๋อไปพักอยู่ที่จวนอ๋องฉู่ตั้งแต่เนิ่นๆนั่น จะมีเหตุผลง่าย ๆ แค่ไปสวดอธิษฐานขอพรเท่านั้นจริง ๆ น่ะหรือ?”

อะหลู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “หลวงพ่อคนหนึ่ง ถ้าไม่สวดมนต์อธิษฐาน จะทำอะไรได้ล่ะ?”

อ๋องอานส่ายหน้าช้า ๆ "น่ากลัวว่าจะไม่ใช่แค่นั้น เจ้าคงยังจำได้ว่าเซียวเหยากงมีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับเขา เขายังเคยให้สัตว์วิญญาณและยาวิเศษมากมายแก่เซียวเหยากงด้วย ไม่ใช่ว่าเขารู้ศาสตร์การแพทย์หรอกหรือ?"

“สถานการณ์ตอนนี้ของพระชายาฉู่ ไม่ใช่เรื่องที่คนรู้ศาสตร์การแพทย์แค่คนสองคน จะสามารถแก้ไขคลี่คลายลงไปได้โดยง่าย ท่านอ๋องคิดมากเกินไปแล้ว” อะหลู่พูด

อ๋องอานโบกมือ “ไม่ เมื่อก่อนเป็นเพราะพวกเราประมาทเกินไป ประเมินพระชายาฉู่ต่ำไป ตอนนี้เราต้องไม่ดูถูกคนอื่นอีก ต้องไม่ให้เกิดความผิดพลาดได้แม้แต่น้อย แต่ไหนแต่ไรมา เจ้าห้าไม่ค่อยเชื่อเรื่องพระเรื่องเซียนมาก่อน แต่มาตอนนี้กลับนิมนต์เชิญเจ้าอาวาสไปพักแรมอยู่ที่จวนเสียแต่เนิ่น ๆ ข้ารู้สึกว่ามันมีอะไรแปลก ๆ”

อะหลู่พูดว่า “ธรรมะนี้ไม่มีขอบเขต หรือบางทีอาจมีผลดีอันน่าทึ่งจริง ๆ แต่ตอนนี้เขาอยู่ในจวนอ๋องฉู่เรียบร้อยแล้ว คนธรรมดาก็ไม่สามารถไปบอกให้เขาออกไปได้ อีกทั้งหากว่าเขานำยามาด้วย ต่อให้ตัวเขาจากไป แต่ยายังอยู่ที่นั่น สุดท้ายมันก็สามารถใช้ช่วยพระชายาฉู่ได้อยู่ดี”

อ๋องอานกลับส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ถ้าเป็นแค่การส่งยา สั่งให้คนอื่นไปก็ย่อมได้ ทำไมถึงจะต้องให้เขาออกจากวัดฮู่กว๋อไปจวนอ๋องฉู่เสียแต่เนิ่น ๆ ด้วย ? จะเห็นได้ว่ามันไม่ใช่เหตุผลง่าย ๆ อย่างแค่การส่งยาเท่านั้นแน่ มันต้องมีบางอย่างผิดปกติ"

อ๋องอานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็พูดขึ้นอีกครั้งว่า: “ตอนนี้จะชนะหรือแพ้ ก็อยู่ที่การโจมตีครั้งนี้แล้ว จะปล่อยให้พวกนั้นโชคดีมีโอกาสรอดไปอีกไม่ได้เป็นอันขาด อะหลู่ สั่งให้คนไปเชิญพระชายามาซิ”

อะหลู่พูดด้วยเสียงแผ่วเบา: "ท่านอ๋อง สิ่งที่พระชายาทำได้ อะหลู่ก็ทำได้เช่นกัน"

แววตาของอ๋องอานสาดประกายวาบ สีหน้าปรากฏแววไม่พอใจ “อะหลู่ จำสถานะของตัวเองให้ดี เจ้าเป็นแค่ที่ปรึกษาในจวน เจ้ากับพระชายาต่างก็มีหน้าที่ของตัวเอง สิ่งที่เจ้าทำได้ พระชายาทำไม่ได้ แต่สิ่งที่พระชายาทำได้ เจ้าทำไม่ได้ ยังมีอีก หากอยู่ต่อหน้าพระชายา ไม่ต้องพูดอะไรให้มาก ยิ่งไม่อาจให้นางรู้เรื่องแผนการที่พวกเราวางเอาไว้ได้อย่างเด็ดขาด”

อะหลู่หลุบสายตาที่ทอประกายโดดเดี่ยวอ้างว้างลง ยกยิ้มอย่างขมขื่น “ท่านอ๋องปกป้องนางถึงเพียงนี้เลยเชียวหรือ?”

แววตาของอ๋องอานเริ่มสาดประกายความไม่พอใจมากขึ้นเรื่อย ๆ “เจ้าอยากทำให้ข้าโกรธใช่หรือไม่?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน