ไทเฮาที่ทรงประชวรอยู่ได้ฟังคำแนะนำของเสียนเฟย ก็พยายามฝืนตัวเองสั่งให้คนไปทูลเชิญฮ่องเต้หมิงหยวน เสนอเรื่องจัดพิธีบูชาสวรรค์
ฮ่องเต้หมิงหยวนในยามนี้ จะไปมีแก่ใจจัดพิธีบูชาสวรรค์เสียที่ไหนกันล่ะ? แต่เพราะเสด็จย่าทรงคิดว่าเป็นเพราะปีที่แล้ว ไม่ได้จัดงานพิธีให้ใหญ่โตสมฐานะ จึงส่งผลให้เกิดภัยพิบัติจากสรวงสวรรค์
ฮ่องเต้หมิงหยวนเกรงว่า ความคิดอันฟุ้งซ่านจะทำร้ายร่างกายของนางให้ยิ่งอ่อนแอ ดังนั้นจึงต้องตกลง
เพียงแต่พิธีบูชาสวรรค์นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ อย่างการแค่ออกไปร้องตะโกนแซ่ซ้องสองสามประโยค ก็จะสามารถทำได้สำเร็จเสร็จสิ้น
ฮองเฮาทรงมีพระราชเสาวนีย์เชิญให้ท่านเจ้าอาวาสเข้าวัง เพื่อมาหารือกับกรมพิธีการเกี่ยวกับพิธีบูชาสวรรค์
ก่อนที่เจ้าอาวาสจะเข้าวัง เขาได้ย้ำกับหยู่เหวินเห้าหลายต่อหลายครั้งว่า หากพระชายาแสดงสัญญาณว่าจะคลอด ต้องรีบแจ้งเขาทันที
ก่อนหน้านี้หยวนชิงหลิงพูดกับหยู๋เหวินเห้าไว้ว่า ขอให้รั้งตัวท่านเจ้าอาวาสให้ท่านสวดมนต์ แต่เพราะหยู่เหวินเห้าได้ยินว่าจะจัดพิธีบูชาสวรรค์ จึงไม่ได้ขัดขวาง ระหว่างให้ท่านมาสวดมนต์ขอพรในจวน กับให้ท่านไปสวดบูชาสวรรค์ อย่างหลังดูจะมีอานิสงที่ยิ่งใหญ่กว่า บางทีมันอาจส่งผลที่ดีกว่าหน่อยก็เป็นได้
เขาบอกกับหยวนชิงหลิงแค่ว่า จะมีการจัดพิธีสวดภาวนาบูชาสวรรค์เพื่อขอพรให้นาง แต่ไม่ได้บอกเรื่องที่ท่านเจ้าอาวาสจะต้องออกไป
ผู้คนในเมืองหลวง ต่างก็ให้การสนับสนุนพิธีบูชาสวรรค์นี้เช่นกัน ความวุ่นวายกาหลที่เกิดในเมืองหลวงทุกวันนี้ เป็นเรื่องที่สร้างความรำคาญใจให้กับผู้คนมากเหลือเกินแล้วจริง ๆ การสวดอ้อนวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนท้องฟ้า เพื่อขอให้ความสงบสุขของเป่ยถังฟื้นฟูกลับมาเหมือนแต่ก่อน จึงเป็นความคิดที่ดีมาก
พิธีจะจัดขึ้นในวันที่แปดเมษายน แปดเมษายน เป็นวันประสูติของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นวันประสูติของพระอมิตาภพุทธะ
เมื่อสองสามวันก่อนมีฝนตกต่อเนื่องไม่หยุด แต่มาถึงวันนี้ จู่ ๆ ท้องฟ้าก็สว่างขึ้นและดวงอาทิตย์ในฤดูใบไม้ผลิก็ส่องแสง ขจัดความหนาวเย็นและไอความชื้น ทำให้ผู้คนรู้สึกกระชุ่มกระชวย
ในเช้าวันที่แปดเมษายน หยวนชิงหลิงรู้สึกปวดท้องเล็กน้อย อีกทั้งอาการปวดหลังก็แย่ลงอย่างเห็นได้ชัด
นางคิดว่าบางที อาจจะเป็นวันนี้แล้ว
แม้ว่าหลังจากพักฟื้นหลายวัน ร่างกายของนางจะดีขึ้นบ้างเล็กน้อย แต่รากฐานของนางยังคงอ่อนแอเกินไป หมอหลวงเฉาเคยพูดไว้ว่า เขากลัวว่าเมื่อถึงตอนคลอดจริง ๆ นางจะไม่มีแรงมากพอ
“เจ้าห้า!” หยวนชิงหลิงพยุงเอวแล้วค่อยๆ หันกลับมามองหยู่เหวินเห้า “ข้ารู้สึกปวดท้องนิดๆ บางทีวันนี้อาจจะคลอดแล้วก็เป็นได้”
ใบหน้าของหยู่เหวินเห้าซีดขาว มือสั่นระริกไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงออกแรงจับมือนางไว้จนแน่น "จะคลอดแล้ว? สวรรค์ จะคลอดแล้ว จริง ๆ น่ะหรือ? เจ้าแน่ใจนะ?"
หยวนชิงหลิงพยักหน้าตอบรับเบา ๆ หายใจเข้าออกเพื่อสัมผัสถึงการเคลื่อนไหวในท้อง
หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นมาทันที “แล้วตอนนี้ พวกเราต้องทำอะไรบ้างล่ะ?”
แม้ว่าจะจำลองเหตุการณ์เอาไว้ในหัวหลายครั้งแล้ว แต่ชั่วเวลานี้ พอได้ยินหยวนชิงหลิงพูดว่าจะคลอด เขาก็ยังคงตื่นตระหนกจนมือเท้าอ่อนแรงอยู่ดี
“ไปทำความสะอาดห้องผ่าตัดให้ข้าอีกครั้ง ข้าจะรอให้มีการหดตัวที่ชัดเจนแล้ว ค่อยย้ายไปคลอดที่นั่น” หยวนชิงหลิงพูดขึ้น
อันที่จริงนางยังคงอยากลองคลอดธรรมชาติ หากยืนยันได้ว่าไม่สามารถคลอดธรรมชาติได้แน่แล้ว ค่อยให้รุ่นน้องทำการผ่าตัดคลอด
หยู่เหวินเห้าเรียกให้ทังหยางไปทันที เขามือเท้าสับสนอยู่ข้าง ๆ หยวนชิงหลิง แต่กลับไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรได้บ้าง เขาทำได้แค่ผลักหมอหลวงสุ่ม ๆ แล้วถามว่า "ข้าควรทำอย่างไรดี ? ข้าควรทำอย่างไรดี?"
หมอหลวงเฉาพยายามพูดปลอบใจเขาว่า: "ท่านอ๋องโปรดวางใจ นางผดุงครรภ์กับพวกข้าจะอยู่ข้างกายพระชายาตลอดเวลา ตอนนี้เพิ่งจะรู้สึกปวดท้องเล็กน้อย ยังไม่ถึงเวลา ครรภ์แรก หากสามารถคลอดได้ในคืนนี้ก็นับว่าดีมากแล้ว"
แม้ว่าหมอหลวงเฉาจะพูดด้วยรอยยิ้ม แต่ในใจของเขากลับเครียดกังวลจนแทบจะทนไม่ไหว นี่เป็นการทดสอบครั้งใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัยเลยทีเดียว
ผู้คนในจวนได้ยินว่าพระชายาเริ่มมีการเคลื่อนไหวแล้ว ต่างก็ตกประหม่าเคร่งเครียดกันหมด มีคนรีบไปทูลรายงานต่อฮ่องเต้และคนในวังทันที
หมอหลวงเตรียมการรอไว้อย่างเต็มที่ นางผดุงครรภ์คอยดูแลแบบทุกย่างก้าว แม่นมสี่ก็นับยาที่ต้องใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งผ้าพันแผลรวมถึงสิ่งของที่ก่อนหน้านี้ พระชายาได้จัดเตรียมไว้สำหรับตัวเองจนเรียบร้อย นางก็ไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร เป็นของชิ้นใหญ่ ๆ ที่ด้านในล้วนเป็นฝ้าย ก็ไม่รู้ว่านางไปซื้อมันมาจากที่ไหน
ทุกคนต่างกลืนความวิตกกังวลลงท้อง ไม่กล้าแสดงออกมา เพราะกลัวจะทำให้พระชายาหวาดกลัวไปด้วย
ฮูหยินเจ้าพระยาเจียงหนิงนำผงอู๋โยวมาให้หยวนชิงหลิงใช้ แล้วพูดว่า "อย่ากังวล พยายามปรับการหายใจของเจ้าลงช้า ๆ พักผ่อนสักครู่ กินอะไรสักหน่อย"
หยวนชิงหลิงสูดลมหายใจช้า ๆ นางไม่กังวลเลยแม้แต่น้อย ถึงขั้นที่เรียกได้ว่า นางมีความรู้สึกปลอดโปร่งผ่อนคลายเลยทีเดียว
นางสั่งการอย่างใจเย็น อาบน้ำสระผม เปลี่ยนเสื้อผ้าหลวม ๆ ที่แช่ในน้ำยาฆ่าเชื้อแล้ว อาศัยช่วงที่การหดตัวยังไม่ชัดเจน ขยับตัวออกกำลังกายเสียหน่อย
หยู่เหวินเห้าพยุงนางเอาไว้ ไล้ไปตามแผ่นหลังเบา ๆ “ทุกสิ่งที่เจ้าพูด ข้าล้วนระแวดระวังและใส่ใจกับมันทั้งสิ้น เจ้าวางใจเถอะ สามารถไว้ใจได้อย่างแน่นอนว่าไม่มีทางเข้าใกล้เจ้าได้”
“ไม่ เจ้าฟังข้านะ” หยวนชิงหลิงดึงมือเขาขึ้นมา แล้วพูดอย่างเคร่งเครียดจริงจังว่า: “ข้าต้องบอกเจ้าตรง ๆ เช่นนี้ว่า ด้วยความแข็งแกร่งทางร่างกายของข้าตอนนี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะคลอดเองตามธรรมชาติ”
หัวใจของหยู่เหวินเห้า คล้ายมีสัญญาณสภาวะหัวใจหยุดเต้นขึ้นมากะทันหัน การหายใจหยุดชะงักไปเฮือกหนึ่ง “ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? มันต้องได้แน่!”
หยวนชิงหลิงมองเขาแล้วพูดว่า "ไม่ได้ ข้ารู้ตัวเองดี ดังนั้นข้าจึงมีแผนสำรองที่เตรียมไว้อีกทางหนึ่ง ก่อนหน้านี้ข้าไม่ได้บอกเจ้าไว้ก่อน เพราะกลัวว่าจะทำให้เจ้าตกใจกลัว ที่ข้าให้หาเจ้าอาวาส ไม่ใช่เพื่อให้เขามาสวดมนต์อธิษฐานขอพร แต่เพื่อขอให้เขามาช่วยผ่าตัดคลอดให้ข้าต่างหาก”
“การผ่าตัดคลอด?” หยู่เหวินเห้าร่างกายสั่นเทิ้ม “หมายความว่าอย่างไร?”
หยวนชิงหลิงดึงมือของเขาขึ้นมาพลางอธิบายว่า: "มันคือการใช้มีดผ่าเปิดผิวที่ท้องของข้าออก แล้วนำเด็กออกมา เช่นนี้ข้าก็จะสามารถหลีกเลี่ยงการ ..... "
หยู่เหวินเห้าตกใจจนหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำไปแล้ว ถึงกับดีดตัวลุกขึ้นทันควัน "ไม่ ไม่ได้ อย่างไรก็ไม่ให้ผ่าเปิดออกเด็ดขาด ทำเช่นนั้นมันจะเจ็บมากขนาดไหน ? มันถึงตายได้เชียวนะ เจ้ารู้หรือไม่? ไม่ ข้าไม่เห็นด้วย!"
หยวนชิงหลิงถอนหายใจเฮือก มองเขาที่วิตกกังวลจนคุมสติไม่อยู่ ดู ๆ ไปแล้วตอนฉีดยาชาระหว่างการผ่าตัดคลอด คงต้องฉีดให้เขาด้วยซักเข็มน่าจะดี
“อ๊ะ! ข้าเจ็บจะตายแล้ว ” หยวนชิงหลิงไม่สามารถพูดเรียกสติให้เขาหยุดได้ จึงทำได้เพียงเอามือกุมท้อง แสร้งทำเป็นว่าเกิดอาการเจ็บหนักขึ้นมา
เมื่อเห็นเขานั่งลงด้วยท่าทีห่วงใย ทั้งยังวิตกกังวล นางจึงพูดขึ้นว่า: “เจ้าฟังข้าก่อน ตอนแรกข้าวางแผนไว้ว่าจะให้เจ้าอาวาสรับผิดชอบเป็นหมอผ่า ให้ฮูหยินเจ้าพระชายาเจียงหนิงเป็นผู้ช่วย เพราะฮูหยินเจ้าพระชายาเจียงหนิงเคยติดตามไทเฮาหลงมานานหลายปี นางมีความเชี่ยวชาญในการฝังเข็ม รวมถึงทักษะทางการแพทย์ในแบบที่ข้ารู้ แต่ตอนนี้เจ้าอาวาสไม่อยู่ มีแต่ต้องให้นางเป็นหมอผ่า ให้อาซี่เป็นผู้ช่วย อย่าตื่นตระหนกอีกเลย นี่เป็นเพียงวิธีการเดียวเท่านั้นแล้ว ข้าไม่เจ็บหรอก ข้าจะฉีดยาชาก่อน ข้าจะตื่นอยู่ตลอดทั้งกระบวนการผ่าตัด แต่จะไม่รู้สึกเจ็บอะไร การผ่าตัดลักษณะนี้มีตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จมาแล้วมากมาย เจ้าวางใจเถอะ”
หยู่เหวินเห้าเชื่อเสียที่ไหน? เขาไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน
ฮูหยินเจ้าพระยาเจียงหนิงก็พูดขึ้นด้วยว่า “ท่านอ๋อง วางใจเถอะ ข้าเคยได้ยินไทเฮาหลงตรัสว่า มีพื้นที่แห่งหนึ่งที่คนส่วนใหญ่คลอดโดยการผ่าตัดคลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีท้องแฝดหลาย ๆ คน”
หยู่เหวินเห้ายืดคอ พลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ ว่า“ฮูหยินทำเป็นใช่หรือไม่? ท่านเคยช่วยผ่าตัดคลอดให้กับคนท้องมาหลายครั้งแล้วใช่หรือไม่?”
“ครั้งเดียว!” ฮูหยินเจ้าพระยาเจียงหนิงตอบ “แต่ทั้งแม่ทั้งลูกล้วนไม่รอด”
หยู่เหวินเห้าถึงกับสะอึกออกมาเสียงหนึ่ง แทบจะเป็นลมหมดสติไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...