บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 455

ข่าวความเคลื่อนไหวของพระชายาฉู่ ถูกรายงานไปยังพระตำหนักของไทเฮาทันที

ไทเฮาทรงร้อนพระทัย อยากจะออกไปจากวัง เสียนเฟยจึงรีบเข้ามาหยุดไว้แล้วกล่าวว่า “ท่านน้า ท่านไปไม่ได้นะเพคะ ท่านยังทรงประชวรอยู่”

“ข้ารู้สึกไม่วางใจ ต้องไปดูให้เห็นด้วยตาตัวเองข้าถึงจะสบายใจได้”

เสียนเฟยพูดปลอบใจว่า “ท่านน้า ไม่สู้ให้ข้าไปเองดีกว่า จะร้ายจะดีข้าก็เป็นแม่สามีของนาง หากมีเรื่องอะไรก็ยังพอสั่งการได้ ท่านอย่าไปเลย ตอนนี้ทางฝั่งนั้นก็ยังไม่รู้ด้วยว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง หากเกิดเรื่องร้ายมากกว่าดีขึ้นมา ร่างกายของท่านจะทนรับไหวหรือเพคะ?”

เดิมทีไทเฮาทรงหงุดหงิดพระทัยมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ของนาง ก็ผรุสวาทขึ้นทันทีว่า “เจ้าพูดอย่างนี้ได้อย่างไร? ตบปากตัวเองเดี๋ยวนี้ เวลาแบบนี้ไม่รู้จักพูดจาดี ๆ หรือเจ้ากำลังรอคอยให้เกิดเรื่องร้ายมากกว่าดีใช่หรือไม่?"

เสียนเฟยรู้ว่าตัวเองพลั้งปาก จึงตบปากตัวเองไปสองครั้งเพื่อเอาใจไทเฮา “ เพคะ ๆ ข้าตบปากตัวเอง เสด็จแม่ ขอทรงมีพระราชโองการ ให้ข้าออกจากวังไปอยู่เป็นเพื่อนนางด้วยเถิดเพคะ”

ไทเฮาอยากไปมากจริง ๆ แต่เพราะคำพูดนั้นของเสียนเฟย ทำให้นางตกพระทัยไม่น้อย

หากมีเรื่องร้ายมากกว่าดีเกิดขึ้นจริงๆ นางจะทนรับไหวได้อย่างไรกัน?

นางจึงออกพระราชเสาวนีย์ สั่งให้พาแม่นมหูจากในวังไปกับนางด้วย

ไทเฮาดึงข้อมือของนาง พลางกำชับกำชาว่า "เจ้าต้องจับตาดูให้ดีที่สุด หากเกิดอะไรขึ้น รีบให้หมอหลวงรักษาจนสุดกำลังที่มี และต้องใช้ยาที่ดีที่สุด"

“เพคะ ท่านโปรดวางใจ ยาในวังถูกส่งมอบออกไปให้นานแล้ว ต้องไม่เป็นไรแน่เพคะ”

หลังจากพูดปลอบใจไม่กี่คำ เสียนเฟยก็ออกไปทันที

แน่นอนว่า ข่าวนี้ย่อมต้องรายงานไปถึงทางฝั่งของไท่ซ่างหวงด้วยเช่นกัน

ฉางกงกงเริ่มวิตกกังวลขึ้นมาแล้ว กระทั่งเจ้าฝูเป่าก็ยังดูเหมือนจะฟังเข้าใจ วิ่งหมุนเป็นวงกลมไปรอบๆ

กลับกัน ไท่ซ่างหวงทรงนอนเอนกายอยู่บนเก้าอี้กุ้ยเฟยอย่างสงบ สูบยาเส้นอย่างผ่อนคลาย “มีอะไรต้องกังวลกัน? แตงสุกแล้วก็ต้องหล่น ผู้หญิงก็ต้องคลอดลูก ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไรเสียหน่อย”

ฉางกงกงพูดขึ้นว่า: "ถูกต้องพ่ะย่ะค่ะ แต่เหตุใดยาเส้นของพระองค์จึงได้สั่นเช่นนั้นกัน? เป็นพระหัตถ์ของท่านกำลังสั่นอยู่หรือพ่ะย่ะค่ะ?"

ไท่ซ่างหวงสูดแล้วพ่นควันออกมาอย่างช้า ๆ จากนั้นจึงชันกายขึ้นนั่งตัวตรง "ยาอมใต้ลิ้นนั่นล่ะ? เอามาวางใต้ลิ้นของข้าซักเม็ดซิ"

ฉางกงกงรีบเอ่ยถามอย่างกังวลว่า “ หรือจะเกิดอาการจุกเสียดอีกแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ? ”

“รู้สึก... กังวลนิดหน่อย กินไว้ก่อนซักเม็ด หลีกเลี่ยงไม่ให้ลมขึ้นจนเป็นลมเป็นแล้งไป” ไท่ซ่างหวงตรัสขึ้นช้า ๆ ริมฝีปากสั่นระริก เห็นเพียงแวบเดียวก็มองออกได้ทันทีว่า พระองค์แสร้งทำเป็นสงบนิ่งเหมือนไม่ได้เป็นอะไร

ฉางกงกงรีบนำยามาถวาย พระองค์จึงค่อย ๆ หายใจเข้า หายใจออก หายใจเข้า หายใจออก จนสงบลงมาได้ จากนั้นจึงตรัสขึ้นว่า “จะว่าไป เมียของเจ้าห้ากำลังเผชิญกับวิกฤติใหญ่หลวงอยู่ในตอนนี้ เจ้าว่า พวกเราจะทำอะไรได้บ้าง” ?"

“ท่านจะออกจากวังหรือพ่ะย่ะค่ะ?” ฉางกงกงถาม

ไท่ซ่างหวงปรายสายพระเนตรมองเขา “หลานสะใภ้ข้าคลอดลูก ข้าจะออกไปให้มันเกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขึ้นมาทำไมล่ะ? ผู้คนในจวนนี้ต่างก็มารับใช้ข้าจนหมด แล้วจะมีใครไปทำคลอดลูกของนางกัน?”

ฉางกงกงอ้าปากค้างลูบมือไม้เป็นพัลวัน “จริงด้วยพ่ะย่ะค่ะ พระองค์ว่า พวกเราพอจะช่วยอะไรได้บ้าง? หรือไม่ พวกเราไปไหว้พระกันดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ? วันนี้เป็นวันประสูติของพระพุทธเจ้า ฝ่าบาทก็ทรงนำขุนนางนับร้อยเข้าร่วมพิธีบูชาสวรรค์พอดีเลยพ่ะย่ะค่ะ”

“วันประสูติของพระพุทธเจ้า?” ริมฝีปากของไท่ซ่างหวงหยุดสั่นแล้ว “คิดดูดี ๆ เวลาปกติไม่ได้เตรียมเนื้อเตรียมตัว พอจวนตัวก็รีบทำอย่างเร่งร้อน จะไปมีประโยชน์อะไรกันล่ะ? ไม่อย่างนั้นจะเลือกวันนี้ไปทำไม ช่างเถอะ ใจเย็นๆ”

แต่ฉางกงกงไม่อาจสงบนิ่งได้ขนาดนั้น “เช่นนั้นหมายความว่าจะไม่ไปแล้ว?”

“ไม่ไปแล้ว” ไท่ซ่างหวงเริ่มสูบยาเส้นอีกครั้ง

ผ่านไปครู่หนึ่ง ก็ผุดลุกขึ้นแล้วตรัสว่า “อย่างไรก็ไปกันเถอะ”

บางที การที่ในเวลาปกติไม่ได้เตรียมเนื้อเตรียมตัว พอจวนตัวก็รีบทำอย่างเร่งร้อนเช่นนี้ อาจเป็นประโยชน์จริง ๆ ก็เป็นได้นี่ ? ไม่ลองจะรู้ได้อย่างไรล่ะ?

พิธีบูชาสวรรค์ กำลังดำเนินต่อไปอย่างเต็มกำลัง

กองทหารรักษาพระองค์ของจวนอ๋องฉู่มาถึง แล้วรายงานเรื่องที่พระชายาฉู่กำลังจะคลอดต่อมู่หรูกงกง หลังจากที่มู่หรูกงกงได้ยินเรื่องนี้ ก็รีบไปที่แท่นบูชาแล้วทูลรายงานต่อฮ่องเต้หมิงหยวนทันที

หลังจากได้ยินเรื่องนี้ ฮ่องเต้หมิงหยวนก็เสด็จตรงไปที่กลางแท่นบูชา คุกเข่าลง โขกพระเศียรแล้วสวดภาวนาต่อสวรรค์ ให้ราชวงศ์ได้ผู้มีสืบทอดต่อไป

ในฐานะฮ่องเต้ผู้ครองแผ่นดินประจำราชวงศ์หนึ่ง พระองค์ไม่เคยคิดเลยว่า แรงกดดันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด จะมาจากรุ่นหลาน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน