ฉางกงกงลังเลสักพัก แล้วก็พูดขึ้นว่า “เรื่องในตอนนั้น บ่าวไม่รู้เรื่อง”
หยู่เหวินเห้ามองดูเขา มองออกว่าเขารู้เรื่อง แต่นี่เป็นประวัติลับของราชวงศ์ ไม่สมควรที่จะพูดมากกว่า
หยู่เหวินเห้าก็ไม่ถามต่อ ยังไงนี่ก็เป็นเพียงเรื่องของราชวงศ์ที่ผ่านมานานแล้ว ไม่ว่าตอนนั้นจะเลือกอย่างไร ใครทำให้ใครเสียใจ ถึงตอนนี้ สำหรับชีวิตของพวกเขาก็ผ่านมามากกว่าครึ่งชีวิตแล้ว
เรื่องในตอนนั้น ควรที่จะกลายเป็นฝุ่นไปได้แล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้น ไท่ซ่างหวงแทบจำไม่ได้ว่าตนเองฝันเห็นคนที่ตนเองเฝ้าคิดถึง หลังจากตื่นขึ้นมา กระปรี้กระเปร่าขึ้นแล้วก็ร้องอยากจะทานข้าว
ท้องเสียมาหลายวัน ท้องว่างอย่างมากแล้ว อยากทานเนื้ออย่างเดียว แต่หยวนชิงหลิงให้เขาทานโจ๊กเท่านั้น เขาโกรธจนก่นด่าหยวนชิงหลิงไปเป็นชุด พูดว่านางโหดร้ายใจดำ
เสียงก่นด่าแม้จะไม่ได้เต็มเสียง แต่ไท่ซ่างหวงคนที่ทำให้คนอื่นรู้สึกปวดใจนั้นไม่เห็นแล้ว กลับมาเป็นเหมือนปกติแบบนั้นแล้ว
หยวนชิงหลิงจึงคิดว่า คนบางคน เรื่องบางเรื่อง ที่จริงก็ฝั่งอยู่ในมุมหนึ่งภายในใจแต่แรกแล้ว อาจจะจำขึ้นมาไม่ได้ง่ายๆ แต่บางครั้งก็จะหลุดเล็ดลอดออกมาทำให้สะเทือนใจ จากที่ปิดกั้น แม้จะเศร้าแต่ไม่เจ็บ ชีวิตคนเราก็คงประมาณนี้
เช้าวันรุ่งขึ้น หยวนชิงหลิงเติมน้ำเกลือให้กับไท่ซ่างหวงสองขวด แล้วค่อยกลับ ตอนที่ออกจากวังมาถึงจวนอ๋อง ก็เลยเวลาเที่ยงแล้ว
ภายในจวนยังมีแขก ทั้งสองสามีภรรยารีบขอโทษจิ้งถิงสองสามีภรรยา
จิ้งถิงรู้ว่าเมื่อคืนพวกเขาไปจวนจูกั๋วกง นึกว่าพวกเขาอยู่ที่จวนกั๋วกงแล้วค่อยกลับมาวันนี้ ได้ยินว่าไท่ซ่างหวงไม่สบาย อะซี่ที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้นว่า “นี่วันอะไรหรือ? ทำไมถึงมีคนไม่สบายเยอะขนาดนี้?”
“ใครไม่สบายอีกหรือ?”หยวนชิงหลิงถามขึ้น
อะซี่พูดขึ้นว่า “แม่นมสี่หรือ ป่วยอยู่แต่แรกแล้ว”
หยวนชิงหลิงถามขึ้นว่า “หายแล้วไม่ใช่หรือ? เมื่อวานนางยังไปจวนกั๋วกงเป็นเพื่อนข้าอยู่เลย”
“หายดีแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นอะไร เมื่อคืนเป็นไข้อีกแล้ว เดิมคิดว่าท่านกลับมา สุดท้ายรอไม่เห็นกลับมา หมอหลวงเฉาจัดยาลดไข้ให้ ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว”อะซี่พูดขึ้น
“ไม่เป็นไรแล้วจริงๆหรือ?” หยวนชิงหลิงค่อนข้างไม่วางใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าไปดูก่อน”
อะซี่พูดขึ้นว่า “ท่านอย่าไปเลย รีบไปนอนก่อนเถอะ เมื่อคืนไท่ซ่างหวงป่วยทั้งคืน ท่านไม่ได้หลับสบายแน่ แม่นมไม่เป็นไรแล้ว ไข้ลดแล้ว เดี๋ยวข้าไปดูนาง และก็ยังมีหมอหลวงอยู่ไม่ใช่หรือ?”
หยวนชิงหลิงก็ง่วงอย่างมาก จึงพูดขึ้นว่า “งั้นก็ได้ เจ้าดูไว้ด้วย ข้านอนตื่นขึ้นมาแล้วจะไปดูนาง”
หยู่เหวินเห้าไม่นอน เขาจะออกไปกับจิ้งถิง หยวนชิงหลิจึงให้อะซี่พาจิ่นหนิงกับโม่ยี่ไปเดินดูรอบๆ นางกลับไปนอนพักกลางวัน
พอถึงพลบค่ำ คนของจวนกั๋วกงมาเชิญ ครั้งนี้ที่มาเชิญ เป็นการยกเกี้ยว และคนที่มาคือลูกคนชายโตของตระกูลจูจูโห้วเต๋อสองสามีภรรยา
หมันเอ๋อปรนนิบัติหยวนชิงหลิงลุกขึ้นมา หวีผมอย่างง่ายๆ ขอบตาดำคล้ำ ออกไปโดยไม่ต้องทาแป้ง ดูแล้วก็ธรรมดามาก
จูโห้วเต๋อสองสามีภรรยาสุภาพอย่างมาก เชิญหยวนชิงหลิงขึ้นเกี้ยว อะซี่กับหมันเอ๋อก็ตามไปแล้ว
มาถึงจวนจูกั๋วกง หลังจากต้อนรับเข้าไปแล้ว คนตระกูลจูต่างก็มาทำความเคารพ นางจูใหญ่ก็มา นางก็ย่อตัวทำความเคารพหยวนชิงหลิง
มีบ่าวใช้รีบมาอย่างเร่งร้อน พร้อมรายงานว่า “ท่านกั๋วกง บ่าวใช้ที่พระชายารัชทายาทพามาทะเลาะกับนางจูใหญ่ บ่าวใช้คนนั้นถึงขั้นจะลงไม้ลงมือด้วย”
จูกั๋วกงได้ยิน หันไปมองดูหยวนชิงหลิงอย่างเย็นชาแว๊บหนึ่ง พร้อมพูดขึ้นว่า “บ่าวใช้ของพระชายารัชทายาทเบ่งอำนาจใหญ่ขนาดนี้เลยหรือ?”
หยวนชิงหลิงมองดูขวดน้ำเกลือ ที่แขวนไว้เติมให้กับฮูหยินของกั๋วกงยังเหลือครึ่งหนึ่งแว๊บหนึ่ง จึงพูดขึ้นว่า “ข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น”
หมันเอ๋อลงมือหรือ? หมันเอ๋อเป็นคนมีความอดทนมาตลอด มีแต่อะซี่ค่อนข้างใจร้อน
จูกั๋วกงก็ตามออกไป มาถึงในลาน ก็เห็นอะซี่กำลังกระชากแขนเสื้อนางจูใหญ่ไว้ไม่ยอมปล่อย ปากก็ยังก่นด่านางอยู่
นางจูใหญ่ก็โต้กลับ ทั้งสองต่างก็ไม่ยอมซึ่งกันและกัน ตาต่อตา ฟันต่อฟัน
“อะซี่” หยวนชิงหลิงร้องเรียก รีบเดินเข้าไปพร้อมถามขึ้นว่า “ทำไมหรือ?”
นางจูใหญ่เห็นหยวนชิงหลิง ก็พูดขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า “พระชายารัชทายาท บ่าวใช้ในจวนของเจ้าอวดดีมาก กล้าลงมือทำร้ายข้าที่เป็นฮูหยิน ยังไงราชสำนักก็แต่งตั้งให้ข้าเป็นฮูหยินตราตั้งชั้นรอง บ่าวใช้ในจวนของเจ้าควรที่จะมาตบตีต่อว่าข้าได้หรือ? วันนี้หากเจ้าไม่ให้ความยุติธรรมกับข้า ข้าไม่ยอมเป็นแน่”
หยวนชิงหลิงมองดูอะซี่ ยังไม่ทันได้พูดอะไร อะซี่ก็พูดขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า “ข้าด่าเจ้าตบเจ้ายังน้อยไป ฮูหยินตราตั้งชั้นรองเหี้ยอะไร? ปากที่พูดอยู่เป็นภาษาคนหรือ? พระชายารัชทายาทของข้าเหน็ดเหนื่อย ไม่ได้นอนมาทั้งคืน บ่ายวันนี้เพิ่งได้นอนไปแป๊บเดียว คนของพวกเจ้าก็มาเชิญให้มาดูอาการป่วยของแม่เจ้า นางกลัวฮูหยินของกั๋วกงจะตายเพราะอาการเจ็บปวด จึงได้รีบออกมาโดยไม่ทันแต่งหน้า เจ้าไม่สำนึกในบุญคุณ กลับพูดว่านางไม่ให้เกียรติจวนกั๋วกง มาที่นี่อย่างหน้าตาไม่เรียบร้อย ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง เหยียดหยามจวนกั๋วกงของพวกเจ้า นี่เจ้าพูดภาษาคนหรือ? ข้าไม่สนใจหรอกว่าเจ้าจะเป็นตราตั้ง ข้าอะซี่ข้าไม่ชอบ ก็จะด่า อีกอย่าง นี่ข้ายังไม่ได้ลงมือเลย”
ลูกสาวของนางจูใหญ่เป็นกุ้ยเฟยราชสมัยนี้ ตัวนางเองเป็นตราตั้งชั้นรอง ทั่วทั้งเมืองหลวงกล้าตำหนิต่อว่านางขนาดนี้ นอกจากจูกั๋วกงแล้วก็ไม่มีใครอีก ตอนนี้ถูกอะซี่ก่นด่าขนาดนี้ ยังพูดว่านางไม่ใช่แม้แต่คน ก็โกรธโมโหอย่างยิ่ง ยกฝ่ามือขึ้นมาจะตบไปที่ใบหน้าอะซี่
“หยุดนะ”หยวนชิงหลิงพูดขึ้นด้วยเสียงขรึม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...