บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 564

สุดท้ายเป็นอาซี่ที่สั่งอาหารมาเจ็ดแปดอย่าง แต่ตลอดเวลาหลังจากนั้น ไปจนถึงตอนที่อาหารขึ้นโต๊ะ ก็ยังไม่มีใครพูดอะไรเลยอยู่ดี

เมื่ออาหารขึ้นโต๊ะ หยู่เหวินเห้าก็คีบน่องไก่ชิ้นหนึ่งใส่ลงไปในชามของหยวนชิงหลิง แต่หยวนชิงหลิงคีบมันส่งต่อไปให้สวีอีทันที

สวีอียืดตัวขึ้นอย่างยากลำบาก เหลือบมองไปยังรัชทายาทที่กำลังจ้องมองมาที่เขา ด้วยสายตาที่เหมือนหมาป่าที่พร้อมจะกลายร่างเป็นเสืออย่างไรอย่างนั้น แล้วค่อยเหลือบมองไปทางพระชายารัชทายาทที่มีสีหน้าสงบนิ่งราบเรียบ น่องไก่ชิ้นนี้ ถ้ากินก็ทำให้รัชทายาทขุ่นเคือง ไม่กินก็ทำให้พระชายาขุ่นเคือง แล้วเขาควรจะทำอย่างไรดีล่ะนี่ ?

เขาวางชามลงอย่างยากจะตัดใจ “กระหม่อม.…ไม่หิว ไม่กินแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

นี่มันเวรกรรมอะไรกันล่ะนี่? อาหารที่ช่างอุดมสมบูรณ์ มากมายหลากหลายโต๊ะนี้ ตอนที่ออกมา เขาก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอยที่จะได้กินให้เต็มคราบสักมื้อ กลายเป็นว่ายังไม่ได้กินสักคำก็ต้องโยนทิ้งไปเสียได้

หยู่เหวินเห้าไม่อาจทนต่อบรรยากาศอึมครึมอย่างนี้ได้แล้วจริง ๆ จึงกระแทกชามข้าวลง แล้วหันหน้าไปมองหยวนชิงหลิงอย่างโกรธเคือง "เจ้า .... "

หยวนชิงหลิงตบตะเกียบลงกับโต๊ะดัง”ปัง”เสียงดังสนั่น ช้อนตาขึ้นมอง แสงเย็นยะเยือกคมปลาบปรากฏขึ้นในดวงตาของนาง "ข้าอะไรรึ?"

หยู่เหวินเห้าหดคอลง ท่วงท่าฮึดฮัดเมื่อครู่พลันอ่อนลงทันควัน “แค่อยากจะถามว่า เจ้าอยากกินอะไร? ข้าจะคีบให้”

“ข้าคีบเองได้” หยวนชิงหลิงพูดอย่างเย็นชา

“โอ้” หยู่เหวินเห้าหยิบตะเกียบขึ้นมา เห็นว่าทุกคนต่างก็มองมาที่เขาเป็นตาเดียว จึงพูดอย่างไม่พอใจว่า “มองอะไร? กินข้าว!”

ทุกคนรีบก้มหน้าก้มตากินข้าวทันที

หยวนชิงหลิงในใจยังโกรธอยู่ แต่เพราะตอนนี้มีคนเยอะไม่เหมาะที่จะแสดงอาการ จึงพยายามกล่อมตัวเองว่า คนก็ตายไปแล้ว แค่ไปเคารพหลุมศพคนรู้จักครั้งเดียว ไม่นับว่าเป็นอะไรได้

มันเรื่องอะไรที่คนซึ่งโตเป็นผู้ใหญ่แล้วคนหนึ่งอย่างนาง จะไปคิดเล็กคิดน้อยกับคนตาย ? ช่างไร้ระดับเหลือเกินแล้ว

ยิ่งคิดแบบนี้ นางก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดใจ กินไปได้แค่ไม่กี่คำ ก็วางชามวางตะเกียบลงแล้วเดินออกไป

เมื่อเห็นดังนั้น หยู่เหวินเห้าก็วางชามวางตะเกียบลง แล้วไล่ตามออกไปทันที

อ๋องฉีหันไปมองหยวนหย่งอี้ ก็เห็นหยวนหย่งอี้หันหน้าไปอีกทาง เขาจึงถามอาซี่ว่า "พี่สะใภ้ห้าโกรธอะไรหรือ? นางใจคอกว้างขวางมาโดยตลอด แทบจะไม่เคยเห็นนางโกรธเลยด้วยซ้ำ"

อาซี่ปรายตามองไปทางสวีอีซึ่งกลับมานั่งที่โต๊ะอีกครั้ง แล้วกินข้าวอย่างตะกละตะกลาม จากนั้นก็พูดขึ้นช้า ๆ ว่า "เป็นหายนะที่สวีอีก่อไว้"

สวีอีถึงกับสำลัก จนพ่นข้าวที่ยัดเข้าไปจนเต็มปากออกมาทั้งหมด พูดอย่างตกตะลึงว่า "มันเกี่ยวอะไรกับข้าด้วยล่ะ? ข้าไปก่อหายนะอะไร? วันนี้ข้าแทบไม่ได้พูดอะไรเลยนะ"

อาซี่พูดว่า “ก่อนหน้านี้ ตอนที่แม่ทัพใหญ่จิ้งถิงมา เจ้าไม่ได้บอกข้าหรือว่ารัชทายาทพาแม่ทัพใหญ่ไปที่หลุมฝังศพของฉู่หมิงชุ่ยน่ะ?”

ทันทีที่สวีอีได้ยิน คางของเขาก็แทบจะร่วงลงมาแล้ว จากนั้นก็พูดอย่างโกรธเคืองว่า "เจ้าบอกพระชายาไปแล้วรึ? อาซี่ ทำไมเจ้าถึงได้ปากมากเช่นนี้นะ? ข้าเชื่อใจเจ้าถึงได้เล่าให้เจ้าฟังแท้ ๆ เจ้ากลับพูดเรื่องนี้ออกไปง่าย ๆ แบบนี้น่ะรึ?"

อาซี่พูดด้วยความโกรธว่า "ทำไมเจ้าต้องดุขนาดนี้ด้วย? ข้าเองก็ไม่ได้ตั้งใจพูดเสียหน่อย"

สวีอีขึ้นเสียงจนคอเป็นเอ็นว่า "ฆาตกรหลายคนก็บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่ว่ามันสามารถพ้นโทษไม่ต้องรับผิดได้หรืออย่างไรเล่า?"

อาซี่ยืนขึ้นแล้วพูดอย่างโกรธเคืองว่า "เจ้าดุอะไรของเจ้านักหนา ข้าก็บอกแล้วว่าพลั้งปากไปเฉย ๆ ถ้ามันเป็นความลับถึงขนาดนั้น เจ้าก็ควรเก็บซ่อนมันไว้ให้มิดชิด ทำอย่างนั้นไม่ว่าใครก็ไม่มีวันรู้แน่ ในเมื่อเจ้าพูดมันออกมา ก็ต้องเตรียมใจยอมรับไว้ด้วยว่ามันมีสิทธิ์ที่จะหลุดออกไปให้คนอื่นรู้ ถ้าไม่อย่างนั้นเจ้าก็ควรจะหุบปากตัวเองให้สนิท อย่าได้พูดอะไรออกมาทั้งสิ้น!”

ผู้คนในร้านอาหาร ต่างก็มองไปที่นางอย่างพร้อมเพรียงกัน เมื่อเห็นว่าอาซี่ที่เป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งดุร้ายถึงขนาดนี้ ท่าทีของทุกคนก็เหมือนจะตกใจกันไม่น้อย

อาซี่รู้สึกอับอายจนกลายเป็นโกรธ โยนตะเกียบทิ้งแล้ววิ่งออกไปทันที

แน่นอนว่าหยวนหย่งอี้ต้องไล่ตามอาซี่ไป ภายในร้านอาหาร อ๋องฉีกับสวีอีมองหน้ากันแวบหนึ่ง จึงหันหน้าไปอีกทางด้วยความรู้สึกว่าตัวเองโชคร้ายสิ้นดี แล้วเดินออกไป

มีเพียงหมันเอ๋อเท่านั้นที่ยังคงกินข้าวต่อไปอย่างสงบ สำหรับนางแล้ว กินให้อิ่มสำคัญกว่าอะไรทั้งนั้น นางยังต้องจ่ายเงินค่าข้าวมื้อนี้อีก ในเมื่อเงินนี้จ่ายออกไปแล้ว อย่างไรก็ต้องกินให้คุ้ม

หยวนชิงหลิงวิ่งออกมา ก็พอจะสงบสติอารมณ์ลงได้บ้างแล้ว รอจนหยู่เหวินเห้าไล่ตามมาจนทัน ความโกรธในใจนางก็ถูกระงับไปได้มากแล้ว มองสบสายตาที่แฝงความกังวลเต็มเปี่ยมของเขา แล้วพูดอย่างสงบนิ่งว่า "ข้าไม่เป็นไร ไม่หิว เลยออกมาเดินเล่นเฉย ๆ"

หยู่เหวินเห้าดึงมือนางขึ้นมา "เจ้าแทบจะไม่เคยโกรธเลยนะ สรุปว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ? ข้าทำอะไรผิดไปอย่างนั้นรึ?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน