ตอนที่มู่หรูกงกงมาถึงจวนอ๋องฉู่ หยู่เหวินเห้าเพิ่งกลับมา ก็มาเจอกับมู่หรูกงกงพอดี
หากไม่มีอะไร มู่หรูกงกงจะไม่มาตอนกลางคืน ดังนั้นหยู่เหวินเห้าเห็นเขา ก็รีบถามขึ้นว่า “กงกง เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
มู่หรูกงกงรีบลงจากรถม้า เดินมาอย่างเร่งรีบ พร้อมพูดขึ้นว่า “อุ๊ย ท่านอ๋อง ดูท่านสิงานยุ่งก็ยุ่งเถอะ ยังไงก็ควรที่จะหาเวลาไปถวายพระพรไท่ซ่างหวงบ้าง ท่านว่าท่านกับพระชายารัชทายาทไม่ได้ไปเข้าเฝ้านานแค่ไหนแล้ว?”
หยู่เหวินเห้าครุ่นคิด พร้อมพูดขึ้นว่า “ก็ไม่นานนี่ ครั้งที่แล้วเข้าวัง....” ดูเหมือนจะนานแล้วจริงๆด้วย
มู่หรูกงกงเหยียบเท้า พร้อมพูดขึ้นว่า “ไท่ซ่างหวงงอนมาก จนทำให้ตนเองบาดเจ็บอย่างไม่ได้ตั้งใจ”
หยู่เหวินเห้าตกใจไม่เบา รีบถามขึ้นว่า “บาดเจ็บหนักไหม?”
มู่หรูกงกงพูดว่า “ก็ไม่ได้หนักหนาอะไรมาก เข้าไปพูดคุยกันข้างใน เชิญพระชายารัชทายาทออกมาด้วย”
หยู่เหวินเห้าได้ยินว่าไม่ค่อยเป็นอะไรมาก ก็ค่อยวางใจ รีบเดินเข้าไปสั่งคนไปตามหยวนชิงหลิงไปห้องโถง
รอเมื่อหยวนชิงหลิงออกมาแล้ว หยู่เหวินเห้าค่อยถามว่า “ไท่ซ่างหวงโกรธเรื่องอะไรหรือ? ทำยังไงถึงได้ทำให้ตนเองได้รับบาดเจ็บ?”
มู่หรูกงกงมองดูหยวนชิงหลิง พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายารัชทายาท เข้าวังหลายครั้งนี้ ล้วนต่างก็รีบไปรีบกลับ ไม่ได้ไปถวายพระพรที่พระตำหนักฉินคุนใช่ไหม?”
เมื่อกี้ตอนที่สวีอีไปตามหยวนชิงหลิง ก็ได้บอกนางแล้วว่าไท่ซ่างหวงได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นคราวนี้หยวนชิงหลิงก็ร้อนใจอย่างมาก ได้ยินมู่หรูกงกงถาม นางนิ่งอึ้งไป พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ได้ไปจริงๆ ค่อยข้างรีบ จึงไม่ได้ไปหา”
มู่หรูกงกงพูดขึ้นว่า “ไท่ซ่างหวงโกรธอย่างมาก วันนี้ท่านเข้าวังแล้วก็ไม่ได้ไปพระตำหนักฉินคุน ก็โกรธจัดอย่างมาก ฉางกงกงพูดว่าเตะเก้าอี้ชนถูกตนเอง หกล้มแล้วก็หัวแตก พรุ่งนี้ไม่ว่าท่านจะว่างหรือไม่ว่าง ก็ต้องไปสักครั้ง ฮ่องเต้ตรัสแล้ว อย่าบอกว่าข้าออกจากวังมาแจ้งเจ้า ให้บอกว่าเจ้าคิดถึงไท่ซ่างหวง จึงเข้าวังไปถวายพระพร ดีที่สุดให้พาลูกไปด้วย”
ในใจหยวนชิงหลิงรู้สึกผิดขึ้นมาในทันใด อยากที่จะเข้าหวังไปทันที จึงพูดขึ้นว่า “กงกงวางใจ พรุ่งนี้ข้าจะไปแต่เช้า”
มู่หรูกงกงถอนหายใจเบาๆ พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายารัชทายาท บ่าวก็ไม่ได้อยากว่าท่าน ตอนนี้ไท่ซ่างหวงได้เกษียณแล้ว ไม่ถามเรื่องราชการ อาศัยอยู่ในวังหลังอย่างสงบ คนไปมาหาสู่ก็มีไม่กี่คน รอคอยก็แต่เพียงท่านกับพวกหลานๆ ท่านควรที่จะไปอยู่เป็นเพื่อนบ้าง ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
ฉางกงกงพูดเช่นนี้จนหยวนชิงหลิงแทบน้ำตาไหล จนอยากที่จะตบหน้าตนเองหนึ่งที พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้ารู้แล้ว ขอบคุณกงกงอย่างมากที่มาแจ้ง”
มู่หรูกงกงจึงลุกขึ้น แล้วก็ลากลับ
หยู่เหวินเห้าเห็นหยวนชิงหลิงทุกข์ทรมานอย่างมาก จึงพูดปลอมขึ้นว่า “เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเจ้า เจ้าก็มีงานยุ่ง ใครจะไปรู้ว่าเสด็จปู่จะชอบโกรธง่ายขนาดนี้? อายุก็ขนาดนี้แล้ว ยังจะไม่รักตนเอง ช่างเอาแต่ใจจริงๆ”
หยวนชิงหลิงถลึงตาใส่เขาพร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าอกตัญญู ใคร อนุญาตให้เจ้าพูดว่าเขาเช่นนี้? อยากจะบอกว่าเอาแต่ใจหรอ? แล้วเจ้าไม่เอาแต่ใจหรือไง? เจ้าไม่เอาแต่ใจแล้วทำไมถึงไม่ไปเยี่ยมดูเขาบ้าง?”
หยู่เหวินเห้าขยี้จมูก ที่จริงเขาก็เป็นห่วงไท่ซ่างหวง ก็เพราะไม่อยากเห็นเจ้าหยวนโทษตัวเอง จึงพูดว่าไท่ซ่างหวงเอาแต่ใจ แต่เมื่อคิดดูแล้วพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกต้อง คนก็ได้รับบาดเจ็บแล้ว คนที่ได้รับบาดเจ็บใหญ่ที่สุด
หยวนชิงหลิงไม่อยากสนใจเขา หันตัวเดินไปหาแม่นมสี่ ถามว่าไท่ซ่างหวงชอบทานอะไร แล้วทั้งสองคนก็อยู่ในครัวทั้งคืน ทำเค้กขนมหวาน ต้มน้ำซุป ล้วนเป็นสิ่งที่ไท่ซ่างหวงชอบ
ไท่ซ่างหวงชอบทานเค้กงา ขนมชั้น ขนมโก๋แผ่นเมฆ หยวนชิงหลิงไม่ยอมนอน รีบทำด้วยกันกับแม่นมสี่ ใส่กล่องอาหารเต็มสามกล่อง
ฟ้าเริ่มสว่าง นางก็พาแม่นมสี่กับแม่นมพวกเด็กเข้าวังไปด้วยกัน
ไท่ซ่างหวงอยากแกะมือของนางออก หยวนชิงหลิงกลับกอดไว้แน่น แกะยังไงก็ไม่ออก ไท่ซ่างหวงพูดขึ้นอย่างโมโหว่า “ใครทำหน้าทะเล้นกับเจ้า? อย่างกับหมากฝรั่ง ใครจะกินของที่เจ้าทำ? ไม่เอา เอาออกไปให้หมด วันนี้ข้าไม่อยากกินอะไรทั้งนั้น”
ข้าวเหนียวน้อยยังร้องไห้อยู่ หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างโมโหว่า “ร้อง ร้อง ร้อง รู้จักแต่ร้องไห้ อุ้มออกไปโยนทิ้งเลย ไม่เอาแล้ว”
เมื่อตะคอกพูดเช่นนี้ ข้าวเหนียวน้อยยิ่งร้องไห้เสียงดังขึ้น มือน้อยคู่หนึ่งยื่นออกมา เท้าทั้งคู่เขย่งขึ้น แม่นมเกือบจะอุ้มไม่ไหว
หยวนชิงหลิงเดินไปอุ้มขึ้นมา แล้วก็ตีตรงก้นของข้าวเหนียวหนึ่งที ตรงก้นใส่ผ้าอ้อมไว้อย่างหนา ตบลงไปหนึ่งทีไม่ได้ทำให้เจ็บเลยสักนิด แต่ข้าวเหนียวน้อยร้องไห้แทบจะขาดใจ
ไท่ซ่างหวงเห็นข้าวเหนียวน้อยถูกตี จะทนได้อย่างไร? รีบพูดขึ้นด้วยสีหน้าเยือกเย็นว่า “อุ้มมานี่”
หยวนชิงหลิงอุ้มข้าวเหนียวน้อยไปวางในอ้อมอกของเขา ไท่ซ่างหวงรีบนั่งลง ค่อยๆอุ้มไหวไปมา เอามือลูบหลัง พร้อมพูดขึ้นว่า “ว่าง่าย ไม่ร้องไห้ เราไม่ร้องไห้ ไม่ต้องสนใจแม่ใจดำของเจ้า”
ข้าวเหนียวน้อยชอบร้องไห้ แต่ก็ปลอบง่าย อุ้มไหวไปมาปลอบโยนสักพัก ก็หยุดร้องไห้ทันที ยังยิ้มให้กับไท่ซ่างหวงพร้อมทั้งน้ำตา
หยวนชิงหลิงรีบพูดประจบสอบพอขึ้นว่า “ยังคงเป็นเสด็จมีความสามารถ เด็กคนนี้อยู่ที่จวนก็เอาแต่ร้องไห้ ใครก็ปลอบไม่ไหว พอท่านปลอบเขาก็หยุดร้องไห้ทันที”
ไท่ซ่างหวงเห็นข้าวเหนียวน้อยหัวเราะยิ้มแย้ม ในใจก็ค่อยสบายขึ้น รู้ทั้งรู้ว่าหยวนชิงหลิงตั้งใจหลอกล่อ แต่ก็ยังคงรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก ได้ยินหยวนชิงหลิงพูดประจบเช่นนี้ และมองเห็นของกินวางอยู่เต็มโต๊ะ ว่านางทำเอง ความโกรธในใจก็หายไปแล้วกว่าครึ่ง
หยวนชิงหลิงเห็นท่าทีของเขาอ่อนโยนลง ค่อยโล่งอกแล้วเดินไปด้านข้างเขา เริ่มจัดการแกะผ้าพันบาดแผลบนหัวของเขา แล้วก็จัดการบาดแผลให้เขาใหม่
เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้ คนแก่เด็กคนนี้โกรธแล้วจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...