บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 620

หรงเยว่ได้ยินประโยคนี้ ก็พูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “อะซี่ เจ้ายังอายุน้อย ไม่รู้ถึงความขมขื่นของข้า รอเมื่อเจ้ามีอายุเท่าข้า เจ้าก็จะร้อนใจ ถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่แสร้ง ต่อให้เปลี่ยนแปลงทางร่างกายใบหน้า ขอเพียงมีส่วนช่วยให้ได้แต่งงาน เจ้าก็ล้วนจะยอมทำ”

อะซี่แลบลิ้นพร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าไม่เดือดร้อน รอเมื่อข้าอายุสิบเจ็ด ท่านย่าน่าจะไปช่วยข้าเลือกคู่แล้ว”

หรงเยว่ถอนหายใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “คนมีครอบครัวดีอย่างนี้นี่เอง”

อะซี่อึ้ง พร้อมถามขึ้นว่า “หรงเยว่ เจ้าไม่มีครอบครัวหรือ?”

“มีพ่อสามห้าคน และก็เป็นเพราะพวกเขาที่ทำให้ข้าไม่ได้แต่งงาน มักพูดว่าผู้ชายไม่ใช่คนดี บอกให้ข้าไม่ต้องแต่งงาน” หรงเยว่พูดขึ้นมาอย่างโกรธจัด

หยวนชิงหลิงกับอะซี่มองตากัน พ่อสามห้าคน? พ่อควรที่จะมีเพียงคนเดียวไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงมีสามห้าคน? แต่ดูท่าทีของหรงเยว่ ดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจ คิดว่าคงจะไม่ใช่เรื่องที่มีความสุขอะไร คนคนหนึ่งมีพ่อสามห้าคน แสดงว่าแม่ของนางแต่งงานหลายครั้ง ไม่ควรที่จะพูดถึง พวกนางจึงไม่ถามต่อ

แต่พวกนางไม่ถาม หรงเยว่กลับพูดขึ้นมาเอง

“หลังจากที่พ่อของข้าแต่งงานกับแม่ของข้า ก็ได้มีเมียน้อยอีกสองคน แม่ของข้าทนรับไม่ไหว จากไปตั้งแต่ตอนที่ข้ายังอยู่ในท้อง ตอนที่คลอดข้า อาศัยอยู่ในวัดร้างแห่งหนึ่ง ตอนนั้นด้านนอกมีพายุฝนตกอย่างหนัก ด้านในจึงมีหลายคนหลบฝนอยู่พอดี ข้าเกิดมาในค่ำคืนท่ามกลางพายุลมแรง แม่ของข้าคลอดข้าเสร็จก็เสียชีวิตแล้ว หลายคนที่หลบฝนอยู่ข้างในเห็นว่าข้าน่าสงสาร ต่างก็พูดว่าจะเลี้ยงดูข้า แย่งชิงตกลงกันไม่ได้ จึงตัดสินใจเลี้ยงข้าคนละหนึ่งปี แล้วก็เช่นนี้ ข้าจึงมีพ่อห้าคน”

หยวนชิงหลิงกับอะซี่ฟังแล้ว ก็รู้สึกอัศจรรย์อย่างมาก เด็กกำพร้าภายในวัดร้างแห่งหนึ่ง มีคนแย้งกันเลี้ยงดูถึงสี่คน? เมียของพวกเขาไม่สามารถคลอดเองได้หรือ? หากบอกว่าด้วยความสงสาร ใครคนใดคนหนึ่งรับเลี้ยงดูก็จบแล้ว ทำไมยังต้องเปลี่ยนกันคนละหนึ่งปี?

หรงเยว่หัวเราะ เหลือบมองดูทั้งสองคน พร้อมพูดขึ้นว่า “ยังมีคำเรียกอีกอย่างหนึ่ง ข้าคือจวิ้นจู่ของแคว้นต้าซิง พ่อของข้าเป็นท่านอ๋องของแคว้นต้าซิง แม่ของข้าถูกเมียน้อยทำร้าย หนีมายังเป่ยถัง แล้วพ่อของข้างก็ส่งคนสนิททั้งสี่คนมาตามหาข้า แต่พวกเขากลัวข้ากลับไปแล้วจะถูกทำร้าย ดังนั้นจึงอยู่ดูแลปกป้องข้าอยู่ที่เป่ยถัง”

พูดมาตั้งนาน กลับเป็นการถูกหรงเยว่ล้อเล่น อะซี่พูดบ่นขึ้นว่า “ชาติกำเนิดของตนเองทำไมถึงกลายเป็นเรื่องเล่า? ใจเจ้ากว้างใหญ่มากหรงเยว่”

หรงเยว่กำหมัด พร้อมถอนหายใจพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “คลายบรรยากาศความตื่นเต้นหน่อย ที่จริงในใจของข้ากลัวหลู่เฟยเหนียงเหนียงจะไม่ชอบข้า”

หรงเยว่ที่มีความมั่นใจในตัวเองมาตลอด กลับกลายเปลี่ยนเป็นไม่มั่นใจขึ้นมาในทันใด ทำให้หยวนชิงหลิงค่อนข้างคาดไม่ถึง

นางยิ้มพร้อมพูดปลอบขึ้นว่า “เจ้าวางใจ ในเมื่อหลู่เฟยเหนียงเหนียงยอมพบเจ้า แสดงว่าในใจของนางก็ไม่ได้ปฏิเสธเจ้า เจ้าเพียงแค่ทำตัวให้ดีที่สุดก็พอ คนคํานวณหรือจะสู้ฟ้าลิขิต ให้เป็นไปตามธรรมชาติ อย่ากดดันตนเองขนาดนั้น”

หรงเยว่พยักหัว มองดูหยวนชิงหลิงอย่างซาบซึ้งใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายารัชทายาทช่วยข้าขนาดนี้ ต่อไปข้าจะไม่ลืมบุญคุณของเจ้าเด็ดขาด”

หยวนชิงหลิงหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “ดูเจ้าพูดจาอะไรกัน? ต่อไปหากเจ้าแต่งงานกับเจ้าหกแล้ว ข้ากับเจ้าก็เป็นสะใภ้คนพี่คนน้อง เป็นครอบครัวเดียวกัน”

ในใจหรงเยว่อยากที่จะให้เรื่องประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่นางก็เคยสืบเรื่องของหลู่เฟย ค่อนข้างหัวสูง อาจจะไม่ชอบนางก็ได้

อะซี่ไม่สนใจว่าหรงเยว่จะตื่นเต้น ถามขึ้นอย่างอยากรู้ว่า “พี่หรงเยว่ หากหลู่เฟยเหนียงเหนียงไม่ชอบเจ้า เจ้าจะทำยังไง? จะตัดใจหรือ?”

ดวงตาคู่หงส์หรี่ลง กลายเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยม พร้อมพูดขึ้นว่า “ตัดใจเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด หากนางไม่ยอม ข้าก็จะลักพาตัวอ๋องหวยไป ไม่ว่าจะไกลสุดขอบฟ้า ไม่ว่ายังไงข้าก็จะต้องแต่งงานกับเขา”

นี่ค่อยเป็นวิธีที่สมกับเป็นหรงเยว่ หยวนชิงหลิงกับอะซี่ต่างก็หัวเราะขึ้นมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน