บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 619

งานเลี้ยงไหว้อาจารย์ในครั้งนี้ สำหรับท่านชายสี่ไม่ถือเป็นการเอิกเกริกใหญ่โต เพียงแค่เชิญผู้ปกปักษ์รักษากับ ผู้อาวุโสสำนักเหลิ่งหลังไม่กี่คน ผู้อาวุโสกับผู้ปกปักษ์รักษาพวกนี้ต่างก็ยังอายุน้อยมาก คนที่อายุมากที่สุดคนนั้นก็แค่สี่สิบกว่าเอง

หลังจากคนของสำนักเหลิ่งหลังมาถึงจวนอ๋องฉู่ ก็มีการประชุมเป็นการส่วนตัว ปรึกษาหารือเรื่องผู้สืบทอดในอนาคตว่ามีคุณสมบัติเพียบพร้อมเหมาะสมหรือไม่

สุดท้ายทุกคนต่างเห็นว่า พระชายารัชทายาทไม่มีฝีมือศิลปะการต่อสู้ ไม่เหมาะสมที่จะเป็นนายน้อยของสำนักเหลิ่งหลัง หวังว่าท่านชายสี่จะเปลี่ยนใจ

ท่านชายสี่ฟังพวกเขาปรึกษาหารือกันอยู่ตลอด ก็ไม่ได้พูดว่าอะไร รอสุดท้ายเมื่อพวกเขาสรุปความกันแล้ว คอยพูดขึ้นอย่างเชื่องช้าว่า “อืม การเลือกนายน้อยตัดสินใจเช่นนี้แล้ว เตรียมงานเลี้ยงไหว้อาจารย์เถอะ”

ทุกคนก็เคยชินกับการที่ท่านชายสี่ มีความคิดเป็นของตนเองไม่สนใจว่าคนอื่นจะเห็นด้วยหรือไม่ การไม่เห็นด้วยเป็นเพียงการพูดขึ้นมาเท่านั้นเองมาตลอด หากท่านชายสี่ตัดสินใจแล้ว ใครพูดอะไรก็จะไม่ฟัง เมื่อได้ยินท่านชายสี่พูดเช่นนี้ ทุกคนก็ไม่พูดอะไรกันอีก ทำตามก็พอแล้ว

ต่อมา หรงเยว่ค่อยอธิบายให้ทุกคนฟัง สิ่งที่ท่านชายสี่ต้องการไม่ใช่พระชายารัชทายาท แต่เป็นพระราชนัดดาทั้งสาม

พระราชนัดดามีหมาป่าหิมะ ไม่ว่าต่อไปพระราชนัดดาคนไหน สืบทอดเจ้าสำนักของสำนักเหลิ่งหลัง ชื่อสำนักเหลิ่งหลังสามคำนี้ ก็จะเป็นชื่อที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรมแล้ว ความตั้งใจของท่านชายสี่ก็จะสมปรารถนา

พระราชนัดดาทั้งสาม ซาลาเปาถูกเลือกให้เป็นพระราชนัดดาองค์ใหญ่แล้ว ดังนั้นซาลาเปาจะไม่ได้เป็นเจ้านายน้อยของสำนักเหลิ่งหลัง เหลือเพียงทังหยวนกับข้าวเหนียวน้อย

เมื่อท่านชายทั้งสามถูกรับออกมาจากในวังแล้ว ผู้ปกปักษ์รักษากลับพวกผู้อาวุโสต่างก็มาเยี่ยม สุดท้าย ต่างเห็นว่าทังหยวนเหมาะสมที่สุด ข้าวเหนียวน้อยขี้ร้องไห้ เด็กขี้ร้องไห้ไม่สามารถที่จะกลายเป็นเจ้าสำนักของสำนักเหลิ่งหลัง

แล้วเช่นนี้ อนาคตที่ไม่มีใครรู้ของทังหยวน ทุกกำหนดเส้นทางชีวิตในอนาคตเรียบร้อยแล้ว กลายเป็นผู้สืบทอดเจ้าสำนักรุ่นที่สามของสำนักเหลิ่งหลัง หมดหนทางเลือกแล้ว?

การเลี้ยงไหว้อาจารย์เรียบง่ายแต่ยิ่งใหญ่ เรียบง่ายเพราะทุกคนเพียงแค่รวมตัวทานข้าวด้วยกัน หยวนชิงหลิงโค้งคำนับไม่กี่ครั้ง ยื่นน้ำชา พร้อมเรียกว่าอาจารย์อย่างเคารพนับถือ

ซองแดงของอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่เป็นซองที่ใหญ่มากจริงๆ เป็นโฉนดที่ดินหัวแดงของซาวโถ๋จุ้ยในเมืองหลวง พูดอีกอย่างก็คือ หยวนชิงหลิงกลายเป็นเถ้าแก่ซาวโถ๋จุ้ยในเมืองหลวง แต่ด้วยสถานะของนางไม่เหมาะสมที่จะออกหน้ากากการดูแลซาวโถ๋จุ้ย จึงยกให้กับผู้ปกปักษ์รักษาฮูฮูดูแลแทน ฮูฮูก็กลายเป็นหัวหน้าผู้ปกปักษ์รักษาของหยวนชิงหลิง

ปีนี้ฮูฮูอายุยี่สิบสาม เป็นนักรบมีฝีมือสูงส่งเป็นอันดับเจ็ดในยุทธภพ หรงเยว่เป็นคนเสนอให้เขาอยู่ที่ซาวโถ๋จุ้ยในเมืองหลวง คนที่ฮูฮูเกรงกลัวที่สุดก็คือหรงเยว่นางรากษส หรงเยว่เสนอเขาไม่กล้าขัดขืนทำได้เพียงเชื่อฟังอย่างว่าง่าย

แต่ไหว้อาจารย์ก็ต้องมีของให้ ท่านชายสี่หน้าด้านขอหมาป่าหิมะของทังหยวนกับหยวนชิงหลิง หยวนชิงหลิงคิดถึงคำพูดของเจ้าห้า รับปากทันทีที่จะยกหมาป่าหิมะให้กับท่านชายสี่

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีการทั้งหมดแล้ว ท่านชายสี่ดื่มจนเมา จากนั้นก็ตั้งใจพูดกับหยู่เหวินเห้าถึงจุดประสงค์หลักเบื้องหลังแผนการทั้งหมดของเขาว่า “ตามหลักแล้ว ท่านอ๋องก็ควรเรียกข้าว่าอาจารย์ตามหยวนชิงหลิง ดังนั้น เรื่องต่างๆก่อนหน้านี้....อืม ก็คือเรื่องอะไรต่างๆพวกนั้น ไม่ควรที่จะพูดขึ้นมาอีก ระหว่างเราใครก็คิดเกินเลย”

พูดอีกอย่างก็คือ อะไรที่ว่าชายรักชาย อะไรที่ว่าชื่นชอบองค์ชายรัชทายาท ตอนนี้กลับกลายเป็นไม่ใช่เรื่องที่สมควร ไม่ควรที่จะมีคนพูดขึ้นมาอีก

หยู่เหวินเห้าได้ผลประโยชน์อย่างมาก จึงให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี อีกอย่าง เรื่องนี้ก็ค่อนข้างแปลกประหลาด เกี่ยวกับสิ่งที่ท่านชายสี่ประสงค์ ภายในจวนไม่มีใครพูดถึงอีก ใครพูดถึงคนนั้นหัวหลุดออกจากบ่า

ท่านชายสี่กลับมาในห้องอย่างพออกพอใจ นอนลงกางมือนับดูว่าการมาในครั้งนี้สูญเสียไปแล้วเท่าไหร่ เงินสองล้านตำลึงบวกกับซาวโถ๋จุ้ยที่สามารถทำเงินได้ แต่จะพูดว่าสูญเสียก็ไม่ได้ ควรที่จะพูดว่าเป็นการแลกเปลี่ยน เพราะเขาได้หมาป่าหิมะที่ถวิลหาแม้ในยามฝันมาแล้ว

ไม่ ไม่ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยน เขาได้ประโยชน์มาอย่างสูงสุดแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน