บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 618

หยวนชิงหลิงมองดูหรงเยว่ พร้อมพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “หรงเยว่ ข้ารู้เรื่องหมดแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องปิดบัง”

“นี่ไม่เกี่ยวอะไรกับปิดบัง สิ่งที่สำคัญก็คือพวกเราบริสุทธิ์ใจ พวกเราจะฆ่าเจ้าได้อย่างไร? ไม่ได้มีความแค้นอะไรกับเจ้า จะฆ่าเจ้าทำไม?”

“งานที่สำนักเหลิ่งหลังรับก็คือการซื้อขายหัวคนไม่ใช่หรือ? ก็ต้องมีคนให้เงินสิ” หยวนชิงหลิงพูดขึ้น

หรงเยว่หัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “งั้นก็น่าแปลกแล้ว ถึงแม้เจ้าจะเป็นพระชายารัชทายาท แต่หัวของเจ้าก็จะมีค่าเพียงไม่กี่หมื่นหรือ นี่เป็นราคาที่สูงที่สุดแล้ว แต่เรามาถึงเมืองหลวง จ่ายไปตั้งมากกว่าสองล้านตำลึง ใครจะโง่ยอมเสียจ่ายสองล้านเพื่อเงินไม่กี่หมื่น? สำนักเหลิ่งหลังของเราไม่ได้โง่ เห็นว่าพวกเราโง่เงินเยอะหรือ สำนักเหลิ่งหลังมีนักฆ่าเยอะขนาดนี้ ต้องการเอาชีวิตเจ้า ถึงกับให้ข้ากับท่านชายสี่ลงมือหรือ?”

หยวนชิงหลิงฟังแล้วก็รู้สึกว่ามีเหตุผล จึงพูดขึ้นว่า “ดังนั้น ท่านชายสี่มาเพื่อเจ้าห้าจริงๆหรือ? เขาเป็นชายรักชายจริงๆหรือ?”

หรงเยว่มองดูหน้าประตู นั่งใกล้หยวนชิงหลิงพร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงต่ำว่า “ด้วยตำแหน่งสถานะของท่านชายสี่ตอนนี้ เดิมคำพูดนี้ไม่ควรที่จะพูดออกมาง่ายๆ แต่พระชายารัชทายาทไว้ใจได้ บอกเจ้าก็ไม่เป็นไร ท่านชายสี่ไม่ชอบผู้หญิงจริงๆ อยู่ที่จื๋อลี่ เขาก็มีชายหนุ่มรูปงามหลายคนคอยปรนนิบัติอยู่ข้างหมอน”

หยวนชิงหลิงมองดูนางอย่างสงสัยพร้อมพูดขึ้นว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แล้วทำไมยังถึงต้องมาหาเจ้าห้า? เขาต้องการที่จะอยู่กับเจ้าห้าจริงๆหรือ?”

หรงเยว่ส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่ เขาชื่นชมองค์ชายรัชทายาท อยากทำความรู้จักองค์ชายรัชทายาทแค่นั้น พระชายารัชทายาทวางใจเถอะ เอาไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อเจ้า ในเมื่อเขาชื่นชมองค์ชายรัชทายาท เป็นที่แน่นอนว่าต้องคาดหวังให้องค์ชายรัชทายาทมีความสุข ไม่ไปทำลายความรักระหว่างพวกเจ้า”

หยวนชิงหลิงรู้สึกว่าคำพูดเช่นนี้ไม่มีความน่าเชื่อถือ หรงเยว่พูดเหมือนกับเจ้าห้าเป็นขวัญใจของท่านชายสี่ การเข้าเมืองหลวงมาในครั้งนี้ของท่านชายสี่ก็เพื่อมาตามขวัญใจ ทุ่มเงินทีเป็นสองล้านตำลึง แต่เมื่อพิจารณาดูแววตาของเขาที่มองเจ้าห้า ไม่ได้มีความเจิดจ้าขนาดนั้นเลย

ไปภพก่อนหยวนชิงหลิงเคยตามดารานักเตะ มุลเลอร์ของทีมฟุตบอลเยอรมัน มีอยู่ปีหนึ่ง ตอนที่มุลเลอร์มาร่วมงานการแข่งขันกระชับมิตรกวางโจว ตอนที่งานเสร็จสิ้นนางวิ่งไล่ตามรถทัวร์สามกิโล ร้องเรียกตะโกนอยู่อย่างบ้าคลั่ง วิ่งจนรองเท้าหลุด ล้มลงอยู่บนพื้น นางยังมองดูก้นรถทัวร์ที่วิ่งไปไกลแล้วอย่างลุ่มหลง ไม่อยากที่จะจากไป

แต่เมื่อตอนที่ท่านชายสี่อยู่ต่อหน้าเจ้าห้า จะรู้สึกเก้อเขิน ไม่เป็นตัวของตัวเอง แววตาพล่ามัว ไม่มีท่าทีชื่นชอบหลงใหลอะไรเลย? อีกอย่าง ตอนนี้เมื่อนางคิดดูแล้ว รู้สึกว่าท่านชายสี่ก็อาจจะไม่ใช่ชายรักชาย เขายังไม่แต่งงาน อาจจะเป็นเพราะไม่ชอบผู้หญิง เป็นเพราะอุปนิสัยเย็นชา เขาเย็นชากับทุกคน

ตั้งแต่รู้จักเขามาจนถึงตอนนี้ เคยเห็นดวงตาของเขาเป็นประกายเพียงครั้งเดียว ก็คือตอนที่มองเห็นหมาป่าหิมะ นั่นต่างหากถึงจะเป็นความบ้าคลั่งหลงใหลที่ควรจะมีในการตามดารา อยากที่จะโผเข้าไปกอดไว้แน่นอย่างรักใคร่

แต่เผชิญหน้ากับหรงเยว่ที่มีความปรารถนาเอาตัวรอดอย่างแรงกล้า นางก็จับผิดอะไรไม่ได้ จึงต้องปล่อยไป

แต่ความสงสัยของหยวนชิงหลิงก็อยู่ส่วนสงสัย ยังคงต้องติดตามท่านชายสี่ตลอด อาศัยตอนที่นางยังไม่ขึ้นไปบนเขาโรคเรื้อน จับนางฝึกศิลปะการต่อสู้

เมื่อเขารู้ว่าหยวนชิงหลิงไม่มีพื้นฐานในการฝึกศิลปะการต่อสู้ ก็ค่อนข้างอยากจะบ้า พูดขึ้นอย่างโกรธเคืองใครว่า “เริ่มจากพื้นฐาน ยืนท่าม้า หรงเยว่ เจ้าเฝ้าดูนาง”

เขาเข้าไปในศาลาเพื่อดื่มชาและกินขนม ท่าทีสบายอกสบายใจ

วันนี้หยวนชิงหลิงยังต้องเข้าวังไปพบไท่ซ่างหวง กลับถูกจับตัวมายืนท่าม้าอยู่ในลาน แล้วนั่งยองๆสักพัก ก็ทนไม่ไหวแล้ว ร้องพูดขึ้นว่า “ท่านชายสี่ ข้าไหว้ท่านเป็นอาจารย์ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

ท่านชายสี่ไม่สนใจนาง หรงเยว่ที่อยู่ด้านข้างพูดอธิบายขึ้นว่า “พระชายารัชทายาท เคยดื่มชาไหว้รับอาจารย์แล้ว วันนี้ฝึกฝนเป็นวันแรก ท่านก็ได้เริ่มฝึกตามคำสั่งของท่านชายสี่แล้ว ก่อนหน้านี้ท่านชายสี่เคยสาบานไว้ ตลอดชีวิตนี้จะรับลูกศิษย์เพียงคนเดียว ดังนั้น ต่อไปหากท่านรอจนท่านชายสี่เกษียณหรือสิ้นชีพแล้ว จะต้องรับตำแหน่งเจ้าสำนักสำนักเหลิ่งหลัง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน