บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 642

ตอนที่จากไป พระชายาจี้ส่งพวกนางด้วยตนเองที่ประตู หยวนชิงหลิงครุ่นคิด ดึงพระชายาจี้ไปอีกฟาก พูดเสียงเบาว่า “การพึ่งพิงชั่วคราวในยามไร้สิ้นหนทางของบั้นปลายชีวิตนั้นจอมปลอมที่สุด แต่การกลับใจอย่างยิ้มแย้มเบิกบานจึงจะล้ำค่า เจ้าไตร่ตรองให้ดี”

พระชายาจี้หัวเราะออกมาเบาๆ ในสายตามีแต่แววล้อเล่น “ทำไม เจ้าคิดว่าข้าใจอ่อนหรือ”

“เมื่อครู่ตอนที่เขายื่นชาให้เจ้า ความสุขในแววตาเจ้านั้นปิดไม่มิด”

พระชายาจี้ยื่นมือออกไปจับปอยผมที่ละอยู่ข้างแก้ม “นั่นเพราะเจ้ายังบำเพ็ญไม่พอ ดูไม่ออกหรือ ข้ากับเขาคนหนึ่งเสแสร้งเป็น อีกคนเสแสร้งเก่งยิ่งกว่า ต่อหน้าผู้คนต่างรักใคร่ลับหลังผู้คนเย็นชาใส่ แม้จะเหนื่อย แต่ว่าชีวิตก็ต้องเหนื่อยเช่นนี้ต่อไปนั่นแหละ”

หยวนชิงหลิงได้ยินคำนี้ จึงวางใจ พระชายาจี้นั่นมีสติมากที่สุด แต่นางเกรงว่าผู้หญิงต่างหลีกไม่พ้นการช่วงชิงความใจอ่อนไป

ตลอดทางที่กลับจวน คุณย่าหยวนยังคงชื่นชมอ๋องจี้ไม่หยุด หยวนชิงหลิงย่อมไม่อยากพูดความจริงให้นางรู้ คุณย่าไม่จำเป็นต้องเผชิญหน้ากับความชั่วร้ายสกปรกเหล่านี้ ให้นางคิดว่าพี่น้องของเจ้าห้านั้นต่างก็ดีมาก

คิดถึงเรื่องของพระชายาอัน หัวใจของหยวนชิงหลิงยังคงรู้สึกหนักอึ้งอยู่บ้าง

พระชายาอันยังไม่สู้พระชายาเว่ย ตอนนั้นพระชายาเว่ยเพราะว่าเป็นโรคจึงได้รู้สึกหมดอาลัยตายอยาก แต่ว่าพระชายาเว่ยนั้นเข้มแข็งมาก ราวกับต้นหญ้าในสายลม เอาแต่ต่อต้านกระแสลมอยู่เสมอ

แต่พระชายาอันนั้นเป็นดอกกุหลาบที่เบ่งบานอยู่ในสวนและถูกดูแลเป็นอย่างดี ถ้าเกราะป้องกันถูกฉีกขาด เผชิญกับลมฝน เช่นนั้นก็คงมีจุดจบที่ต้องร่วงโรยอยู่เต็มพื้น

อะหลู ในใจของนางพึมพำชื่อนี้อยู่เงียบๆ

วันรุ่งขึ้นคนที่มาหาเรื่องก็ค่อยๆลดน้อยลงไปมาก แต่ว่าการไม่มาหาเรื่องที่หน้าประตูจวนอ๋องฉู่ไม่ได้หมายความว่าเรื่องจะสงบลงแล้ว โดยเฉพาะอากาศที่ค่อยๆเย็นลง ในเมืองหลวงมีผู้คนไม่น้อยที่เป็นไข้หวัด ทำเอาโรงหมอหุ้ยหมิงอัดแน่นไม่ด้วยคนไข้ไม่มีทางระบายออกไปได้

โรงหมอเจ้าต่างๆก็มีคนไข้ล้นมือ ราคายาก็พุ่งสูงขึ้น การให้การรักษาได้กลายเป็นปัญหาใหญ่หลวงที่เป่ยถังต้องแก้ไขโดยเร็วที่สุด

การขาดแคลนการรักษาทำให้ชาวบ้านต่างหันเหความโมโหไปยังตัวพระชายารัชทายาท ชาวบ้านที่โกรธเคืองลุกฮือทั้งสี่ทิศ ทุกครั้งที่ฮ่องเต้ประชุมเช้าจะได้ยินอวี้สื่อเข้ามาตักเตือน ให้เขาเผชิญหน้ากับเรื่องนี้

แม้ว่าก่อนหน้านี้ฮ่องเต้หมิงหยวนจะสั่งห้ามไม่ให้หยวนชิงหลิงขึ้นเขา แต่ว่าในทางปฏิบัตินั้นก็เป็นการลืมตาข้างหนึ่งปิดตาข้างหนึ่ง ตอนนี้เห็นทีเขาเองก็แบกรับไม่ไหวแล้ว

แต่หยู่เหวินเห้าดันมีงานยุ่งมาก ในเมืองหลวงมีคดีฆาตกรรมหลายคดีเกิดขึ้นและยังมีคดีโจรกรรมอีก การโจรกรรมไม่ใช่การโจรกรรมธรรมดา แต่เป็นการลอบเข้าไปในห้องหนังสือของเหล่าขุนนางใหญ่ทั้งหลาย เอาหนังสือบางส่วนไป

สถานการณ์วุ่นวายมากมายเช่นนี้ ทำให้หยู่เหวินเห้าเหน็ดเหนื่อยมาก ไม่มีพลังใจมากมายจะไปสนใจเรื่องอื่นแล้ว และคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้จนบัดนี้ยังคลี่คลายไม่ได้ ทางด้านกรมอาญาก็เคยเพิ่มความกดดันตั้งหลายครั้งแล้ว ให้พวกเขาไขคดีให้ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด

อ๋องชินสู้ของต้าซิงอยู่ที่นี่ เมืองหลวงวุ่นวายเป็นเช่นนี้ ทำให้เหล่าขุนนางทั้งบุ๋นบู๊ต่างก็รู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกเหมือนกับว่าให้ต้าซิงมองดูเป่ยถังที่แสนจะวุ่นวาย ทำลายภาพลักษณ์ของเป่ยถัง

หยวนชิงหลิงยังคงขึ้นเขาต่อเนื่อง คุณย่าหยวนยืนกรานจะตามขึ้นไปด้วย คุณย่าหยวนให้ตำรับยาแพทย์แผนจีนไปหลายขนาน ใช้การรวมรูปแบบในการรักษาทั้งจีนและตะวันตกเพื่อรักษาคนไข้

พวกเขาล้วนกำลังทำงานทั้งที่ฟ้าเบื้องบนกำลังถูกปกคลุมด้วยกลุ่มเมฆ เมฆหมอกชั้นนี้ยิ่งสะสมก็ยิ่งหนาแน่นขึ้น หลังจากนั้นคงจะทำให้เกิดพายุฝนฟ้ากระหน่ำลงมา

ในที่สุด ก็มีฟ้าผ่าเกิดขึ้นใจกลางเมืองหลวง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน