ด้วยการเชิญจากไท่หวงไท่เฮาเซิ่งอันแห่งต้าซิง หยวนชิงหลิงจากที่ทุกคนต่างก็มองว่านางเป็นคนร้ายมีโทษมหันต์กลับกลายมาเป็นที่หมายปองของทุกคนอย่างกะทันหัน
มีราชโองการส่งไปถึงจวนอ๋องฉู่ หยวนชิงหลิงก็รีบเก็บข้าวของพาหมันเอ๋อกับอะซี่ออกเดินทางทันที คุณย่าหยวนย่อมต้องตามไปด้วยแน่นอน
แบ่งเป็นรถม้าสองคัน มีสวีอีกับทังหยางไปส่ง
หมู่ตึกเหมยนั้นตั้งอยู่บนภูเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหลวง ตอนนี้เริ่มเข้าสู่ต้นหน้าหนาวแล้ว บนเขามีหิมะปกคลุมเต็มไปหมด อากาศหนาวเย็นมาก
หลังจากรถม้ามาถึงกลางภูเขา ก็ไม่มีถนนใหญ่ให้ขึ้นเขาอีก ต้องลงจากรถม้าเพื่อเดินเท้าขึ้นไป
เพราะการเดินทางออกมาครั้งนี้อย่างน้อยต้องอยู่ที่นี่ครึ่งเดือน ฉะนั้นสิ่งที่นำมาด้วยจึงมีเยอะมาก คุณย่าหยวนไม่สามารถเดินบนเส้นทางภูเขาได้ สวีอีจึงแบกนางขึ้นไป ภาระอันหนักอึ้งของสัมภาระทั้งหลายจึงตกไปอยู่ที่หมันเอ๋อกับทังหยางและอะซี่ หยวนชิงหลิงบอกว่าจะช่วย พวกเขาเป็นตายอย่างไรก็ไม่ยอมให้ช่วย บอกว่านางสามารถดูแลตัวเองให้เดินขึ้นเขาโดยไม่หอบหายใจได้ก็พอแล้ว
พวกเขาดูถูกหยวนชิงหลิงเกินไป นางได้มีการเปลี่ยนแปลงตั้งนานแล้ว
แม้ว่าวรยุทธจะยังไม่เท่าไหร่ แต่วิชาตัวเบานั้นฝึกได้ไม่เลว วิชาตัวเบาดี กังฟูใต้ฝ่าเท้าย่อมดีด้วย อย่างน้อยเวลาเดินก็เบาหวิวรู้จักการใช้พลัง เดินมาครึ่งชั่วยามแล้ว แต่ก็ไม่เห็นนางเผยให้เห็นสีหน้าเหน็ดเหนื่อยเลย
แม้แต่ทังหยางยังเพิ่มความชื่นชมในตัวนางมากขึ้น
ทิวทัศน์ตลอดทางขึ้นเขานั้นดีมาก ที่นี่เรียกว่าหมู่ตึกเหมย สวยสมคำล่ำลือ ตลอดทางที่เดินขึ้นมาพบเห็นต้นดอกเหมยไม่น้อย มีดอกตูมขึ้นเต็มต้นไปหมด บางส่วนก็เบ่งบานให้เห็นสีชมพูอ่อนนุ่ม กลิ่นหอมของดอกเหมยโชยมา ทำให้รู้สึกสบายอกสบายใจขึ้นมาทันที
ในใจของหยวนชิงหลิงเต็มไปด้วยความคาดหวัง นางเคยพบหมอหลิน แต่ไม่เคยพบกับชายาเฟิงอัน เคยได้ยินคนพูดถึงหลายครั้ง ได้แต่มีความปรารถนามาตลอด หวังว่าจะสามารถพบกันสักครั้ง ไม่คิดว่าความฝันจะกลายเป็นจริงแล้ว
เพราะในใจมีความหวัง และความตื่นเต้นจึงเดินได้เร็วขึ้น อะซี่ก็ตามนางไม่ทัน ร้องตะโกนอยู่ข้างหลัง “พี่หยวน ท่านอย่าเดินเร็วนัก ถนนลื่นนะ ”
หยวนชิงหลิงหยุดฝีเท้าลงรอพวกเขา มองจากเบื้องสูงลงเบื้องล่างเห็นภูเขาที่ทอดยาว ความคึกคักของเมืองหลวงถูกปิดกั้นไว้ด้านนอก สูดหายใจเข้าลึกๆหนึ่งเฮือก อากาศนั้นบริสุทธิ์มาก
สวีอีที่แบกคุณย่าหยวนเอาไว้ขึ้นมาถึงข้างกายหยวนชิงหลิงก่อน หยวนชิงหลิงถามว่า “สวีดี เหนื่อยหรือไม่”
สวีอีพูดด้วยเสียงดังกังวานว่า “ฮูหยินเฒ่าร่างกายเบาหวิว ไม่เหนื่อยเลยสักนิด คิดถึงเมื่อก่อนตอนที่ข้าแบกหมูตัวหนึ่ง ก็สามารถก้าวเท้าได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน ”
ทุกคนต่างก็หัวเราะออกมา ทังหยางหัวเราะพลางด่าว่า “รู้จักพูดจาหรือไม่”
คุณย่าหยวนหมอบอยู่บนหลังของสวีอี รู้สึกเกรงใจมาก “เจ้าหนุ่ม เจ้าปล่อยข้าลง ข้าสามารถเดินได้อยู่ ให้เจ้าได้พักสักหน่อยเถอะ”
“ไม่เป็นไร ข้าสามารถไปถึงยอดเขาได้ในลมหายใจเดียว ไม่เหนื่อยเลยสักนิด ฮูหยินเฒ่าท่านอย่าห่วง ข้าแบกเอาไว้ปลอดภัยมาก”สวีอีพูดอย่างได้ใจ
อะซี่พูดว่า “เจ้าน่ะไม่เหนื่อย แต่ฮูหยินเฒ่าเหนื่อยนะ เจ้าปล่อยลงมาก่อน พวกเราพักกันที่นี่ ให้ฮูหยินเฒ่าได้ขยับเคลื่อนไหวร่างกายบ้าง”
สวีอีจึงปล่อยคุณย่าหยวนลงมา อะซี่ประคองนางอยู่ข้างหลังให้ยืนอย่างมั่นคงแล้วค่อยปล่อยมือ
คุณย่าหยวนอมยิ้มมองทั้งสองคน “ตลอดทางได้ยินพวกเจ้าพูดจาหัวเราะกัน รู้สึกว่าตัวเองก็อายุน้อยลงหลายสิบปี เป็นหนุ่มสาวช่างดีจริงๆ”
อะซี่แลบลิ้น เผยรอยยิ้มซุกซนออกมา ,“ฮูหยินเฒ่าดูแล้วก็อายุน้อยมาก ท่านขยับร่างกายไปก่อน ข้าจะไปเอาน้ำมาให้ท่าน”
พูดจบ ก็กระโดดโลดเต้นไปยังกระเป๋าเดินทางของหมันเอ๋อเอากาน้ำหนังวัวออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...