พระชายาเฒ่าได้ยินที่ทั้งสองปรึกษากัน ก็พูดว่า “ตอนนี้เรื่องของโรคเรื้อนปะทุขึ้นมาใหญ่มาก เชื่อว่าคงจะเกี่ยวพันกับการเมืองด้วย ทางที่ดีที่สุดคือทำสองสิ่งพร้อมกัน ถ้าหากมีความต้องการอะไร ขอแค่บอกกับข้าก็พอ ถังที่ใช้สำหรับแช่น้ำสมุนไพรข้าจะสั่งให้สี่น้อยส่งไปให้”
สี่น้อยที่นางพูดถึง คือท่านชายสี่เหลิ่ง
หยวนชิงหลิงได้ยินแล้ว พูดว่า “แต่ว่า ถ้าหากส่งถังใหญ่ขึ้นเขา เกรงว่าอาจจะเป็นจุดสนใจได้ ”
พระชายาเฒ่าพูดว่า “เป็นจุดสนใจของใครก็ไม่เป็นไร ตอนนี้ที่พวกเขาต้องการคือเจ้าไม่ขึ้นเขา คนอื่นๆขึ้นไปส่งสิ่งของ ต้องมีคนรู้อยู่แล้ว จะทำอย่างไรกับใครได้ ให้พวกเขามาหาข้า หรือว่า ไปหาท่านอ๋องก็ได้”
หยวนชิงหลิงคิดว่าหมาป่าของนางร้ายกาจขนาดนี้ ใครจะกล้วขึ้นมาหานางกันเล่า แม้จะรู้ว่านางอยู่ที่นี่ เกรงว่าก็คงไม่มีใครกล้ามา
นางก็มองไปยังเหล่าเครื่องใช้เหล่านี้ที่ถูกทำลาย คิดว่าอ๋องชินเฟิงอันที่ใจร้อนคนนั้นเป็นคนอย่างไรกันแน่ เขาเป็นพี่ใหญ่ของไท่ซ่างหวง เช่นนั้นก็เท่ากับว่าแก่กว่าไท่ซ่างหวง อายุเยอะแล้วยังชอบอาละวาดทุบทำลายข้าวของ ไม่รู้ว่าพระชายาเฒ่าอดทนได้อย่างไรกัน
แต่คิดดูแล้วก็รู้สึกว่าพระชายาเฒ่าไม่จำเป็นต้องรู้สึกน้อยใจ หมาป่าของนางน่าจะฟังคำสั่งของนางเท่านั้น
นางหัวเราะอย่างลำบากใจเสียงหนึ่ง มองไปที่เก้าอี้ที่พระชายาเฒ่านั่ง ,“พวกเขาคงไม่กล้า ท่านว่านิสัยของท่านอ๋อง……แข็งกระด้างไม่กลัวใคร คนทั่วไปคงไม่กล้ามา เกรงว่าก็คงจะมีแต่พระชายาท่านเท่านั้นที่คุมอยู่ ”
พระชายาเฒ่ากลับเอ่ยอย่างอารมณ์เสียว่า “ข้าคุมเจ้าเฒ่าเกเรนั้นไม่อยู่หรอกนะ เขาอย่ามารังแกข้าก็นับว่าไม่เลวแล้ว หลายปีมานี้ข้าต้องทนเขาตั้งเท่าไหร่ ต้องรู้สึกน้อยใจกี่ครั้ง ตั้งแต่แต่งงานกับเขาก็ไม่เคยได้ใช้ชีวิตที่สงบสุขสักวัน ตอนนั้นตาบอดไปจริงๆ”
หมอหลินพูดยิ้มๆว่า “เขากล้ารังแกเจ้าหรือ เขาไม่กลัวหมาป่าของเจ้าหรือ”
พระชายาเฒ่าพูดอย่างไร้ความสามารถเป็นที่สุดว่า “เขาหรือจะกลัวหมาป่า หมาป่ายังกลัวเขาด้วยซ้ำไป”
นี่ทำให้ทุกคนต่างรู้สึกตกใจและประหลาดใจพร้อมกัน พระชายาเฒ่าคนนี้ถูกขนานนามว่าเป็นแม่ทัพน้อยแห่งชาวหมาป่า หมาป่าทั้งหลายล้วนเป็นนางที่ฝึกฝนออกมา ทำไมจึงกลับกลายเป็นว่ากลัวท่านอ๋องเฒ่าไปได้
เห็นได้ชัดว่าพระชายาเฒ่าไม่ยินดีจะพูดอีก หลังจากสั่งให้คนดูแลอาหารการกินหนึ่งมื้อแล้ว ก็ให้พวกหยวนชิงหลิงเปลี่ยนชุดออกเดินทาง จะได้ไม่ดึกมากเกินไป
ตอนที่ลงจากเขา ก็ไม่ได้ใช้เส้นทางตอนขึ้นเขาอีก แต่เป็นการลงจากทางด้านหลังเขา ยังคงเป็นสาวใช้คนเมื่อครู่ที่ส่งพวกเขาลงจากเขา
หลังจากกล่าวลากันแล้ว สวีอีก็แบกคุณย่าหยวนขึ้น คนที่เหลือก็ยังคงแบกสัมภาระเร่งลงเขาอย่างทำเวลา
เดินออกจากหมู่ตึกเหมยไกลแล้ว แต่ก็ยังสามารถเห็นต้นดอกเหมยได้ทุกที่ หยวนชิงหลิงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “พระชายาช่างชื่นชอบดอกเหมยจริงๆ”
ไหนเลยจะรู้ว่าสาวใช้คนนั้นกลับพูดขึ้นว่า “คนที่ชื่นชอบดอกเหมยไม่ใช่พระชายา แต่เป็นท่านอ๋อง ดอกเหมยเต็มภูเขาเหล่านี้ ล้วนเป็นท่านอ๋องที่ปลูกเอาไว้ตั้งแต่แรก”
“เอ๋ ”หยวนชิงหลิงรู้สึกคาดไม่ถึง ปรากฏว่าเป็นอ๋องชินเฟิงอัน แต่ว่าท่านอ๋องที่พระชายาพูดถึงคนนั้นอารมณ์ร้อนนิสัยรุนแรง กลับชื่นชอบดอกเหมยที่เป็นสิ่งสูงส่งสวยงาม ช่างน่าประหลาดใจจริงๆ
“เอ๋ ท่านอ๋องกลับมาแล้ว”สาวใช้คนนั้นพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ทุกคนต่างก็รีบเงยหน้าขึ้นมองออกไป เห็นเพียงบนเนินเขาที่อยู่ไกลออกไป ค่อยๆควบม้าลงมา แต่เมื่อจ้องมองดีๆ กลับไม่ใช่ขี่ม้า ที่เขาขี่อยู่นั้นปรากฏว่าเป็นเสือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...