เมื่อการสนทนาจากด้านล่างค่อยๆยุติลง ฮ่องเต้หมิงหยวนทรงรับสั่ง รับสั่งให้คนสิบสองคนที่เคยรายงานความผิดรัชทายาท ทุกคนจะถูกลงโทษโดยการหักเงินเดือนหนึ่งปี และตักเตือนอย่างเข้มงวด ถ้าค้นพบว่ายังรวมพรรคพวกสมรู้ร่วมคิดกันจะถูกไล่ออก
ส่วนเรื่องที่ชายารองหลูได้สั่งให้สำนักเหลิ่งหลังลอบสังหารพระชายารัชทายาท ไม่มีหลักฐานแสดงว่าเป็นความจริง ไม่ต้องติดตามเรื่องนี้ แต่ได้ตำหนิอ๋องอาน โดยว่าเขาไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้อง ชอบไปก้าวก่ายหาเรื่องมากเกินไป เรื่องในกรมอาญากับกรมการพระนครเป็นสิ่งที่เขาไม่ควรไปยุ่งเกี่ยว ต่อไปบอกให้เขาซื่อตรงหน่อย
เมื่อฮ่องเต้หมิงหยวนรับสั่งออกมาเช่นนี้ ความคิดของอ๋องอานก็ปรากฏขึ้นมาอย่างชัดเจน ชั่วขณะไม่มีใครกล้าพูดแทนเขา
หลังจากนั้นก็คือเรื่องโรคเรื้อน ฮ่องเต้หมิงหยวนได้มีคำสั่ง ให้หมอในโรงหมอหุ้ยหมิงและพระชายารัชทายาทขึ้นไปที่เขาโรคเรื้อนพร้อมกัน ใช้ใบสั่งยาแนวทางใหม่เพื่อรักษาผู้ป่วย หากมีความคืบหน้าที่ดี ใบสั่งยาแนวทางใหม่นี้จะต้องประกาศให้โลกรู้
สำหรับเรื่องที่ หยวนชิงหลิงได้ขึ้นไปเขาโรคเรื้อน ในที่สุดก็ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม และไม่มีใครสามารถขัดขวางได้อีก
เดิมทีอ๋องอานวางแผนว่าหลังจากที่ลงโทษหยู่เหวินเห้าเสร็จ ก็จะเข้าทำงานที่กรมการพระนครทันที ตอนนี้ถูกลงโทษ ไม่กล้าพูดอะไรเลยสักคำ เมื่อได้ยินคำว่าเลิกประชุมก็ก้มหัวหมดอาลัยตายอยาก และเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
รัชทายาทที่รูปงามใส่ชุดกี่เพ้ายาวสีม่วงสง่าผ่าเผยที่เด่นกว่าคนอื่นเดินผิวปากออกไป แต่ถูกฮ่องเต้หมิงหยวนสั่งให้ไปที่ห้องหนังสือ
ฮ่องเต้หมิงหยวนมองดูใบหน้าที่ภาคภูมิใจและเย่อหยิ่งนั้น ยิ้มจนแก้มแทบปริ ยิ้มจนเหมือนคนโง่เขลา รู้สึกโกรธมาก “เจ้าดีใจจนไม่รู้จักเก็บซ่อนไว้หน่อย ทุกข์สุขปรากฏบนใบหน้า ลักษณะดีใจเกินเหตุเช่นนี้ สักวันจะถูกคนทุบจนตาย คุกเข่าลง”
หยู่เหวินเห้าคุกเข่าลงอย่างเชื่อฟัง แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “เสด็จพ่อ กระหม่อมมีความสุข เมื่อมีความสุขก็ต้องหัวเราะ ไม่ควรเก็บซ่อนอารมณ์ความรู้สึก”
“วางแผนเล่นงานพี่น้องตัวเอง มีอะไรนะยินดี?” เมื่อฮ่องเต้หมิงหยวนเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสของเขาก็โมโหขึ้นมา ฟันของเขาขาวเป็นประกาย
หยู่เหวินเห้าพูดอย่างมีความสุข “สิ่งที่กระหม่อมดีใจที่สุดคือในที่สุดเจ้าหยวนสามารถขึ้นเขาได้อย่างถูกต้องตามทำนองคลองธรรม สิ่งที่นางทำนั้นเป็นเรื่องดี แต่กลับทำเหมือนเป็นขโมย ถูกคนอื่นดุด่าเจ็บๆแสบๆและโยนไข่ใส่ ในที่สุดตอนนี้นับได้ว่าทุกอย่างกระจ่างชัดแล้ว”
ฮ่องเต้หมิงหยวนได้ยินคำนี้ รู้สึกมีความสับสนใจเล็กน้อย หยวนชิงหลิงขึ้นไปที่เขาโรคเรื้อนปัญหาที่ใหญ่สุดมาจากเขา เดิมทีมันเป็นเรื่องดีสำหรับประเทศและราษฎร แต่ขั้นตอนนี้ช่างลำบากและขมขื่น ตอนนี้เจ้าห้าก็ภูมิใจและมีความสุขมาก และดูออกว่าความอัดอั้นตันใจที่พระชายารัชทายาทมีมันมากแค่ไหน
เขามองไปที่หยู่เหวินเห้าและพูดว่า “ในเมื่อลำบากใจขนาดนี้ ทำไมตอนแรกไม่ละทิ้ง? เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับนางเลย”
หยู่เหวินเห้าพูด “เดิมทีกระหม่อมก็ได้เกลี้ยกล่อมให้นางละทิ้ง แต่นางยืนยันที่จะไป บอกว่านั่นคือชีวิตมนุษย์ เบื้องหลังยังมีครอบครัวอยู่ มีพ่อแม่และลูกๆรอพวกเขากลับไป คนที่ป่วยก็ถือว่าโชคร้ายมากแล้วยังต้องทนทุกข์จากคำด่าทอและคำสาปแช่ง โหดร้ายเกินไป ถ้าไม่ทำลายโรคเรื้อนให้หมดไป ต่อไปภายภาคหน้าก็จะมีชาวบ้านที่ต้องทนทุกข์ทรมานเช่นนี้อีก นางบอกว่ากระหม่อมในฐานะที่เป็นรัชทายาท ไม่ควรละทิ้งชาวบ้านแม้แต่คนเดียว กระหม่อมไม่สามารถเกลี้ยกล่อมนางได้ ทำได้เพียงปล่อยนางไปทำ”
จากมุมมองของฮ่องเต้หมิงหยวนไม่เคยเข้าใจความรู้สึกของครอบครัวธรรมดาเหล่านั้นกับโรคเรื้อนนี้ ในความเห็นของเขา หากรักษาไม่หาย ก็ทำลายให้สิ้นซาก ไม่เห็นก็ไม่ต้องกลุ้มใจ
หลังจากได้ยินสิ่งที่หยู่เหวินเห้าพูด รู้สึกว่าตลอดทั้งชีวิตของชาวบ้านต้องการอะไร? ป่วยด้วยโรคก็ถือว่าโชคไม่ดี แต่ต้องทนแบกรับกับคำด่าทอและสาปแช่งเพราะโรคนี้ ช่างโหดร้ายเหลือเกิน
ฮ่องเต้หมิงหยวนรู้สึกหดหู่ใจเล็กน้อย ดังนั้นจึงเปลี่ยนเรื่องพูด “คดีความนี้ เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าคนร้ายจะยอมไปมอบตัว?”
หยู่เหวินเห้าสีหน้าจริงจัง และพูดว่า “กราบทูลเสด็จพ่อ อันที่จริงกระหม่อมก็ไม่แน่ใจ แต่ว่าช่วงนี้ในเมืองหลวงเกิดคดีความต่อเนื่อง กระหม่อมได้ตรวจสอบมาแล้ว ไม่มีเค้าโครงใดๆ แต่กรมอาญาก็ยังคงบังคับให้ลูกคลี่คลายคดี แม้กระทั่งกำหนดเวลา ทุกๆปีกรมการพระนครมีคดีที่ต้องดำเนินการไม่น้อย การสังหารหมู่ก็มีหลายคดี แม้ว่ากรมอาญาจะจับตาและเร่งทำคดีนี้ แต่ก็ไม่เคยเร่งรีบขนาดนี้มาก่อน กระหม่อมรู้สึกแปลกใจ ในเมื่อเรื่องนี้ไม่มีเค้าโครงใดๆเลย ดูคดีความเหล่านี้เหมือนตั้งใจเจาะจงมาที่กระหม่อมโดยเฉพาะ เป็นเรื่องจริงตอนที่กระหม่อมบอกให้ผู้ช่วยเจ้ากรมและซือเย๋(ที่ปรึกษาของที่ทำการปกครอง)ไปรายงานที่กรมอาญามันจะคลุมเครือเล็กน้อย คดีการฆ่าชาวบ้านไม่มีข้อมูลที่ซับซ้อน คาดไม่ถึงว่าทางกรมอาญาไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ก็เอากระหม่อมเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเบื้องหลังมีแผนชั่วร้ายอะไรซ่อนอยู่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...