ในเวลานี้ เจ้าพระยาเจิ้งเป่ยสูญเสียความเย่อหยิ่งจองหองที่เคยมีมาโดยสิ้นเชิง ดูเหมือนทำอะไรไม่ถูกและตื่นตระหนกไปหมด สวีอีกล่อมให้เขาออกไป เขาก็ไม่ยอมออกไป ยืนกรานเสียงแข็งว่าจะเฝ้ารออยู่ที่นี่
ผู้ช่วยเจ้ากรมกับหัวหน้าพลตระเวนก็เฝ้าอยู่ที่นี่เช่นกัน เมื่อเห็นหยวนชิงหลิงมาถึง พวกเขาทั้งหมดก็เปิดทางให้
เสื้อผ้าของหยู่เหวินเห้าถูกคลายออกแล้ว หมอหลวงได้พันผ้าพันแผลเพื่อห้ามเลือดให้ เลือดที่บริเวณช่องท้องหยุดไหลแล้ว แต่เลือดที่ต้นขายังคงไหลไม่หยุด แต่โชคดีที่หมอหลวงได้มัดส่วนบนของบาดแผลไว้ ในตอนนี้ เลือดที่ไหลจึงดูไม่ได้ร้ายแรงจนเกินเยียวยา
แต่ที่ผ้าปูที่นอนกับเสื้อผ้าด้านหนึ่งที่ถูกดึงทิ้งไป ล้วนถูกอาบย้อมไปด้วยเลือด
หยู่เหวินเห้ายังมีสติแจ่มชัด เพียงแต่เสียเลือดมากสีหน้าจึงซีดเซียวอย่างยิ่ง เขาเอื้อมมือออกไปจับข้อมือนาง แล้วพูดเสียงเบาว่า "ข้าไม่เป็นไร อย่าได้กังวลเลยนะ"
หยวนชิงหลิงเช็ดน้ำตา มองไปที่ดวงตาสีดำขลับของเขา "อื้ม อย่าเพิ่งพูด"
นางเลื่อนสายตาไปที่บาดแผลที่ขาของเขา ถึงกับต้องสูดลมหายใจเย็น ๆ เข้าปอดเฮือกใหญ่
ปากแผลลึกมาก ผิวหนังและเนื้อถูกเฉือนเป็นแผลเปิด หลอดเลือดแดงใหญ่อยู่ข้าง ๆ น่าจะเกิดการแตกเสียหาย จนส่งผลให้เลือดออกอย่างรุนแรง ถึงแม้ว่าตอนนี้จะรัดไว้จนอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่รีบซ่อมแซมให้ดี ขาก็อาจมีสิทธิ์พิการได้
ยิ่งไปกว่านั้น ตำแหน่งบาดแผลของเขา ก็อยู่ใกล้กับตำแหน่งที่เขาเคยได้รับบาดเจ็บครั้งแรก ถ้าบาดลึกเข้าไปอีกสักราว ๆ หนึ่งหรือสองเซน ก็น่ากลัวว่าแม้แต่ตรงนั้นก็อาจถูกตัดขาดได้เลยทีเดียว
หยูเหวินห่าวยังคงแสร้งทำเป็นสนุกสนานทั้งที่ทุกข์ทรมานอย่างยิ่ง "ถ้าพี่สี่ลงมือโหดเหี้ยมกว่านี้อีกหน่อย เจ้าคงต้องเป็นหม้ายผัวไม่มีนกเขาแน่แล้ว"
หยวนชิงหลิงไม่มีอารมณ์จะหัวเราะ ทำได้เพียงกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้มันไหลลงมาเท่านั้น
สวีอีเข้ามาเชิญหมอออกไป เมื่อได้ยินคำพูดของหยู่เหวินเห้า เขาก็มองไปที่บาดแผลแล้วพูดว่า "ฝ่าบาท บาดแผลใกล้ขนาดนี้ ต้องมีผลกระทบอย่างแน่นอน โปรดอย่าสงบเฉยชาจนเกินไปนะพ่ะย่ะค่ะ"
หยวนชิงหลิงให้ยาชาหยู่เหวินเห้า ใช้แหนบคีบสำลีเพื่อเช็ดฆ่าเชื้อบริเวณรอบ ๆ บาดแผล
นางจำไม่ได้ว่าต้องรักษาอาการบาดเจ็บให้เขามากี่ครั้งแล้ว แต่เรื่องในครั้งนี้จะโทษเขาก็ไม่ได้ ใครจะไปคิดว่า อ๋องอานจะบ้าคลั่งขนาดนี้ เข้ามาได้ก็ฟันไม่เลือกหน้า
ไม่มีใครหัวเราะออก เจ้าพระยาเจิ้งเป่ยคุกเข่าลงกับพื้น ซ่อนใบหน้ามิดชิด ร่างกายสั่นเทิ้ม
เขาเกือบเป็นต้นเหตุให้รัชทายาทถูกฆ่าตายแล้ว
ตั้งแต่กลับมาจากเป่ยโม่ เขาก็อ้างสิทธิ์ในผลงานความดีความชอบของตัวเองไม่หยุด บวกกับฮู่เฟยได้เข้าวัง ทำให้หลายคนต่างยกย่องเชิดชูเขา ทำให้เขาก็รู้สึกเย่อหยิ่งจองหองมากขึ้นเรื่อย ๆ อันที่จริงเขารู้ว่าเมื่อมีคนเราจองหองพองขนมากไป มักจะเกิดเรื่องได้ง่าย ตัวเขาตอนนี้ได้รับยศเจ้าพระยา เมื่อต้องอยู่ระหว่างเรื่องของประเทศชาติกับเรื่องของการเมือง เขาพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อเก็บงำความสามารถที่แสดงออกมาให้คนเห็น คิดว่าทำตัวอวดเบ่งในพื้นที่ส่วนตัวสักหน่อยคงจะไม่เป็นไร กลับคิดไม่ถึงว่ามันก็ยังก่อให้เกิดหายนะได้อยู่ดี
เขาเสียใจอย่างสุดซึ้งจริง ๆ
ต้องใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วยาม จึงสามารถจัดการกับบาดแผลที่ขาของหยู่เหวินเห้าจนเสร็จ หลังจากเย็บแผลเรียบร้อยแล้ว ก็พันผ้าพันแผลแล้วค่อยมาจัดการกับบาดแผลที่หน้าท้องต่อ
ตอนที่จัดการกับบาดแผลที่บริเวณหลังขา เป็นเพราะไม่ได้ใช้ยาชามากนัก หยู่เหวินเห้าก็มีความรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นทุกขณะ แต่เมื่อเห็นหยวนชิงหลิงน้ำตาคลอ แทบจะรินไหลออกมาอยู่แล้ว เขาก็ไม่พูดอะไร กัดฟันตัวเองทนต่อไปเงียบ ๆ
พวกผู้ช่วยเจ้ากรมที่อยู่ข้าง ๆ ได้เห็นทักษะการรักษาเช่นนี้ อีกทั้งเห็นหยู่เหวินเห้ากัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวด พวกเขาต่างก็รู้สึกยากจะทานทนไหว
ผู้ช่วยเจ้ากรมส่ายหัวพลางถอนหายใจ “ คาดว่าพรุ่งนี้อ๋องอานก็คงจะมาอีกแน่ ใต้เท้า ท่านว่าสมควรต้องทูลรายงานเรื่องนี้ต่อฝ่าบาทหรือไม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...