หยู่เหวินเห้าช่วยหยวนชิงหลิงรักษาคนป่วยบนเขาโรคเรื้อน ทำให้เบี่ยงเบนความเสียใจไปได้ชั่วขณะ เขามองเห็นใบหน้าแต่ละคนที่เต็มไปด้วยความหวังที่จะมีชีวิตรอดต่อไป รู้สึกถึงภาระหน้าที่ที่แบกอยู่บนไหล่ของตนเองนั้นหนักหนายิ่งนัก ทำให้เขามีสติที่แจ่มชัดขึ้นมา
ตอนที่ลงจากเขาโรคเรื้อน ลมที่พัดมาหนาวเย็นเข้ากระดูก ทำเอาคนที่เดินทางด้วยกันต่างก็ตัวสั่นไปหมด สวีอีวิ่งอยู่ข้างหน้า หันกลับมากระตุ้นทุกคน “วิ่งแล้วจะรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาบ้าง”
เขาหายใจเฮือกใหญ่ๆ ใช้แรงมากเกินไป จนน้ำมูกที่ไหลออกมาถูกเป่าเป็นฟองอากาศสองลูก เขารีบหันหน้าไปเอาแขนเสื้อเช็ดออก จากนั้นก็หันหน้ากลับมาเผยให้เห็นรอยยิ้มที่มีเขี้ยวสองซี่ ราวกับเจ้าโง่
อะซี่เอาก้อนหิมะก้อนหนึ่งปาไปที่เขา “สวีอี เจ้าสกปรกจริงๆ ”
สวีอีเบี่ยงร่างหนีก้อนหิมะ ยิ้มหน้าระรื่นจนปลายจมูกและใบหน้าแดงไปหมด “สกปรกหรือ เจ้าก็ไม่ต้องเข้าใกล้ข้าซิ”
อะซี่เอ่ยอย่างรังเกียจว่า “ข้าไม่อยากจะเข้าใกล้เจ้าหรอกนะ”
“พูดเหลวไหล เจ้าน่ะติดข้าอย่างกับอะไร”สวีอีพูดเสียงขึ้นจมูก
“เจ้าน่ะสิพูดจาเหลวไหล”อะซี่โมโหจนใบหน้าแดงขึ้น “ข้าไปติดเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ”
สวีอีทำเล่นหูเล่นตา ท่าทีราวกับพวกเสเพล “เจ้ายอมรับแล้วใช่ไหมว่าเจ้าชอบข้า”
อะซี่หยิบดาบขึ้นมาพุ่งไปฟันเขาทันที “ถ้าขืนเจ้ายังพูดเหลวไหลอีกละก็ ข้าจะตัดหัวเจ้าไปให้หมาป่าหิมะกินซะ”
สวีอีหมุนตัวอย่างแรง ปากก็พูดว่า “ดุจริงๆ ภายหน้าดูซิว่าใครจะกล้าขอเจ้าแต่ง……”
เขาไม่ทันระวังชนเข้ากับต้นไม้ กิ่งไม้สั่นไหว หิมะที่สะสมอยู่ตกลงมา เขาเองก็ถูกแรงสะท้อนล้มไปบนพื้น เหมือนจมูกจะมีน้ำมูกไหลออกมาอีกแล้ว ยื่นมือออกไปเช็ด กลับเป็นเลือด รู้สึกเจ็บที่ปากด้วย ยื่นมือไปถอน บนมือก็มีเศษฟันหน้าหลุดออกมาชิ้นหนึ่ง
อะซี่หัวเราะฮ่าฮ่าเสียงดัง “สมน้ำหน้า ใครใช้ให้เจ้าปากเปราะ”
สวีอีถุยเลือดออกมาหนึ่งคำ ใช้แรงอย่างมากในการกดฟันหน้าซี่ที่หักไปครึ่งหนึ่งเอาไว้ ถลึงตาจ้องมองอาซี่อย่างดุร้าย
หยวนชิงหลิงกับหยู่เหวินเห้าต่างก็ชี้ไปที่เจ้าโง่สวีอี หัวเราะจนน้ำตาเล็ด
สวีอีรู้สึกว่าโลกนี้นั้นปฏิบัติต่อเขาอย่างเต็มไปด้วยความใจร้าย ฮึหนึ่งเสียง หมุนตัววิ่งไปทันที
พระอาทิตย์ยามเย็นค่อยๆเคลื่อนคล้อยต่ำลง ดึงเอาเงาร่างของคนทั้งหมดให้ดูยาวขึ้นสวยงามเป็นอย่างยิ่ง หยู่เหวินเห้ากับหยวนชิงหลิงจับมือกันเดิน อะซี่กับหมันเอ๋อเอาแต่นินทาเรื่องของสวีอีอยู่ข้างหลัง พูดแล้วทั้งสองก็หัวเราะเสียงดัง เสียงหัวเราะดังขึ้นตลอดทาง
หยวนชิงหลิงมองหยู่เหวินเห้าแวบหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ของเขาดีขึ้นบ้างแล้ว ความโศกเศร้าบนสีหน้าของเขาจางสลายหายไปมากแล้ว หัวคิ้วที่ขมวดเป็นสามเส้นก็ผ่อนคลายลง
ในใจของนางจึงค่อยๆสุขสงบลงมาบ้าง เมฆหมอกดำที่ปกคลุมในปีใหม่นี้ รู้สึกได้ว่าค่อยๆสลายไปจากด้านบนแล้ว
หยู่เหวินเห้าลาหยุดสามวัน อยู่เป็นเพื่อนภรรยาและลูกๆ บางครั้งก็ออกไปดื่มเหล้าสังสรรค์กับเพื่อนฝูง ชีวิตเหมือนจะกลับคืนสู่ภาวะปกติแล้ว
หลังจากผ่านไปสามวัน เขาก็กลับไปทำงานที่กรมการพระนครต่อ
หยวนชิงหลิงเห็นว่าอากาศดี จึงคิดอยากจะพาคุณย่าไปเขาโรคเรื้อนสักครั้ง แต่กลับได้ยินว่าพระชายาจี้มา ต้องการพบนาง และเป็นความอยากเจอหน้าที่แทบจะรอไม่ได้แล้ว
หยวนชิงหลิงเพิ่งจะสวมเสื้อคลุมเสร็จ ได้ยินว่านางมา ก็ถอดออกแล้วก็ไปพบกับนาง
พระชายาจี้กำลังเดินไปมาอยู่ในโถงรับรองใหญ่อย่างร้อนใจ เห็นนางเดินเข้ามา ก็รีบเดินเข้าไปจับมือของนางเอาไว้ รีบพูดขึ้นว่า “เจ้าต้องช่วยข้านะ”
น้อยมากที่หยวนชิงหลิงจะเห็นนางเสียกิริยาเช่นนี้ และดวงตาของนางก็แดงก่ำไปหมด ราวกับผ่านการร้องไห้มา จึงดึงตัวนางให้นางลงและถามว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้น ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...