บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 767

แล้วในขณะที่ทุกคนต้องการจะแยกย้ายไป ทังหยางกล่าวอย่างฉับพลัน: “หากบอกว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชายารองฉู่จริง เช่นนั้น คนที่สมคบกับนาง สุดท้ายสืบออกมาต้องเป็นคนของตระกูลฉู่แน่”

หยู่เหวินเห้ายังคิดไม่ถึงจุดนี้ ได้ยินทังหยางพูดเช่นนี้ ก็เปลี่ยนสีหน้าในพริบตา

กลับเป็นสมองของพระชายาจี้ที่ถูกยัดความวุ่นวายไปเป็นกอง ค่อนข้างสับสน กล่าวถามว่า: “นี่จะเกี่ยวข้องกับตระกูลฉู่ได้อย่างไร? ความหมายของท่านคือจะบอกว่าโสวฝู่ฉู่บงการให้นางทำเช่นนี้? ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นหลุมพรางที่โสวฝู่ฉู่สร้างขึ้น? เช่นนั้นบุคคลเบื้องหลัง ก็คือเขาหรือ?”

ขณะที่หยวนชิงหลิงได้ยินในตอนแรก ก็คิดว่าความหมายของทังหยางเป็นเช่นนี้ แต่เมื่อไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง ก็เข้าใจแล้ว กล่าวว่า: “ไม่ ทังหยางไม่ได้บอกว่าโสวฝู่ฉู่วางแผนทั้งหมดนี่ แต่หากไล่สืบไปจากตัวของฉู่หมิงหยาง จะยังต้องมีเรื่องภายหลังรออยู่ กลัวจะทำให้โสวฝู่ฉู่ได้รับผลกระทบเข้ามาด้วย คนผู้นี้ไม่เพียงแค่ต้องการกำจัดอ๋องจี้ ยังต้องการกำจัดโสวฝู่ฉู่อีกด้วย ชั่งเป็นความคิดที่ละเอียดรอบคอบยิ่งนัก คิดถึงทุกการเชื่อมโยงจริงๆ”

หยู่เหวินเห้ากัดฟันกล่าวด้วยความโกรธ: “แผนการยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัวชั่งชั่วร้ายนักนะ กำจัดพี่ใหญ่ก่อน แล้วทำให้ระหว่างพวกเราพี่น้องเกิดความระแวง สุดท้ายค่อยเอาสายตาของทุกคนดึงดูดไปยังตระกูลฉู่ แม้ว่าโสวฝู่ฉู่สามารถยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองได้ เช่นนั้นก็ฝังหนามอันหนึ่งลงไปในจิตใจของเสด็จพ่อแล้ว หลังจากนี้เสด็จพ่อจะต้องค่อยๆลดทอนอำนาจของตระกูลฉู่เป็นแน่”

ทังหยางพยักหน้า “ไม่ผิด เขาทำให้พวกเราคาดเดาถึงจุดนี้ ดังนั้น ตอนนี้พวกเราเผชิญหน้ากับการเลือกว่าถ้าจะตรวจสอบ สุดทางของการตรวจสอบก็คือโสวฝู่ฉู่ ถ้าไม่ตรวจสอบ ให้เวลาเขาหล่อหลอมอาวุธทหารและสะสมอำนาจ ในเมื่อเขาคืนแผนที่ทางการทหารฉบับนี้กลับมาแล้ว คิดว่าคงลอกสำเนาไว้ใช้เองฉบับหนึ่งแล้ว”

หยู่เหวินเห้าหมุนตัวช้าๆ มองดูขอบฟ้าสีดำด้านนอก กล่าวอย่างเย็นยะเยือก: “ไม่เป็นไร เขาไม่สามารถหลบอยู่ในความดำมืดได้ตลอดไป หากเขาอยากจะได้ตำแหน่งฮ่องเต้ ก็จะต้องค่อยๆผุดขึ้นมาบนผิวน้ำ แผนที่ทางการทหารคืนกลับมาแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะไปทูลขอเสด็จพ่อให้รีบดำเนินการหลอมสร้าง เขาและแรงกำลังอันน้อยนิดต่อต้านกับพลังของประเทศเป่ยถังของข้า นั่นคือรนหาที่ตาย”

สุดท้ายฟ้าเกือบจะสว่างแล้วหยู่เหวินเห้าเพิ่งจะได้กินข้าวมื้อหนึ่ง หิวจนเขายัดกินอย่างมูมมาม กวาดอาหารไม่กี่อย่างที่แม่นมสี่จัดเตรียมไว้จนหมดเกลี้ยง

หลังจากกินอาหารอิ่ม หยวนชิงหลิงบอกให้เขารีบนอนครู่หนึ่ง

หยู่เหวินเห้านอนบนเตียง มองดูหยวนชิงหลิงที่มีขอบตาดำเหมือนกัน เอื้อมมือไปลูบใบหน้าของนาง “ข้าไม่เป็นไร เพียงแค่ทำให้เจ้าเหนื่อยแล้ว”

หยวนชิงหลิงยิ้มอย่างเหนื่อยล้า นอนลงข้างกายของเขา “พูดว่าเหนื่อยอะไรล่ะ? วันที่ว่างจนเหนื่อยก็ไม่ได้ผ่านไปเช่นนี้หรือ?”

“แต่หากว่าแต่งงานกับคนธรรมดา เจ้าก็สามารถเสพสุขได้หน่อย กลับเอาแต่ติดตามข้าทำงานอย่างตรากตรำ!” หยู่เหวินเห้ากอดนางแน่น หากบอกว่าเมื่อคืนยังคิดจะใกล้ชิดสนิทสนมกับนางสักหน่อย ตอนนี้ล้าจนความคิดอะไรก็ไม่มีแล้ว

“ท่านบอกว่า มีข้าอยู่ แม้เหนื่อยก็ไม่รู้สึกลำบาก ข้าก็พูดเช่นนี้ รีบนอนเถอะ รีบฉวยเวลาไว้ นอนได้ครู่หนึ่งก็ครู่หนึ่ง ในตอนกลางวันก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องวุ่นวายอะไรขึ้นอีก” หยวนชิงหลิงกล่าวเบาๆ

หยู่เหวินเห้าหลับตาลง แต่ในสมองเต็มเปี่ยมไปด้วยความสับสนพัวพันกันอุตลุด พันจนกระเพาะอาหารก็ปวดเป็นระยะๆ

เขาพยายามจัดการให้ความคิดว่างเปล่า ความเจ็บปวดช่วงท้องก็ไม่ได้ลดน้อยลง ทำได้เพียงลืมตาอีกแล้วถาม: “ข้าปวดท้อง เจ้ามียาไหม?”

หยวนชิงหลิงลุกขึ้นนั่ง เส้นผมสีดำขลับดั่งน้ำตกลื่นตกจากบนไหล่มาที่หน้าอก ยื่นมือไปกดช่วงท้องของเขาเบาๆ “ปวดหรือว่ามีลมขึ้น? เมื่อวานท่านไม่ได้กินข้าว เมื่อครู่กินไปมากขนาดนั้นในทีเดียว ท้องไส้รับไม่ไหวน่ะสิ”

“คือปวด......และมีลม โอ้ย ทรมานจะตายแล้ว!” มือสองข้างของหยู่เหวินเห้าแผ่ออก บนใบหน้าเหนื่อยล้าซีดขาวเต็มไปด้วยความจนปัญญา

หยวนชิงหลิงเปิดกระเป๋ายาทำยากระเพาะสองสามแผ่นให้เขากิน แล้วลูบช่วงอกและช่วงท้องให้เขาเบาๆ

“ดีขึ้นหน่อยหรือไม่?” ผ่านไปครู่หนึ่ง ถามเขา

“ไม่ไหว เหมือนกับเป็นตะคริวเช่นนั้น อยากอาเจียนแล้ว” หยู่เหวินเห้ายันตัวขึ้นมา สีหน้าเจ็บปวดทรมาน

“กรดไหลย้อนแล้ว!” หยวนชิงหลิงถอนหายใจ สงสารมาก ลุกจากเตียงแล้วหยิบแผ่นยาแก้ปวดคลายความเกร็ง บนโต๊ะยังวางเตาผิงมือเล็กๆให้อุ่นไว้อยู่ นางถือโอกาสคลำเล็กน้อยยังอุ่นอยู่ จึงหยิบเข้ามาให้หยู่เหวินเห้าทำความอบอุ่นช่วงท้อง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน