สรุปตอน บทที่ 771 ไปอยู่เป็นเพื่อนที่จวนอ๋องจี้ – จากเรื่อง บัลลังก์หมอยาเซียน โดย ลิ่วเยว่
ตอน บทที่ 771 ไปอยู่เป็นเพื่อนที่จวนอ๋องจี้ ของนิยายนิยาย จีนเรื่องดัง บัลลังก์หมอยาเซียน โดยนักเขียน ลิ่วเยว่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
หยวนชิงหลิงได้ยินคำพูดนี้ ในใจก็รู้สึกทรมานเป็นอย่างมาก คิดว่าเสด็จพ่อไม่ควรพูดเช่นนี้กับเจ้าห้า แต่ว่า นางก็อดจะตำหนิเบาๆไม่ได้ว่า เพราะในหัวใจของเสด็จพ่อนั้นก็ทรมานมากจึงได้พูดเช่นนี้ออกมา
การดำรงอยู่ในตำแหน่องที่สูงส่ง ความทุกข์ของเขาใครเล่าจะเข้าใจ เขาสามารถเล่าใครฟังได้บ้าง
หยวนชิงหลิงไม่พูดอะไรเลย ได้แต่กอดเขาเอาไว้
ผ่านไปชั่วครู่ หยู่เหวินเห้าก็ค่อยๆผลักตัวนางออก พูดว่า “ไม่รู้ว่าพวกเขาเข้านอนหรือยัง ข้าอยากจะไปดูเสียหน่อย เมื่อครู่ลงมือหนักไปหน่อย ตอนนี้พอมาคิดดูแล้วรู้สึกตัวเองเป็นคนเลวจริงๆ ”
ก็เหมือนกับพ่อแม่ที่เมื่อลงโทษลูกเสร็จแล้ว พอจิตใจสงบลง คิดถึงใบหน้าของลูกที่ร้องไห้อย่างน่าสงสาร ก็ได้แต่รู้สึกเสียใจและเจ็บปวดใจ
หยวนชิงหลิงมองใบหน้าของเขาที่กระสับกระส่ายและเป็นกังวลของเขา พูดด้วยรอยยิ้มว่า “วางใจเถอะ แม่นมสี่ได้ให้ลูกกวาดปลอบใจพวกเขาแล้ว ลูกๆมีนิสัยลืมง่าย ประเดี๋ยวก็จำไม่ได้แล้วว่าโดนตี”
“อย่างไรก็ต้องไปดู ไม่ไปดูเสียหน่อยในหัวใจก็ไม่รู้สึกสงบ”หยู่เหวินเห้าพูดแล้วก็ลากตัวนางเดินออกไปข้างนอก “เจ้าต้องตามมาด้วย ไม่เช่นนั้นเจอหน้าข้าคงร้องไห้”
ลูกๆต่างก็ไปที่หอเฟิ่งหยีแล้ว ไปฟังย่าทวดเล่านิทาน
คุณย่าหยวนเป็นคนแก่ที่ฉลาดคนหนึ่ง รู้ว่าควรจะอบรมสั่งสอนเด็กๆอย่างไร ดูอย่างพี่น้องหยวนชิงหลิงก็รู้แล้วว่าถูกนางเลี้ยงดูสั่งสอนมาดีแค่ไหน
คุณย่าหยวนไม่รู้ว่าพวกเขาเพิ่งผ่านการถูกตีมา แม่นมสี่ไม่พูด รู้ว่าฮูหยินเฒ่านั้นรักเด็กๆมาก ฉะนั้น จึงบอกแค่ว่าเมื่อครู่ทะเลาะแย่งของกันจนร้องไห้
ตอนที่สองสามีภรรยาไปถึง คุณย่ากำลังเล่านิทานเรื่องหนูน้อยหมวกแดงอยู่ ทั้งสามคนฟังคุณย่าเล่านิทานอย่างออกรส
“……เจ้าหมาป่าตัวนั้นกินยายของหนูน้อยหมวกแดงเข้าไป แล้วก็ออกมาถึงหน้าห้องของหนูน้อยหมวกแดง แสร้งทำเสียงของยายเรียกให้หนูน้อยหมวดแดงมาเปิดประตู ตอนนี้เอง……”
ซาลาเปาร้องขึ้นมาอย่างกะทันหันว่า “ไม่เปิด เป็นพ่อ พ่อจะกินคน ”
พูดจบ ก็ร้องไห้ขึ้นมา
เมื่อครู่นั้นได้กินลูกกวาดแล้วจึงลืมเรื่องที่ถูกตีไป ปรากฏว่าคุณย่าเล่านิทานเรื่องนี้จนสร้างบรรยากาศที่ตื่นเต้นขึ้นมา เขาก็จำขึ้นมาได้อีกครั้ง
คุณย่านิ่งอึ้ง รีบปลอบใจว่า “เด็กโง่ พ่อจะกินคนได้อย่างไร พ่อนั้นรักลูกๆมาก”
“พ่อตีซาลาเปา”ซาลาเปาร้องไห้อย่างเสียใจมาก ข้าวเหนียวเป็นเด็กขี้แย เห็นพี่ใหญ่ร้องไห้ เขาก็ร้องไห้ตาม
หยู่เหวินเห้ากับหยวนชิงหลิงยืนฟังอยู่ด้านนอก เขากุมมือของหยวนชิงหลิงเอาไว้ ถอนหายใจเบาๆหนึ่งเสียง
หยวนชิงหลิงตบมือเขาเบาๆ หมุนตัวเดินเข้าไปช่วยปลอบ แล้วก็เล่านิทานอีกเรื่องจึงกล่อมพวกเขานอนหลับไป
คุณย่าออกมาพร้อมกับหยวนชิงหลิง เห็นหยู่เหวินเห้าที่รออยู่ข้างนอกด้วยสีหน้าไม่สบายใจ ก็รู้ทันทีว่าที่ซาลาเปาพูดมาทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องจริง จึงได้มองหยู่เหวินเห้าอย่างอบอุ่นและพูดว่า “ลูกๆยังเด็ก ค่อยๆสั่งสอนกันได้ ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกไม่สามารถก่อตัวขึ้นในสถานการณ์ที่เลวร้ายได้ โดยเฉพาะเจ้ามีลูกที่ฉลาดมากถึงสามคน พวกเขาฉลาดย่อมมีความรู้สึกที่ไว ความจำก็ดี ตีหนึ่งครั้งแม้จะสามารถระบายอารมณ์ออกไปได้ แต่จะมีผลร้ายตามมาในภายหลังอย่างไม่สิ้นสุด”
หยู่เหวินเห้าก็รู้ตัวดีว่าลงมือหนักไป “วันหลังข้าจะระวังให้มากขึ้น”
“พวกเขารู้ความมาก ฉลาดมาก เด็กคนอื่นๆถ้าโตเท่าพวกเขา แม้แต่คำว่าพ่อก็คงจะเรียกไม่เป็น เจ้าดูพวกเขาซิ เดินเหิน พูดจา ความคิด ราวกับเด็กสามขวบห้าขวบอย่างไรอย่างนั้น เพียงแต่ฉลาดเป็นเรื่องดี ในการอบรมสั่งสอนก็ต้องอดทนมากกว่าเด็กทั่วไปเสียหน่อย ชักนำให้มาก ตอนนี้พวกเขานอนหลับแล้ว เจ้าเข้าไปดูเสียหน่อยเถอะ คาดว่าตีลูกๆแล้ว ในใจเจ้าก็คงจะเสียใจไม่น้อย”
หยู่เหวินเห้าขอบคุณในความมีน้ำใจของคุณย่า ตอนนี้เขารู้สึกทรมานเป็นอย่างมากจริงๆ
เขาเดินเข้าไปอย่างเบาๆ ทั้งสามคนนอนเรียงกันอยู่บนเตียง ใบหน้าที่นอนหลับนั้นบริสุทธิ์ ราวกับสมบัติอันล้ำค่า
ตอนกลางวันแม้จะงอแงทะเลาะกันจนเหมือนปีศาจร้าย แต่เพียงแค่นอนหลับ ก็เหมือนราวกับเทวดาตัวน้อย
ใบหน้าของซาลาเปายังคงแดงอยู่ ขนตาที่งอนยาวมีความเปียกชื้น ในโลกเล็กๆของเขา คืนนี้ได้ประสบพบเจอกับพายุโหมกระหน่ำ บางทีในความฝันของเขาอาจจะฝันถึงการถูกพ่อตีก็ได้
แต่ว่าพระชายาจี้ เลี่ยงไม่ได้ที่จะดูตกอับอยู่หลายส่วน
“คำนับท่านอาสะใภ้”เมิ่งเยว่กับเมิ่งซิงลุกขึ้นมาคำนับหยวนชิงหลิง พระชายาจี้สั่งสอนได้ดี ลูกสาวทั้งสองต่างก็รู้มารยาทมาก
หยวนชิงหลิงมองใบหน้าที่ดูหวาดกลัวของพวกนาง หัวใจของเด็กๆนั้นมีความรู้สึกรับรู้ไว การเปลี่ยนแปลงในจวน พวกนางใช่ว่าจะไม่รับรู้ และยังสามารถรู้สึกได้ถึงอันตรายจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
หยวนชิงหลิงรู้สึกสงสารพวกนางอยู่ในใจ และพูดเสียงอ่อนโยนว่า “เมิ่งเยว่ เมิ่งซิง พวกเจ้าสองคนยินดีจะไปอยู่ที่บ้านของอาสักระยะหรือไม่”
ลูกสาวทั้งสองต่างก็หันกลับไปมองเสด็จแม่
พระชายาจี้เอ่ยด้วยรอยยิ้มจางๆ “ไปเถอะ ไปบ้านอาสะใภ้ของพวกเจ้าช่วยเลี้ยงน้องชายของพวกเจ้า ไม่กี่วันแม่จะตามไป”
ลูกสาวทั้งสองจึงได้ตอบตกลง เผยให้เห็นรอยยิ้มที่ลำบากใจ
พระชายาจี้ได้สั่งให้คนพาพวกนางไปเก็บเสื้อผ้าของตัวเอง ส่งพวกนางออกไปก่อน เกรงว่าตอนที่มีการค้นบ้านและยึดทรัพย์จะถูกพวกนางเห็นเข้า
หยวนชิงหลิงนั่งลง มองพระชายาจี้อย่างเป็นห่วงกังวล “เจ้ายังสบายดีหรือไม่”
พระชายาจี้ฝืนเรียกกำลังใจให้ตัวเอง“ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่เลวร้ายที่สุด ถ้าไม่สบายตั้งแต่ตอนนี้ ถึงเวลาจะแบกรับได้อย่างไร”
นางพูดจบ ก็ส่งยิ้มให้กับหยวนชิงหลิง “แต่ว่า ดีที่เสด็จพ่อมีราชโองการ ถ้าหากถูกตัดสินว่าเป็นกบฏจริง ลูกสาวทั้งสองจะไม่ถูกดึงไปเกี่ยวข้องด้วย เพียงแต่คงต้องถูกถอดออกจากตำแหน่งและชีวิตที่มั่งคั่งสุขสบายเท่านั้น”
“เรื่องของพวกนางสองคนเจ้าวางใจได้ ถ้าข้ายังมีข้าวกินอยู่ พวกนางก็มีเช่นกัน ”หยวนชิงหลิงพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...