บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 776

หัวคิ้วของไทเฮาเหมือนมีบางสิ่งกำลังเต้นโครมครามอยู่ เต้นรัวจนตรงหน้านางเกิดเป็นความมืดขึ้นมาเป็นระลอก ยกมือที่สั่นเทาขึ้นมาชี้ไปที่หยวนชิงหลิงพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดันว่า“เจ้า เจ้าพูดมา เจ้าใหญ่ทำผิดเรื่องอะไรจึงต้องถูกยึดทรัพย์ทั้งยังจะถูกประหารด้วย เจ้าอย่าเอาเรื่องยุ่งการเมืองไม่ยุ่งการเมืองมาอ้างเพื่อเลี่ยงไป ด้วยความรักที่เจ้าห้ามีต่อเจ้า หากเจ้าถามเขา เข้าต้องบอกเจ้าแน่ เจ้าอย่าคิดจะปิดบัง พูดออกมาตามความจริง ”

หยวนชิงหลิงไม่ใช่ไม่อยากพูด แต่เรื่องนี้จะพูดออกไปจากปากนางไม่ได้ บอกออกไปแล้วนั้นหมายความว่านางรู้ทุกอย่าง นางไม่อยากจะเพิ่มความลำบากให้กับเจ้าห้า

อีกอย่าง หากพูดเรื่องนี้กับไทเฮา ไหนเลยจะพูดกันรู้เรื่อง

ไทเฮาเห็นนางไม่พูด ก็หันหน้าไปตำหนิฉินเฟย “เจ้าจะร้องไห้ทำไม พูด เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่”

ฉินเฟยคุกเข่าคลานไปตรงหน้าไทเฮา ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาและน้ำมูกพูดขึ้นว่า “หม่อมฉันก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น รู้แค่ว่าจวนอ๋องจี้ถูกตรวจค้นยึดทรัพย์แล้ว คนก็ถูกขังไว้ในคุกหลวง บอกว่ารอให้รัชทายาทกำหนดโทษว่าเขาเป็นกบฏก็จะทำการประหารทั้งชั่วโคตร ”

“ประหารทั้งชั่วโคตร”ไทเฮาได้ยินคำพูดนี้ ก็ตัวสั่นขึ้นมา “สวรรค์ สวรรค์ เรื่องนี้จะให้เกิดขึ้นซ้ำสองไม่ได้อีก ต้องถูกใส่ความแน่ๆ ตอนนั้นฮ่องเต้ฮุยจงได้ทำเรื่องผิดมหันต์ ฆ่าคนของตระกูลอ๋องชินยู่ด้วยความประมาท ถ้าหากไม่ใช่เพราะเจ้าสิบสองถูกคนอุ้มออกไป สายเลือดของอ๋องชินยู่ก็คงจะสิ้นสุดแล้ว ไม่สามารถทำผิดเช่นนี้ได้อีก เด็กๆ เด็กๆ เตรียมเกี้ยว ข้าจะไปพบฮ่องเต้”

ฮ่องเต้หมิงหยวนเกรงว่าไทเฮารู้เรื่องนี้เข้าแล้วจะเข้ามายุ่ง ตอนนี้เห็นไทเฮามาหาอย่างรีบร้อน ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ เขาก็รู้ทันทีว่าปิดไม่อยู่แล้ว

ฉินเฟยกับหยวนชิงหลิงก็มาด้วย เห็นทั้งสองคน สีหน้าของฮ่องเต้หมิงหยวนก็นิ่งขรึมไป จ้องมองหยวนชิงหลิงด้วยสายตาดุดันแวบหนึ่ง

“เจ้าออกไปก่อน”ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดกับหยวนชิงหลิงด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

หยวนชิงหลิงเองก็กลัวว่าหากอยู่ที่นี่จะเป็นการยุ่งไม่เข้าเรื่อง พอได้ยินฮ่องเต้หมิงหยวนพูดเช่นนี้ ก็รีบย่อตัวคำนับกล่าวลาออกไป และไม่กล้าจะอยู่รอข้างนอกห้องทรงพระอักษร ยิ่งไม่กล้าออกจากวังไปทันที คิดดูแล้วในสถานการณ์คับขันเช่นนี้มีเพียงทางด้านไท่ซ่างหวงเท่านั้นที่ปลอดภัย จึงได้รุดหน้าไปยังตำหนักฉินคุนทันที

ไท่ซ่างหวงนั้นรู้เรื่องนี้ ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นข้างนอก ขอเพียงเขาอยากจะรู้ ก็ไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้

เห็นได้ชัดว่าไท่ซ่างหวงก็เสียใจ หยวนชิงหลิงไปนั่งที่ตำหนักอยู่ชั่วครู่ เขาก็สูบบุหรี่ไปหนึ่งถุงแล้ว ควันบุหรี่พวยพุ่ง ทั้งห้องอบอวลไปด้วยควันและกลิ่นบุหรี่ เขาพลางสูบพลางไอ ไอจนสีหน้าแดงก่ำขึ้นมา แม้แต่ฝูเป่ายังทนอยู่ไม่ได้ วิ่งออกไปหลังตำหนัก

หยวนชิงหลิงก็ทนไม่ไหวแล้วจริงๆจึงข้อร้องคำหนึ่ง “เสด็จปู่ ท่านสูบให้น้อยลงหน่อย”

ไท่ซ่างหวงมองนางอย่างเรียบเฉยแวบหนึ่ง “เจ้าอยู่ไม่ไหวก็ไสหัวออกไปข้างนอก”

“เกรงจะกระทบร่างกายของท่าน”หยวนชิงหลิงพูดอย่างระอาใจ

ไท่ซ่างหวงเคาะบุหรี่ พูดเสียงเรียบว่า “ตายไปก็ทั้งชีวิต ไม่ตายก็อยู่มามากกว่าครึ่งชีวิตแล้ว จะกระทบร่างกายหรือไม่ ใครจะสนใจ ”

หยวนชิงหลิงมองใบหน้าที่ดื้อรั้นภายใต้เส้นผมสีขาวของเขา ตาเฒ่าคนนี้จะแข็งแกร่งตลอดชีวิต แต่ที่จริงไม่ว่าเขาจะยังอยู่ในตำแหน่งหรือสละตำแหน่งแล้ว เรื่องที่เขาสามารถควบคุมได้นั้นมีไม่มาก โดยเฉพาะเรื่องการแก่งแย่งชิงดีกันในราชวงศ์ ยิ่งไร้กำลังมากพอที่จะช่วยได้

เหมือนเสด็จพ่อในตอนนี้

“ใครไม่สนใจกันเล่า ท่านอายุยืน จึงจะเป็นมิ่งขวัญแก่เป่ยถัง เป็นบุญวาสนาของลูกหลานราชวงศ์”หยวนชิงหลิงพูด

“วาสนาของคนอื่นเกี่ยวอะไรกับข้า แล้ววาสนาของข้าต้องไปขอกับใคร ”ตอนนี้ไท่ซ่างหวงอารมณ์หงุดหงิดอยู่บ้าง พูดไม่กี่คำ ก็หายใจแรงจ้องหยวนชิงหลิงเขม็ง

หยวนชิงหลิงเห็นเขาทำตัวราวกับประทัด แค่จุดก็ระเบิด ไม่กล้าพูดอะไรอีก หุบปากอย่างสนิทคอยนวดไหล่ทุบขา

นวดอยู่ชั่วครู่ เห็นเขาเหมือนจะผ่อนคลายลงแล้ว จึงค่อยๆอ้าปาก ถามขึ้นว่า“เสด็จปู่ เมื่อครู่ข้าได้ยินเสด็จย่าเอ่ยถึงอ๋องชินยู่ อ๋องชินยู่ท่านนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ”

“ตระกูลเขาน่ะหรือ นอกจากเจ้าสิบสอง ทั้งครอบครัวต่างไปดีแล้ว”ไท่ซ่างหวงหลับตาลง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน