หัวคิ้วของไทเฮาเหมือนมีบางสิ่งกำลังเต้นโครมครามอยู่ เต้นรัวจนตรงหน้านางเกิดเป็นความมืดขึ้นมาเป็นระลอก ยกมือที่สั่นเทาขึ้นมาชี้ไปที่หยวนชิงหลิงพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดันว่า“เจ้า เจ้าพูดมา เจ้าใหญ่ทำผิดเรื่องอะไรจึงต้องถูกยึดทรัพย์ทั้งยังจะถูกประหารด้วย เจ้าอย่าเอาเรื่องยุ่งการเมืองไม่ยุ่งการเมืองมาอ้างเพื่อเลี่ยงไป ด้วยความรักที่เจ้าห้ามีต่อเจ้า หากเจ้าถามเขา เข้าต้องบอกเจ้าแน่ เจ้าอย่าคิดจะปิดบัง พูดออกมาตามความจริง ”
หยวนชิงหลิงไม่ใช่ไม่อยากพูด แต่เรื่องนี้จะพูดออกไปจากปากนางไม่ได้ บอกออกไปแล้วนั้นหมายความว่านางรู้ทุกอย่าง นางไม่อยากจะเพิ่มความลำบากให้กับเจ้าห้า
อีกอย่าง หากพูดเรื่องนี้กับไทเฮา ไหนเลยจะพูดกันรู้เรื่อง
ไทเฮาเห็นนางไม่พูด ก็หันหน้าไปตำหนิฉินเฟย “เจ้าจะร้องไห้ทำไม พูด เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่”
ฉินเฟยคุกเข่าคลานไปตรงหน้าไทเฮา ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาและน้ำมูกพูดขึ้นว่า “หม่อมฉันก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น รู้แค่ว่าจวนอ๋องจี้ถูกตรวจค้นยึดทรัพย์แล้ว คนก็ถูกขังไว้ในคุกหลวง บอกว่ารอให้รัชทายาทกำหนดโทษว่าเขาเป็นกบฏก็จะทำการประหารทั้งชั่วโคตร ”
“ประหารทั้งชั่วโคตร”ไทเฮาได้ยินคำพูดนี้ ก็ตัวสั่นขึ้นมา “สวรรค์ สวรรค์ เรื่องนี้จะให้เกิดขึ้นซ้ำสองไม่ได้อีก ต้องถูกใส่ความแน่ๆ ตอนนั้นฮ่องเต้ฮุยจงได้ทำเรื่องผิดมหันต์ ฆ่าคนของตระกูลอ๋องชินยู่ด้วยความประมาท ถ้าหากไม่ใช่เพราะเจ้าสิบสองถูกคนอุ้มออกไป สายเลือดของอ๋องชินยู่ก็คงจะสิ้นสุดแล้ว ไม่สามารถทำผิดเช่นนี้ได้อีก เด็กๆ เด็กๆ เตรียมเกี้ยว ข้าจะไปพบฮ่องเต้”
ฮ่องเต้หมิงหยวนเกรงว่าไทเฮารู้เรื่องนี้เข้าแล้วจะเข้ามายุ่ง ตอนนี้เห็นไทเฮามาหาอย่างรีบร้อน ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ เขาก็รู้ทันทีว่าปิดไม่อยู่แล้ว
ฉินเฟยกับหยวนชิงหลิงก็มาด้วย เห็นทั้งสองคน สีหน้าของฮ่องเต้หมิงหยวนก็นิ่งขรึมไป จ้องมองหยวนชิงหลิงด้วยสายตาดุดันแวบหนึ่ง
“เจ้าออกไปก่อน”ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดกับหยวนชิงหลิงด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
หยวนชิงหลิงเองก็กลัวว่าหากอยู่ที่นี่จะเป็นการยุ่งไม่เข้าเรื่อง พอได้ยินฮ่องเต้หมิงหยวนพูดเช่นนี้ ก็รีบย่อตัวคำนับกล่าวลาออกไป และไม่กล้าจะอยู่รอข้างนอกห้องทรงพระอักษร ยิ่งไม่กล้าออกจากวังไปทันที คิดดูแล้วในสถานการณ์คับขันเช่นนี้มีเพียงทางด้านไท่ซ่างหวงเท่านั้นที่ปลอดภัย จึงได้รุดหน้าไปยังตำหนักฉินคุนทันที
ไท่ซ่างหวงนั้นรู้เรื่องนี้ ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นข้างนอก ขอเพียงเขาอยากจะรู้ ก็ไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้
เห็นได้ชัดว่าไท่ซ่างหวงก็เสียใจ หยวนชิงหลิงไปนั่งที่ตำหนักอยู่ชั่วครู่ เขาก็สูบบุหรี่ไปหนึ่งถุงแล้ว ควันบุหรี่พวยพุ่ง ทั้งห้องอบอวลไปด้วยควันและกลิ่นบุหรี่ เขาพลางสูบพลางไอ ไอจนสีหน้าแดงก่ำขึ้นมา แม้แต่ฝูเป่ายังทนอยู่ไม่ได้ วิ่งออกไปหลังตำหนัก
หยวนชิงหลิงก็ทนไม่ไหวแล้วจริงๆจึงข้อร้องคำหนึ่ง “เสด็จปู่ ท่านสูบให้น้อยลงหน่อย”
ไท่ซ่างหวงมองนางอย่างเรียบเฉยแวบหนึ่ง “เจ้าอยู่ไม่ไหวก็ไสหัวออกไปข้างนอก”
“เกรงจะกระทบร่างกายของท่าน”หยวนชิงหลิงพูดอย่างระอาใจ
ไท่ซ่างหวงเคาะบุหรี่ พูดเสียงเรียบว่า “ตายไปก็ทั้งชีวิต ไม่ตายก็อยู่มามากกว่าครึ่งชีวิตแล้ว จะกระทบร่างกายหรือไม่ ใครจะสนใจ ”
หยวนชิงหลิงมองใบหน้าที่ดื้อรั้นภายใต้เส้นผมสีขาวของเขา ตาเฒ่าคนนี้จะแข็งแกร่งตลอดชีวิต แต่ที่จริงไม่ว่าเขาจะยังอยู่ในตำแหน่งหรือสละตำแหน่งแล้ว เรื่องที่เขาสามารถควบคุมได้นั้นมีไม่มาก โดยเฉพาะเรื่องการแก่งแย่งชิงดีกันในราชวงศ์ ยิ่งไร้กำลังมากพอที่จะช่วยได้
เหมือนเสด็จพ่อในตอนนี้
“ใครไม่สนใจกันเล่า ท่านอายุยืน จึงจะเป็นมิ่งขวัญแก่เป่ยถัง เป็นบุญวาสนาของลูกหลานราชวงศ์”หยวนชิงหลิงพูด
“วาสนาของคนอื่นเกี่ยวอะไรกับข้า แล้ววาสนาของข้าต้องไปขอกับใคร ”ตอนนี้ไท่ซ่างหวงอารมณ์หงุดหงิดอยู่บ้าง พูดไม่กี่คำ ก็หายใจแรงจ้องหยวนชิงหลิงเขม็ง
หยวนชิงหลิงเห็นเขาทำตัวราวกับประทัด แค่จุดก็ระเบิด ไม่กล้าพูดอะไรอีก หุบปากอย่างสนิทคอยนวดไหล่ทุบขา
นวดอยู่ชั่วครู่ เห็นเขาเหมือนจะผ่อนคลายลงแล้ว จึงค่อยๆอ้าปาก ถามขึ้นว่า“เสด็จปู่ เมื่อครู่ข้าได้ยินเสด็จย่าเอ่ยถึงอ๋องชินยู่ อ๋องชินยู่ท่านนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ”
“ตระกูลเขาน่ะหรือ นอกจากเจ้าสิบสอง ทั้งครอบครัวต่างไปดีแล้ว”ไท่ซ่างหวงหลับตาลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...