หลังจากที่งานวันเกิดสิ้นสุดลงกลับมาที่จวน ก็เป็นเวลายามไฮ่(21.00-23.00น.)แล้ว
วันนี้เหล่าของว่างมีชีวิตชีวายิ่งนัก ได้รับของขวัญวันเกิดครบหนึ่งขวบมากมาย เอารถม้าลากกลับจวนมาคันแล้วคันเล่า
กลับมาถึงจวน พวกเขาต่างก็นอนหลับไปแล้ว แม่นมอุ้มพวกเขากลับไปนอน หมาป่าหิมะกับตอเป่าก็เดินตามไป หยู่เหวินเห้ากลับตะคอกเสียงดุ“ตอเป่าหยุด”
ตอเป่ากลับวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว
หยู่เหวินเห้าโมโหจนนิ่งอึ้ง หันกลับไปพูดกับหยวนชิงหลิง “ต้องสั่งสอนมันบ้าง ไม่เช่นนั้นจะคลุ้มคลั่งกัดคนอีก ไม่ไหวเลย”
หยวนชิงหลิงกลับดึงแขนเสื้อของเขาเบาๆ “กลับห้อง ข้ามีเรื่องจะพูดกับท่าน”
หยู่เหวินเห้าเห็นสีหน้านางหนักอึ้ง แล้วก็นึกขึ้นได้ว่านางไม่ได้พูดจามาตลอดทางกลับจวน ก็รู้ได้ทันทีว่าต้องมองเห็นเรื่องอะไรบางอย่างเข้าแล้ว
ทั้งสองเข้าไปที่ตำหนักเซี่ยวเยว่ รอให้หมันเอ๋อนำชาเข้ามาให้แล้ว ก็ไล่ให้ออกไปและปิดประตู
“ทำไมหรือ สีหน้าเจ้าดูไม่ค่อยดีนัก”หยู่เหวินเห้ายื่นมือออกไปลูบหน้าของนาง “เหนื่อยหรือ”
หยวนชิงหลิงดึงมือของเขาเอาไปวางไว้ที่หัวเข่า ส่ายหน้า “ไม่เหนื่อย เจ้าห้า ข้าสงสัยว่าคนชุดดำที่ลอบทำร้ายลู่หยวนจะเป็นอ๋องชินเป่า ”
“จะเป็นไปได้อย่างไร ”หยู่เหวินเห้าส่ายหน้าอย่างประหลาดใจ “นี่เป็นไปไม่ได้กระมัง ทำไมเจ้าจึงพูดเช่นนี้ มีหลักฐานอะไรหรือไม่”
หยวนชิงหลิงพูดว่า “ท่านยังจำได้หรือไม่ที่ตอนนั้นข้าเคยให้ตอเป่าดมกลิ่นสิ่งของบนอานม้า ตอเป่าจำกลิ่นได้ เป็นอ๋องชินเป่า ท่านคิดดูนะ แต่ไหนแต่ไรมาตอเป่าไม่เคยจะโจมตีคนมาก่อน มันเข้าใจภาษาคน โดยเฉพาะงานในวันนี้ในเมื่อสามารถพามันออกไปด้วย มันย่อมรู้ว่าควรวางตัวอย่างไร ทำไมจึงไล่กัดคนอย่างไร้สาเหตุได้ และกัดใครไม่กัด เอาแต่จ้องจะกัดอ๋องชินเป่า”
หยู่เหวินเห้ายังคงรู้สึกว่าไม่น่าเชื่ออยู่บ้าง “ตอเป่าดมอานม้าเป็นเรื่องที่ผ่านไปหลายวันแล้ว มันจะสามารถจดจำกลิ่นได้ชัดเจนขนาดนั้นเชียวหรือ อีกอย่าง ที่มันกัดเสด็จปู่ก็ไม่แน่ว่าเป็นเพราะมันได้กลิ่นอะไรที่แปลกประหลาด บางทีอาจเป็นเพราะเสด็จปู่ด่ามันหรือขับไล่มันก็เป็นได้ ”
หยวนชิงหลิงพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจว่า “ตอเป่าได้บอกว่าเป็นกลิ่นบนอานม้าจริงๆ ข้าเชื่อตอเป่า”
“ตอเป่าบอกหรือ”หยู่เหวินเห้ามองนาง รู้สึกระอาใจเล็กน้อย “แต่ว่ายายหยวน เจ้าฟังภาษาสัตว์รู้เรื่อง แต่ข้าจะบอกกับคนนอกได้อย่างไรว่าเพราะตอเป่ากัดเสด็จปู่ ฉะนั้นเขาจึงเป็นคนชุดดำ อีกอย่าง ไม่ว่าอย่างไรตอเป่าก็เป็นแค่สุนัขตัวหนึ่ง สิ่งที่มันแสดงออกอาจไม่ใช่สิ่งที่เจ้าเข้าใจก็ได้”
เขาไม่มีทางสนทนากับสุนัขได้ ฉะนั้น ด้วยมุมมองของการทำคดีจึงไม่สามารถเชื่อคำพูดของหยวนชิงหลิงได้ทั้งหมด
“อีกอย่าง เจ้าแน่ใจจริงหรือ ”หยู่เหวินเห้าถาม
หยวนชิงหลิงลังเลอยู่ชั่วครู่ “เรื่องนี้ ……ท่านว่ามั่นใจหรือไม่ ข้าเองก็ไม่กล้าพูดเต็มปาก”ตอนที่ตอเป่าหันมาเห่าให้นาง ความหมายนั้นชัดเจนมาก แต่ก็เป็นอย่างที่เจ้าห้าพูด จะใช้เพียงสุนัขตัวเดียวมาเป็นหลักฐานไม่ได้
แต่ว่า อ๋องชินเป่านั้นน่าสงสัยจริงๆ
“เจ้าห้า ”หยวนชิงหลิงครุ่นคิด พูดว่า “ที่จริงต้องทำการตรวจสอบอ๋องชินเป่าด้วย เขาสามารถใกล้ชิดกับเสด็จพ่อ อีกอย่าง พ่อของเขาอ๋องชินยู่ก็ถูกใส่ร้ายจนต้องตาย ถูกประหารทั้งโคตร นี่เป็นเรื่องอยุติธรรมที่น่าตกใจมากแค่ไหน แม้ว่าจะกลับคำพิพากษาได้แล้ว แต่ว่าเขาจะไม่แค้นใจสักนิดเลยหรือ นี่ไม่ตรงกับความเป็นมนุษย์ ทุกการกระทำที่ตรงกันข้ามกับสันดานของคนล้วนน่าสงสัย ไม่ว่าอย่างไรท่านก็ต้องตรวจสอบ คงไม่เป็นไรถ้าจะตรวจสอบเขาสักหน่อย”
หยู่เหวินเห้าพูดว่า “ที่จริงข้าได้ส่งคนไปตามตรวจสอบแล้ว แต่ไม่ใช่เพราะว่าข้าสงสัยในตัวเสด็จปู่ เหมือนที่เจ้าว่า คนที่สามารถเข้าวังและใกล้ชิดเสด็จพ่อได้ตลอดเวลา ข้าล้วนทำการตรวจสอบทั้งหมด แม้แต่เหลิ่งจิ้งเหยียนข้าก็ได้ส่งคนติดตามแล้ว นี่เป็นการป้องกันเผื่อจะเกิดความประมาทเลินเล่อขึ้น”
หยวนชิงหลิงพูดว่า “เช่นนั้นก็ดี ในเมื่อท่านได้วางแผนไว้แล้ว ข้าก็ไม่ต้องพูดมาก เพื่อไม่ให้คำพูดของข้ากระทบต่อการตัดสินของท่าน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...