บทที่ 79 ชีวิติอันสงบเรียบง่าย
วันนี้หมอหลวงเฉ่าก็ยังคงเข้าทำการรักษาแผลให้กับหยู่เหวินเห้า จนในตอนที่เขาสอบถามว่าไหมเส้นนั้นจะจัดการเช่นไร ทังหยางจึงได้สั่งคนให้ไปเรียกตัวหยวนชิงหลิงเข้ามา
หยวนชิงหลิงจึงพูดกับหมอหลวงเฉ่า “นี่คือไหมโปรตีน สามารถย่อยสลายในร่างกายคนได้ ไม่จำเป็นต้องดึงออก”
“โปรตีนยังสามารถทำเป็นไหมได้ด้วยงั้นหรือ?สุดยอด สุดยอดจริงๆ !” หมอหลวงเฉ่ากล่าวชื่นชม
หยู่เหวินเห้าถึงกับจิตตกอย่างมาก “เช่นนั้นวันข้างหน้าข้าก็จะต้องตายไปพร้อมกับไหมนี้?”
“ถูกต้อง ไหมอยู่คนก็อยู่ ไหมตายคนก็ตายเช่นกัน” หยวนชิงหลิงกล่าวอย่างเยาะเย้ย
หลายวันมานี้ นับว่าทั้งสองเข้ากันได้ดีขึ้น แต่ทว่าก็มีบางครั้งที่ต่างก็ประชดประชันเสียดสีอีกฝ่ายอยู่บ้าง
สวีอีนั้นรู้สึกชื่นชมความสามารถทางการรักษาของหมอหลวงเฉ่าอย่างมาก รอจนเขาทำแผลให้กับท่านอ๋องเสร็จ จึงได้รีบเข้าไปเพื่อคำแนะนำ “หมอหลวงช่วงนี้ข้ารู้สึกว่าร่างกายอ่อนเพลีย ท่านจะสามารถตรวจอาการข้าได้หรือไม่?”
“มหาดเล็กสวีรู้สึกไม่สบายตรงไหนงั้นหรือ?” หมอหลวงเฉ่ากล่าวอย่างเป็นกันเอง ไม่ได้ดูถูกดูแคลนว่าสวีอีเป็นเพียงมหาดเล็กในจวนอ๋องเท่านั้น
“ช่วงนี้ข้ามักจะง่วงนอนตลอดเวลา สมองมีอาการมึนงง ทั้งยังผายตดบ่อยครั้ง ทั้งตดที่ผายออกมายังมีกลิ่นเหม็น ลมปากก็เหม็น ผมก็มีมันออกบ่อยครั้ง ทั้งยังมีตุ่มขึ้นที่บั้นท้ายหลายที่อีกด้วย หมอหลวงท่านเข้ามาข้าจะให้ท่านดูตุ่มของข้า มันน่ากลัวเป็นอย่างมาก……” พูดจบ เขาพลันดึงตัวหมอหลวงเข้าไปยังแผ่นกั้น
หยวนชิงหลิงที่นั่งห่างจากด้านหน้าแผ่นกั้นมาเพียงนิดเดียว ก็สามารถได้ยินเสียงที่สวีอีถอดเสื้อผ้า จึงทำให้นางรู้สึกเขินอายเล็กน้อย
หยู่เหวินเห้าตะโกนด่าไปยังคนที่อยู่หลังแผ่นกัน “สวีอีกลับไปถอดที่ห้องของเจ้าซะ”
สวีอีที่อยู่หลังแผ่นกั้นยื่นหน้าออกมาพร้อมกับผายลมออกมา เสียงจังหวะนั้นดังเป็นอย่างมาก และแล้วทุกอย่างก็นิ่งสงบลงทันทีที่เสียงนั้นระเบิดขึ้นมา
“คือกลิ่นนี้แหละ หมอหลวงท่านว่า ข้าป่วยเป็นป่วยไข้อะไรหรือเปล่า?” สวีอีทำเป็นไม่สนใจกับเสียงคำรามของหยู่เหวินเห้าเลยแม้แต่น้อย
หมอหลวงอุดจมูกตัวเองเอาไว้แล้วพลันกระโดดหนีออกมา “ได้มหาดเล็กสวีข้ารู้ว่าท่านป่วยเป็นอะไรแล้ว ท่านเป็นม้ามพร่องชื้นปิดล้อม กลับไปข้าจะให้ยากับท่าน ข้าขอตัวลาก่อน”
หยวนชิงหลิงกลั้นลมหายใจ แต่กลิ่นนี้ค่อนข้างรุนแรงเกินไป นางจึงลุกขึ้นแล้วเดินออกไปด้านนอกทังหยางก็ตามนางเดินออกไปเช่นกัน ส่วนหยู่เหวินเห้าที่ยังนอนอยู่ เสื้อยังไม่ได้สวม จะให้ออกไปเช่นนี้ก็ไม่ดีนัก จึงทำได้เพียงด่าทอสวีอีเท่านั้น
สวีอีเองก็ทนไม่ไหวกับกลิ่นนี้ จนต้องหนีออกไปด้านนอกด้วยเช่นกัน
หยวนชิงหลิงนั่งอยู่หน้าระเบียง รับลมเบาๆ ที่พัดผ่านเข้ามา พร้อมกับครุ่นคิดบางอย่าง
หยู่เหวินเห้าที่สวมเสื้อผ้าจนเรียบร้อยแล้ว จึงเดินตามออกมาด้วยอีกคน ได้เห็นว่านางกำลังนั่งเท้าคางอยู่ตรงหน้าระเบียง ทำให้นางดูตัวเองเล็กอย่างมาก แสงอาทิตย์สาดส่องผ่านช่องว่างของต้นไม้ลงบนศีรษะของนาง ดูแล้วชีวิตช่างสงบนิ่งเสียจริง
เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะนั่งลงไป
“คิดอะไรอยู่?” หยู่เหวินเห้ากล่าวถามอย่างเรียบเฉย การถูกสวีอีทำลายบรรยากาศเช่นนี้ ราวกับว่าบรรยายดูเป็นกันเองมากกว่าเดิมเสียอีก ที่แท้การเป็นฝ่ายเข้าหานางเพื่อพูดคุยก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น
“ตากแดดเสริมบำรุงแคลเซียม ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น” แท้จริงแล้วหยวนชิงหลิงกำลังคิดถึงเมื่อสักครู่นี้ที่คนจากจวนเจ้าพระยาจิ้งมาส่งข่าวกับนาง นางรู้ดีว่าไม่ได้เป็นเพราะเรื่องอาการป่วยของฮูหยินใหญ่ แต่เพราะเจ้าพระยาจิ้งต้องการจัดการกับนาง
“เสริมบำรุงอะไร?” หยู่เหวินเห้าเมื่อสักครู่นี้ไม่ได้ยินจริงๆ
“บำรุง……” หยวนชิงหลิงปล่อยวางความคิดด้านวิทยาศาสตร์
“บำรุงสมองเสียหน่อย สมองไม่ค่อยได้การ”
“เดี๋ยวนี้ถึงขั้นสามารถบำรุงสมองได้แล้ว?พูดจาเหลวไหล!” วันนี้หยู่เหวินเห้าอารมณ์ดีขึ้นมาไม่น้อย บางทีท้องฟ้าอันสดใสอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
เขาเหลือทองไปยังดวงอาทิตย์อันส่องสว่าง จนรู้สึกว่าแสงจ้าเกินไป จนต้องรีบขยับตัวออกไป
“ที่จริงตากแดดก็นับว่าดีเช่นกัน ส่วนคนเราก็คงจะไม่ได้โชคร้ายตลอดไปหรอก” หยวนชิงหลิงเอามือเท้าคางดังเดิม ด้วยท่าทางที่เกียจคร้าน
“หญิงอัปลักษณ์……”
หยวนชิงหลิงหันหน้าไปหาขันที “ข้อตกลงของพวกเรามีเพิ่มขึ้นมาอีกประการ ก็คือห้ามเรียกข้าว่าหญิงอัปลักษณ์ หญิงขี้เหร่ หรืออะไรก็ตามที่เป็นของอัปลักษณ์”
“ที่ข้าพูดมันไม่ใช่เรื่องจริงหรืออย่างไร?”
“เช่นนั้นก็ต้องดูว่าเปรียบเทียบกับผู้ใด” ความงามมักได้มาด้วยการเปรียบเทียบ
“เทียบกับข้า!” หยู่เหวินเห้ากล่าวอย่างดูถูก
หยวนชิงหลิงมองไปหาเขา แสงอาทิตย์ที่กระทบดวงตา แสงที่สาดลงบนตัวทำให้ราวกับว่าเขากำลังส่องแสงระยิบระยับ ใบหน้าอันหล่อเหลาเองก็ประกายแสงอยู่เช่นกัน ผิวขาวเนียนดังข้าวสาลี เครื่ององค์บนหน้าสมบูรณ์แบบ ดวงตาเฉี่ยวคม ขนตาเรียวยาว แม้จะมีรอยแผลเป็นอยู่บ้าง แต่เขาเป็นบุรุษที่มีรูปงามจนทำให้คนหยุดหายใจได้เลย
น้อมรับด้วยความจำยอม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...