หยู่เหวินเห้าก็ไม่ค่อยกระจ่างว่าคนวงการยุทธจักรชาวยุทธภพมีอะไรพิเศษ อย่างไรเสียผู้คนมากมายที่ฝึกซ้อมวิทยายุทธก็เพื่อดูแลปกป้องบ้านเรือนของวงศ์ตระกูลที่เรืองอำนาจ ในนั้นก็ไม่ขาดแคลนลูกๆหลานๆที่ซื่อสัตย์
เขามองดูเสี้ยวหงเฉิงแล้วกล่าว: “ความโลภเป็นสันดานเดิมของมนุษย์ บวกกับฐานะวงศ์ตระกูลจวนอ๋องชินเป่าไม่ได้ต่ำต้อย อาศัยภายใต้ใบบุญของเขา ก็ไม่เห็นว่าจะน่าน้อยใจอย่างไร”
เสี้ยวหงเฉิงเห็นสีหน้าเขางุนงง จึงอธิบายอย่างอดทน: “ไม่ผิด ความโลภเป็นสันดานเดิมของมนุษย์ แต่ก็เหมือนที่ข้าพูดเมื่อครู่เฉินต้าถงผู้นี้ ตระกูลของเขาร่ำรวย เขาไปอาศัยพึ่งพิงในบ้านของอ๋องชินเป่า นั้นไม่ต้องเอ่ยก็รู้ว่าไม่ใช่เพราะทรัพย์สินเงินทอง ในเมื่อไม่ใช่เพราะทรัพย์สินเงินทอง เช่นนั้นมากกว่าครึ่งก็เพราะต้องการอำนาจ แต่ว่า ตอนนี้อ๋องชินเป่าไม่ได้เข้ามาเป็นขุนนางในราชสำนัก อำนาจในตอนนี้ก็ขอร้องไม่ได้ ดังนั้น ที่ร้องขอได้ก็คืออนาคต”
“อันที่จริงตอนแรกเริ่มอ๋องชินเป่ามีความคิดก่อการกบฏ ก็ไม่ใช่ว่าถูกต้องแล้วหรือ?” หยู่เหวินเห้ายิ่งฟังยิ่งงงแล้ว
เสี้ยวหงเฉิงส่ายหน้า “เหล่านี้คือสำนักใหญ่ วิสัยทัศน์เด่นไม่เหมือนคนอื่นเป็นที่สุด โดยเฉพาะเฉินซู่ที่ให้ลูกชายของตัวเองมาที่จวนอ๋องชินเป่า แต่ไม่ได้ส่งผู้มีฝีมือสูงส่งในสำนักมาอย่างชุ่ยๆ สามารถเห็นได้ว่าระมัดระวังรอบคอบและตั้งใจทำอย่างจริงจัง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมถึงไม่เลือกคนที่สามารถพึ่งพาได้มาขอพึ่งอาศัย? หนึ่งปีกว่าสองปีก่อนไปขอพึ่งอาศัย แม้เวลานั้นไปขอพึ่งอาศัยอ๋องจี้ ก็ยังจะเหมาะสมกว่า ก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงรัชทายาทท่านหรือว่าเป็นอ๋องอานแล้ว ไม่ว่าอย่างไร แม้แต่กำลังทหารธรรมดาๆอ๋องชินเป่าก็ไม่มี ยิ่งไร้อำนาจที่แท้จริงด้วย แม้หนึ่งปีกว่าก่อนหน้านี้จะเริ่มวางแผน ก็เป็นเพียงการพูดจาเรื่อยเปื่อยประโยคหนึ่ง ทำไมกลับทำให้เฉินซู่ส่งลูกชายของตัวเองมาโดยไม่เสียดายล่ะเพคะ?”
เมื่อนางคลี่รายชื่อออก ชี้ชื่อด้านบน “ยังมีสามท่านนี้ ล้วนเป็นลูกศิษย์ของสำนักใหญ่ในวงการยุทธจักร วิทยายุทธสูงจนไม่ต้องเอ่ยถึง แผนการอุบายและความเฉลียวฉลาดล้วนเป็นที่หนึ่ง หากบอกว่าเฉินซู่เสี่ยงอันตราย ก็ไม่ถึงขั้นที่สำนักมากมายขนาดนี้จะเสี่ยงอันตรายตาม”
ทันทีที่หยู่เหวินเห้าได้ยินนางอธิบายเช่นนี้ จึงได้เข้าใจขึ้นมา “ดังนั้น คนเหล่านี้ไม่ใช่อ๋องชินเป่าชักชวนมา และไม่ได้มาขอพึ่งพาอาศัยเอง แต่มีคนจัดการให้มาซ่อนอยู่ข้างกายของอ๋องชินเป่า กลายเป็นคนสนิทของอ๋องชินเป่า”
“ถูกต้อง มีความเป็นไปได้มากว่าจะเป็นคนของหงเย่” เสี้ยวหงเฉิงกล่าว
หยู่เหวินเห้าคิดแล้วคิดอีก ส่ายหน้าช้าๆ “ไม่ ไม่ใช่คนของหงเย่ หากพวกเขาเป็นคนของหงเย่ อีกทั้งสมมติว่าพวกเขาขโมยแผนที่ทางการทหารไป จะรีบส่งต่อให้หงเย่ทันทีแน่นอน เช่นนั้นหงเย่ก็ไม่จำเป็นต้องมารอบหนึ่ง ตอนนี้จากที่พวกข้าได้สังเกตเขา แผนที่ทางการทหารเขายังทำไม่สำเร็จ เขายังคิดวิธีช่วยชีวิตอ๋องชินเป่าอยู่”
“จะเป็นการตบตาหรือไม่? ความจริงเขาได้แผนที่ทางการทหารแล้ว เพียงแค่ตั้งใจเข้ามาก่อกวนการสอดแนมของทุกคน”
หยู่เหวินเห้าโบกมือ บนใบหน้าที่สง่างามก่อเป็นพลังความเคร่งขรึม “ข้ามีความโน้มเอียงว่าในจวนของอ๋องชินเป่ามีสองพลังอำนาจ พลังหนึ่งคือท่านชายหงเย่ อีกพลังหนึ่ง ก็คือคนผู้นั้นที่ทำร้ายลู่หยวน ผู้มีฝีมือสูงส่งของวงการยุทธจักรเหล่านี้มีความเป็นได้ว่าจะเป็นการจัดการของสองพลังอำนาจนี้”
เสี้ยวหงเฉิงทำหน้าไม่ถูก “ก่อนหน้านี้ข้ายังคิดว่าอ๋องชินเป่าฉลาดเป็นอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าเขาก็เป็นเพียงหมากของผู้อื่น”
หยู่เหวินเห้าส่ายหน้า “เจ้าพูดเช่นนี้ก็ผิดแล้ว เขาฉลาดมาก แต่เขาวางแผนช้าเกินไป ดังนั้น ในใจเขารู้ว่าอันที่จริงคนเหล่านั้นเชื่อไม่ได้ เบื้องหลังมีเจ้านาย แต่ทำอะไรไม่ได้ เขาไม่มีคนที่สามารถใช้ได้ เจ้าดู ไม่ว่าจะเป็นการขโมยแผนที่ทางการทหาร หรือว่าพาฮูหยินใหญ่ไปถึงซีเจ้อ เขาล้วนไม่ได้ใช้คนเหล่านี้ แต่กลับไปใช้คนสนิทของตัวเอง บังเอิญคนสนิทเหล่านั้นไม่ได้นับว่าเป็นคนจิตใจโหดเหี้ยม สุดท้ายก็ถูกหงเย่ฆ่าตาย ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้วางแผนและไตร่ตรองอย่างรอบคอบ เขาเพียงแค่เตรียมตัวไม่พอ และไม่มีเวลาให้เขาเตรียมตัวเพิ่มมากขึ้น”
เสี้ยวหงเฉิงพยักหน้า เห็นด้วยกับความคิดของเขา กล่าวถาม: “เช่นนั้นท่านคิดว่าพลังอำนาจอีกหนึ่งเป็นผู้ใด”
ในใจหยู่เหวินเห้ามีคนที่เลือกไว้ล่วงหน้าแล้ว “ท่านพี่สี่”
เสี้ยวหงเฉิงคาดไม่ถึงเล็กน้อย “เขา? หมู่นี้เขาไม่ได้ประพฤติตัวเรียบร้อยไม่นอกลู่นอกทางเป็นอย่างมากแล้วหรือ?”
“ตอนนี้ดูเหมือนประพฤติตัวเรียบร้อยไม่นอกลู่นอกทาง แต่เจ้าก็ต้องไม่ลืม การซ่อนตัวเรื่องนี้อย่างน้อยก็อยู่ช่วงหนึ่งปีก่อน เวลานั้นชายารองหลูยังไม่เสียชีวิต กลยุทธ์ของผู้หญิงคนนี้เจ้าก็ไม่สามารถมองข้ามได้ ข้าสงสัยว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเช่นนี้ สองพลังอำนาจที่ซ่อนตัวอยู่ในจวนอ๋องชินเป่าล้วนรู้ว่าอ๋องชินเป่าไปขโมยแผนที่ทางการทหารแล้ว และท่านพี่สี่ก็รู้ว่าในจวนของอ๋องชินเป่ามีคนอื่นซ่อนตัวอยู่ ดังนั้น หลังจากที่เขาได้รับข้อมูลแล้ว ก็ติดตามอ๋องชินเป่า คิดแย่งแผ่นที่ทางการทหารไปก่อนที่อ๋องชินเป่าจะกลับถึงจวน ใครจะรู้ว่าอ๋องชินเป่าได้พบลู่หยวน ลู่หยวนต่อสู้กับอ๋องชินเป่ารอบหนึ่ง ถูกอ๋องชินเป่าทำร้าย เขา......”
หยู่เหวินเห้ากล่าวเช่นนี้ ฉับพลันนั้นก็สับสนเล็กน้อยแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...