เหลิ่งจิ้งเหยียนทูลลา เพิ่งหันตัวไป ก็หันกลับมาถามขึ้นอีกว่า “ฮ่องเต้ ทางด้านอ๋องอาน ต้องหาคนไปชี้แนะไหม?”
ฮ่องเต้หมิงหยวนได้ยินเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่จำเป็น เจาะหาช่องทางเป็นนิสัยของเขา ขอเพียงมีโอกาส เขาไม่มีทางปล่อยไปเด็ดขาด เจ้าสองคนไปชี้แนะ กลับจะเป็นการทำให้เขาระมัดระวังตัว คนเป็นพ่อย่อมรู้จักลูกตัวเองดี เอาแบบนี้แหละ”
เหลิ่งจิ้งเหยียนโค้งคำนับทูลลา แล้วก็จากไป
ไท่ซ่างหวงถูกส่งไปยังพระที่นั่ง ในขณะที่ป่วยหนักขนาดนี้ กู้ซือส่งไปพร้อมกับขบวนใหญ่ หลังจากส่งเสร็จแล้ว ก็รีบเดินทางไปยังจวนอ๋องฉู่ทันที แล้วก็เล่าเรื่องนี้ให้หยู่เหวินเห้าฟัง
หยู่เหวินเห้าโกรธอย่างเดือดดาลจริงๆ รีบเข้าวังไปขอเข้าเฝ้าทันที ฮ่องเต้หมิงหยวนกำลังหารืองานอยู่กับเราขุนนาง ปล่อยเขารออยู่ด้านนอก หยู่เหวินเห้ารออยู่ตั้งนานก็ไม่ได้เจอฮ่องเต้หมิงหยวน สุดท้ายก็จากไปอย่างโมโหสุดขีด
กลับมาถึงจวน เหลิ่งจิ้งเหยียนได้รออยู่ในจวนแล้ว หยู่เหวินเห้าตากลมหนาวอยู่กว่าครึ่งวัน หัวสมองมีสติขึ้นมามากแล้ว บีบบังคับพาเหลิ่งจิ้งเหยียนไปยังห้องหนังสือ พร้อมพูดขึ้นว่า “คำพูดที่เจ้าพูดพวกนั้น ข้าไม่เชื่อ เจ้ากับเสด็จพ่อปิดบังเรื่องอะไรไว้กันแน่”
เหลิ่งจิ้งเหยียนแลดูเหมือนจะคาดเดารู้ว่าเขาจะพูดเช่นนี้ จึงพูดขึ้นอย่างจนใจว่า “เจ้าจะเชื่อก็ดี ไม่เชื่อก็ช่าง นี่เป็นความหมายของฮ่องเต้จริง ที่มาในครั้งนี้ ข้าจะพูดกับเจ้าให้ชัดเจนอีกครั้ง ตอนนี้เป็นไท่ซ่างหวง ต่อไปจะเป็นใครข้าไม่รู้ ดีที่สุดเจ้ารีบลาออกจากราชการเถอะ วันนี้ฮ่องเต้พูดขึ้นมาว่า พระชายารัชทายาทมักจะออกไปแต่เช้าแล้วก็กลับค่ำ ไม่ดูแลเลี้ยงซื่อจื่อให้ดี ส่งเข้าวังมาให้ฮองเฮากับหวงกุ้ยเฟยร่วมกันเลี้ยงดูจะดีกว่า”
หยู่เหวินเห้าหรี่ตาลง พร้อมพูดขึ้นว่า “เหลิ่งจิ้งเหยียน เจ้าไม่ได้พูดความจริง นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ค่ะไม่เชื่อว่าเสด็จพ่อจะเป็นคนเช่นนี้ พวกเจ้าวางแผนอะไรบ้างกันแน่?”
เหลิ่งจิ้งเหยียนมองดูเขา โบกมือพร้อมพูดขึ้นว่า “สิ่งที่ควรพูดก็พูดออกมาหมดแล้ว”
เหลิ่งจิ้งเหยียนมาถึงก็พูดจาเหมือนจะใช่แต่ความจริงไม่ใช่เช่นนี้ จะไม่ทำให้หยู่เหวินเห้าบ้าคลั่งได้อย่างไร?
สองสามวันนี้ เขาสั่งคนไปสืบอยู่ตลอด แต่ก็สืบไม่ได้ความอะไรเลย ภายในวังเหมือนซ่อนความลับที่น่าตกใจอะไรไว้ แล้วก็เหมือนตั้งใจที่จะปิดบังไม่ให้เขารู้เรื่อง
แล้วฉางกงกงก็ส่งคนเอาจดหมายมาให้ บอกว่าอาการป่วยของไท่ซ่างหวงยิ่งทรุดหนักแล้ว ด้วยความที่หยู่เหวินเห้าโกรธจัด จึงบุกเข้าไปในพระที่นั่ง แต่ยังไม่ทันได้เข้าไปข้างใน ก็ถูกองครักษ์ลับผีไล่ตะเพิดออกมาแล้ว
หยู่เหวินเห้าเข้าวังไปขอเข้าเฝ้าอีกครั้งด้วยความโกรธจัด แล้วก็ยังคงถูกขัดขวางไว้ เขาก็ไม่สามารถที่จะทนรอได้อีกต่อไปแล้ว ดังนั้นจึงได้ปรึกษากับหยวนชิงหลิงว่า จะทูลขอปลดตนเองและลาออกจากราชการในที่ว่าราชการเช้า
นี่เป็นการไม่น่าไว้วางใจอย่างมาก ตำแหน่งราชการไม่สามารถรักษาไว้ได้ไม่พอ ยังจะส่งผลกระทบต่อหยวนชิงหลิงกับลูกต้องเดือดร้อนไปด้วย ดังนั้นเขาจึงต้องปรึกษากับหยวนชิงหลิง
ทางด้านหยวนชิงหลิง ร้อนใจเหมือนดั่งถูกไฟแผดเผาอย่างไม่อาจบรรยาย ยังจะสนใจผลกระทบที่จะทำให้เดือดร้อนหรือไม่ที่ไหนรีบพูดเห็นด้วยกับความคิดเห็นของเขาทันทีว่า “ยังไม่ต้องสนใจ ให้พวกเราได้จากคนแล้วค่อยว่ากัน”
“ได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พรุ่งนี้ข้าจะทูลขอปลดตนเอง แล้วก็ลาออกจากตำแหน่งเจ้ากรมการพระนคร”
หลังจากตัดสินใจแล้ว หยู่เหวินเห้ากลับรู้สึกโล่งไปทั้งตัว หลายวันนี้ทานไม่ลง นอนไม่หลับ ทั้งร่างกายและจิตใจจมปลักอยู่กับอารมณ์ความรู้สึก เดี๋ยวก็พูดปลอบให้ตนเองเชื่อเสด็จพ่อ เดี๋ยวก็ตำหนิเขาอยู่ในใจอย่างเจ็บปวด ความรู้สึกแบบนี้ช่างทรมานยิ่งนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...