บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 855

หลังจากที่อ๋องอันออกมาจากจวนอ๋องฉู่ ก็เข้าวังเข้าเฝ้ายอมรับผิด

เขาละเมิดคำสั่งกักบริเวณ ถูกฮ่องเต้หมิงหยวนตำหนิไปยกใหญ่ แต่ว่า หลังจากตำหนิแล้ว ฮ่องเต้หมิงหยวนกับเรียกให้หมอหลวงมาทำการรักษาบาดแผลให้เขา ไม่อนุญาตให้เขาทานอาหารเป็นเพื่อนกุ้ยเฟยในวัง

ผ่านไปหลายวัน ก็มีขุนนางถวายฎีกาจริงๆ ล้างมลทินให้กับอ๋องอัน ราวกับก่อนหน้านี้ที่โสวฝู่ฉู่ขอประทานอภัยโทษให้กับหยู่เหวินจุน ยกเรื่องที่เขาเคยทำคุณงามความดีเอาไว้ ก็เป็นเช่นนี้ อ๋องอันหลุดพ้นจากคำสั่งกักบริเวณ แม้จะไม่สามารถได้รับตำแหน่งหน้าที่การงานอีกครั้ง แต่บางทีอาจเป็นเพราะว่าฮ่องเต้หมิงหยวนถูกลูกชายทำให้เสียใจติดต่อกันหลายครั้ง ฉะนั้นจึงได้อนุญาตเขาเข้าวังมาอยู่เป็นเพื่อนได้ตลอดเวลาเป็นการพิเศษ

พระกรุณาเช่นนี้ ดูดียิ่งกว่าการได้รับตำแหน่งขุนนางใดๆเสียอีก ชั่วเวลาสั้นๆ ข่าวลือว่าฮ่องเต้ต้องการจะใช้งานอ๋องอันก็แพร่สะพัดออกไป จวนอ๋องอันก็เปลี่ยนไปเป็นวันวานที่อ้างว้าง

ในช่วงเวลานี้เอง ทางเซียนเปยได้มีข่าวคราวส่งมา บอกว่าแม่ทัพหงเล่ได้มีการแย่งชิงอำนาจจนได้ขึ้นครองราชย์ เปลี่ยนชื่อประเทศเป็นประเทศซู่ เซียนเปยกลายเป็นประเทศซู่ แต่งตั้งหงเล่ซิงเป็นรัชทายาท

สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเซียนเปย นี่หมายความว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านการไปมาหาสู่ระหว่างเป่ยถัง เป่ยถังทั้งบนล่างต่างก็เตรียมกองทัพไว้อย่างพร้อมเพรียงเพื่อรอตั้งรับศัตรู ไม่รู้ว่าทางด้านประเทศซู่จะมีท่าทีอย่างไรกันแน่

มีการเปิดเผยถึงข้อมูลลับ ว่าประเทศซู่กับเป่ยโม่ได้บรรลุข้อตกลงกัน หมายมั่นจะประกาศสงครามกับแคว้นต้าโจว แคว้นต้าโจวเข้าสู่สภาวะเสี่ยงอันตราย

ทางด้านหยู่เหวินเห้าเองก็ได้รับรายงานเช่นกัน บอกว่าแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นต้าโตวเฉินจิ้งถิงกับเสี้ยนจู่จิ่นหนิงที่เดิมทีต่างก็เร่งเดินทางไปยังชายแดนตั้งแต่แรก วางแผนตั้งรับการโจมตีของทั้งสองประเทศ

ช่วงเวลาปลายปีก็มาถึงด้วยบรรยากาศที่แสนจะกดดันเช่นนี้เอง ในวังมีการกินข้าวร่วมกันในคืนส่งท้ายปีเก่า หยู่เหวินเห้าไม่ได้รับการเชื้อเชิญให้ไปร่วมงานด้วย

ไท่ซ่างหวงยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่พระที่นั่ง ย่อมต้องไม่สามารถเดินทางกลับไปกินข้าวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาได้ แต่ว่า ในช่วงพลบค่ำที่จวนอ๋องฉู่กลับมีคนคนหนึ่งหายออกไปจากทางประตูหลังจวนอย่างเงียบๆ ควบม้าตรงไปยังพระที่นั่ง ชั่วครู่เดียว ที่ประตูหลังจวนอ๋องฉู่ก็มีรถม้าคันหนึ่งตามออกมา ก็วิ่งตรงไปยังพระที่นั่งเช่นเดียวกัน

ด้านนอกของจวนอ๋องฉู่มีคนคอยจับตาดูอยู่ ได้ทำการรายงานอ๋องอันตั้งแต่แรกแล้ว

หลังจากอ๋องอันได้รับข่าว ก็พูดเสียงเรียบว่า “เสด็จพ่อไม่ได้อนุญาตให้เขาเข้าวังมากินข้าวอย่างพร้อมหน้ากัน เกรงว่าเขาคงจะไปที่พระที่นั่งเพื่อประจบประแจงไท่ซ่างหวง ไม่จำเป็นต้องสนใจเขา ให้คนคอยจับตาดูเอาไว้ก็พอ”

ในพระที่สั่งเพราะการสั่งการของหยวนชิงหลิง ฉะนั้นบรรยากาศของปีใหม่จึงคึกคักมาก นางรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าหยู่เหวินเห้าจะพาเด็กๆมา ฉะนั้นจึงได้สั่งให้มีการจัดงานฉลองปีใหม่อย่างรื่นเริงที่สุด

หยู่เหวินเห้าพาเด็กๆมาถึง ในพระที่นั่งก็ครึกครื้นขึ้นมาในทันที เด็กๆต่างก็ห้อมล้อมอยู่รอบตัวเสด็จทวด ทั้งซุกซนทั้งเอาใจใส่

เดิมคิดว่าจะกินข้าวพร้อมหน้ากันในครอบครัวเพียงไม่กี่คน ไหนเลยจะรู้ว่าพอถึงช่วงพลบค่ำ โสวฝู่ฉู่กับเซียวเหยากงต่างก็เอาเหล้าชั้นดีเร่งเดินทางมาถึง บอกว่าในจวนน่าเบื่อ ในวังก็เย็นชา ไม่สู้มาหาความสนุกที่นี่ ดีที่ทำกับข้าวไว้มากพอ แม้ว่าจะมีคนมาเพิ่มอีกก็พอกิน ฉะนั้นจึงได้เชิญให้ทุกคนเข้ามานั่งลงด้วยกัน

หลังจากนั่งลงแล้ว เซียวเหยากงก็ด่าฮ่องเต้ยกใหญ่ด้วยอาการหน้าดำหน้าแดง จนตอนนี้เขาก็ยังคงคิดว่าฮ่องเต้อกตัญญูไม่สนใจอาการป่วยของไท่ซ่างหวง

โสวฝู่ฉู่เตะเขาไปหนึ่งที “หุบปากเถอะ วันนี้เป็นวันดี ทำไมต้องพูดเรื่องที่ไม่พอใจเหล่านี้ด้วย”

เซียวเหยากงเห็นสีหน้าของไท่ซ่างหวงไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ ก็ตบไปที่ปากของตัวเอง “ข้าปากพล่อย ไม่พูดเรื่องพวกนั้นแล้ว ดูสิว่าวันนี้ข้าเอาเหล้าดีอะไรมา เป็นเหล้าดอกท้อที่แม่นางเฉินบ่มเองกับมือ มา ดื่มดูสักแก้วหนึ่งก่อน ”

สีหน้าของไท่ซ่างหวงยิ่งขรึมลงไป รีบมองไปทางหยวนชิงหลิงแวบหนึ่ง จากนั้นก็ดันแก้วเหล้าออกไป “ข้าเลิกเหล้าแล้ว”

เซียวเหยากงนิ่งอึ้ง “เพราะอะไร”

“ไม่สบาย”ไท่ซ่างหวงยังคงดันแก้วเหล้าออกไปอย่างไม่สนใจ “ตอนนี้การดูแลสุขภาพสำคัญที่สุด จะได้มีชีวิตอยู่อีกสักปีสองปี”

เซียวเหยากงประหลาดใจ “การดื่มเหล้าเกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพด้วยหรือ การดื่มเหล้าก็คือการดูแลสุขภาพ ดื่มหนึ่งคำ จิตใจสดชื่น ไม่ดื่มจึงจะเป็นโรค”

“ถ้าขืนเข้ายังพูดอีก วันหน้าจะไม่ต้อนรับเจ้ามาอีก ”ไท่ซ่างหวงตำหนิด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน