หลังปีใหม่ กรมข้าราชการพลเรือนได้มีประกาศอย่างเป็นทางการ มีการย้ายตำแหน่งของวัดหงหรูซื่อชิง วัดหงหรูชิงคนใหม่ก็คืออ๋องอันหยู่เหวินอัน ส่วนอ๋องซุนที่เข้าไปอยู่ในวัดหงหรูก่อนหน้านี้ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นซือเฉิง
ส่วนหยู่เหวินเห้า ยังคงถูกกักบริเวณอยู่ในจวน และไม่ต้องการให้เขาวุ่นวายกับเรื่องราวในราชสำนักใดๆทั้งสิ้น ไม่ช้าในจวนก็ค่อยๆเงียบเหงาลง นอกจากเพื่อนสนิทที่คบหากันนานแล้ว แทบจะไม่มีใครย่างกรายเข้ามาหาเลย
ในช่วงเวลาอันยาวนานที่ถูกกักบริเวณ เสี้ยวหงเฉิงแทบจะไม่เคยมาที่จวนเลย คอยวิ่งเต้นทำงานให้เขาอยู่ข้างนอกตลอด
พี่ซูหลง หลู่หม่างและหวางเจียงจะมาคุยและกินดื่มเป็นเพื่อนเขาอยู่เป็นบางครั้ง เพื่อนเหล่านี้รวมตัวอยู่ด้วยกัน โดยปกติแล้วจะพูดคุยกันราวกับว่าอยู่กันคนละฟากฟ้า โดยเฉพาะหวางเจียงที่ชื่นชอบโอ้อวดความรู้ด้านดาราศาสตร์ของเขา
หลู่หม่างตอนนี้อยู่ในค่ายทหาร ดูแลองค์ชายเก้าหยู่เหวินเทียน เขานั้นชื่นชมหยู่เหวินเทียนไม่ขาดปาก บอกว่าเขาอายุน้อยๆ ก็มีท่าทีน่าเกรงขามของการเป็นแม่ทัพใหญ่
พูดถึงเรื่องในราชสำนัก หวางเจียงที่แต่ไหนแต่ไรไม่เคยจะรู้สึกสนใจก็ถามขึ้นมาอย่างกะทันหันว่า “พระองค์ ท่าจะเฝ้าจวนอยู่อย่างนี้ตลอดไปหรืออย่างไร จะไม่พยายามสักหน่อยหรือ”
หยู่เหวินเห้าพูดด้วยท่าทีเกียจคร้านว่า “มีอะไรให้ต้องพยายาม ชีวิตเช่นนี้ช่างสบายยิ่งนัก ข้านั้นมีความสุขกับความเงียบสงบ สมดังที่ใจหวังแล้ว”
“แต่นี่ก็ไม่ใช่ทางที่ดีที่สุด”หวางเจียงพูด
“มากที่สุดก็แค่ แม้แต่ตำแหน่งรัชทายาทก็ไม่ต้องเป็นแล้ว”หยู่เหวินเห้าพูดอย่างไม่สนใจไยดี
พี่ซูหลงเองก็ดูจะไม่แยแสเป็นอย่างยิ่ง ในเมื่อตระกูลซูตอนนี้ได้แตกสลายไปแล้ว พูดว่า “ใช่แล้ว ข้าว่าเป็นเช่นนี้ก็ดีมาก ก่อนหน้านี้ตอนที่รัชทายาททรงยุ่งมาก พวกเราอยากจะมาหาเขาเพื่อดื่มเหล้ายังต้องทำการนัดแนะล่วงหน้ากว่าครึ่งเดือน ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว คิดถึงก็ยกไหเหล้าตรงมาได้ทันที สบายใจเป็นที่สุด”
หวางเจียงพูดยิ้มๆว่า “นั่นก็จริง ความว่างก็มีข้อดีของความว่าง ”
ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็รู้สึกข้องใจขึ้นมา “ครั้งนี้ฮ่องเต้ได้ย้ายอ๋องอันไปยังวัดหงหรู นี่หมายความว่าอย่างไร นี่ไม่เท่ากับว่าจะให้อ๋องอันรับหน้าที่ในการกำกับดูแลเรื่องการทูตหรอกหรือ”
“เสด็จพ่อจะใช้งานเขา ข้าก็ทำอะไรไม่ได้ จะให้ข้าไปขัดขวางหรืออย่างไร ถ้าหากไปขัดขวางจริงๆละก็ เกรงว่าคงจะไม่ได้ง่ายดายแค่ถูกกักบริเวณอยู่แต่ในจวนเช่นนี้แล้ว”หยู่เหวินเห้าพูด
“ไม่ต้องสนใจเรื่องพวกนั้น พวกเราแค่สนใจเรื่องดื่มเหล้าก็พอ”หลู่หม่างรินเหล้าให้กับทุกคน ใบหน้าที่ดำคล้ำถูกลมหนาวพัดจนแห้งกร้านแตกร้าวอยู่บ้าง ปีใหม่ที่ผ่านมานี้บางทีอาจดื่มมากไปหน่อย ใบหน้าที่แดงก่ำเพราะเหล้ายังไม่จางหายไป
หลังจบงานเลี้ยง หยู่เหวินเห้าให้พี่ซูหลงอยู่ต่อด้วยกันตามลำพัง บอกว่าจะถามไถ่เรื่องของตระกูลซูสักหน่อย นี่เป็นเรื่องในครอบครัว หวางเจียงกับหลู่หม่างก็ไม่สะดวกที่จะอยู่ต่อเพื่อฟังด้วย จึงได้ขอตัวลากลับกันไปก่อนแล้ว
หยู่เหวินเห้าเชิญพี่ซูหลงเข้าไปในห้องหนังสือ เอาจดหมายฉบับหนึ่งยื่นให้เขา “เจ้าเอาจดหมายของข้าไปยังจวนอ๋องซุน ภายหน้าเจ้าก็ทำงานอยู่ภายใต้คำสั่งของพี่รอง ”
“ภายใต้คำสั่งของอ๋องซุนหรือ”พี่ซูหลงรู้สึกคาดไม่ถึง “ทำไมเล่า ข้าไม่อยากจะทำงานอะไรทั้งนั้น และไม่อยากอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของอ๋องซุนสักเท่าไหร่”
หยู่เหวินเห้าพูดว่า “เจ้าต้องไป จำเป็นต้องไป”
“ท่านจะให้ข้าช่วยท่านจับตาดูอ๋องซุนหรือ อ๋องซุนมีปัญหาอะไร ”พี่ซูหลงไม่เข้าใจ
หยู่เหวินเห้าส่ายหน้า “พี่รองไม่มีปัญหา แต่ข้างกายพี่รองขาดแคลนคน ไม่นานจะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง เจ้าต้องเตือนและชี้แนะเขาบ้าง อย่าได้ถูกคนอื่นหลอกเอาได้”
“ถูกใครหลอกอย่างนั้นหรือ”พี่ซูหลงมองเขาอย่างสงสัย ไหนบอกแล้วไงว่าจะไม่สนใจเรื่องงาน ทำไมยังต้องเสียแรงไปยุ่งอีกเล่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...