หยวนชิงหลิงถือกล่องยายืนอยู่ด้านนอก ลมฝนพัดโชย เสียงโต้เถียงกันด้านในทุ้มต่ำแต่ชัดเจนทุกคำ เล็ดลอดเข้าหูของนาง
ดูเหมือนเป็นการโต้เถียงที่ไม่สำคัญ ฉางกงกงก็โต้แย้งอย่างใจกล้าบ้าบิ่นมาก แต่ว่าอยู่ต่อหน้าพวกเขาล้วนเป็นปัญหาที่เป็นสอดคล้องกับความจริงมาก
ปีนี้ไท่ซ่างหวงอายุหกสิบปีแล้ว ฉางกงกงก็เจ็ดสิบเอ็ดปีแล้ว พวกเขาอยู่ด้วยกันตั้งแต่วัยรุ่นเดินมาจนถึงวัยชรา เผชิญกับเรื่องราวเยอะแยะมากมาย ฐานะคือเจ้านายกับคนใช้ แต่ความสัมพันธ์นั้นเกินกว่าญาติมิตรไปนานแล้ว
ความทรมานที่สุดในชีวิต ก็คือคนที่อยู่ด้วยกันมาทั้งชีวิตผู้นั้นจากไปอย่างฉับพลัน
ดวงตาของหยวนชิงหลิงร้อนผ่าว ทอดถอนใจเบาๆ ผลักประตูเข้าไป
เสียงด้านในหยุดลงกะทันหัน ปากของหยวนชิงหลิงยกขึ้น ปิดบังในตาที่แดงฝาด “งานกิจวัตรประจำวัน ความดันโลหิต การเต้นของหัวใจ ชีพจร จัดยา”
ไท่ซ่างหวงจึงเหมือนกับว่าไม่เคยได้พูดบทสนทนานั้นกับฉางกงกง มองดูหยวนชิงหลิงแล้วกล่าว: “เจ้ามาพอดี พรุ่งนี้เสี่ยวฉางชี่ไปถ่ายทอดพระราชโองการให้โสวฝู่ฉู่เข้ามาพักฟื้นที่พระที่นั่ง เจ้าก็ช่วยเขาดูด้วย”
“ได้เลยเพคะ!” หยวนชิงหลิงยิ้มแล้วกล่าว “แม่นมจะต้องดีใจเป็นอย่างมากแน่นอนเพคะ”
ไท่ซ่างหวงหัวเราะอย่างชั่วร้ายขึ้นมาแล้ว “คืนนี้คนที่ดีใจไม่ใช่แค่นางเพียงผู้เดียว เกรงว่าเจ้าเจ็ดน้อยก็คงดีใจจะแย่แล้ว”
“อ๋องฉี? นั่นก็ดีใจเป็นแน่ ยัยหยวนไปดูแลเขาแล้วเพคะ”
“ต้องจัดเตรียมเรื่องงานแต่งงานแล้ว ฮ่องเต้จะต้องจ่ายเงินอีกแล้ว” ไท่ซ่างหวงกล่าว
หยวนชิงหลิง: “เรื่องงานแต่งงาน? อ๋องฉีหรือ? ยังเร็วไปพ่ะย่ะค่ะ หยวนหย่งอี้ปากแข็งไม่ยอมกลับไปง่ายขนาดนั้นเพคะ”
ฉางกงกงกล่าวอย่างลึกลับ: “ผ่านคืนนี้ไป ก็ต้องว่ากันอีกเรื่องหนึ่งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
หยวนชิงหลิงงงงัน “ทำไม? คืนนี้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเพคะ?”
ไท่ซ่างหวงเปล่งเสียงถอนหายใจอุ่นเบาๆ “ใครจะรู้ล่ะ? ค่ำคืนที่ลมฝนกระหน่ำเช่นนี้ ผู้หนึ่งล้มป่วยอยู่บนเตียง ผู้หนึ่งตากลมฝนไปส่งยา หากไม่เกิดอะไรขึ้นหน่อย คงน่าเสียดายจริงๆ”
หยวนชิงหลิงเอียงหน้ามองดูเขา หรี่ดวงตาลง “พระองค์ลงมือทำอะไรแล้วหรือเพคะ?”
ไท่ซ่างหวงมองดูนางอย่างจริงใจ “เรื่องของยาสองเม็ด”
“ยาอะไรเพคะ?” หยวนชิงหลิงมองดูเขา และมองดูฉางกงกงอีก เข้าใจขึ้นมาในพริบตา “โอ้พระเจ้า นายท่าน นี่พระองค์ไม่ได้ทำเรื่องวุ่นวายหรือ? เรื่องนี้ทั้งสองจำเป็นต้องรักกันยิมยอมพร้อมใจทั้งคู่นะเพคะ จะใช้ยาได้อย่างไรล่ะ? หากเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมา จะจัดการอย่างไรเพคะ?”
“ความคิดของเจ้านี้ หัวโบราณมาก” ไท่ซ่างหวงไม่พูดกับนางแล้ว โง่เขลา ความรักจะไม่พูดถึงวิธีการได้อย่างไร?
พูดถึงหยวนหย่งอี้ที่ควบม้าฝ่าฝนทั้งคืนมาถึงจวนอ๋องฉี ความจริงจวนใหม่สร้างเสร็จแล้ว แต่อ๋องฉีไม่ได้ย้ายเข้าไป ยังอาศัยอยู่ในจวนเล็ก
ผู้เฝ้าประตูจำนางได้ รีบเข้ามาจูงม้า หยวนหย่งอี้ปัดน้ำฝนบนร่างกาย เอ่ยถาม: “อ๋องฉีอยู่ในจวนหรือไม่?”
“ชายารองหยวน ท่านอ๋องอยู่ในจวนน่ะพ่ะย่ะค่ะ สองวันนี้ก็ไม่ได้ออกไป ไม่สบายพ่ะย่ะค่ะ” ผู้เฝ้าประตูยังใช้การเรียกชื่อเดิมเรียกนาง
หยวนหย่งอี้ไม่ได้ยินการเรียกชื่อเช่นนี้นานมากแล้ว ทำไมเมื่อได้ฟังยังรู้สึกใจลอยเล็กน้อย คิดต้องการชี้แจงว่านางไม่ใช่ชายารองหยวนแล้ว ก็รู้สึกยุ่งยากลำบากอีก จึงบอกให้เขาเอาอาหารให้ม้า นางวิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว
คนรับใช้ในจวนยังเป็นคนกลุ่มเดิมนั่น แทบจะไม่เคยเปลี่ยน พ่อบ้านได้เห็นนางนั่นเรียกว่าดีอกดีใจ ดีใจจนต้องเช็ดน้ำตาแล้ว “ท่านหญิงกลับมาแล้วชั่งดีจริงๆขอรับ ท่านอ๋องป่วยมาสองสามวันแล้ว ยาก็ไม่กิน มีเพียงท่านที่สามารถจัดการเขาได้”
หยวนหย่งอี้กล่าว: “ข้าก็มาส่งยา หากว่าเขาไม่ชอบกินยา พระชายารัชทายาทและไท่ซ่างหวงล้วนให้ยาเม็ดมาแล้ว เจ้าไปปรนนิบัติดูแลให้เขากินยา ข้าก็ไม่เข้าไปแล้ว”
นางหยิบขวดลายครามออกมา ให้พ่อบ้านก่อน “ยานี้ไท่ซ่างหวงประทานให้ บอกว่ากินเม็ดหนึ่งก็สามารถหายได้ เจ้าให้เขากินอันนี้ก่อน จากนั้นค่อยกินยาลดไข้ที่พระชายารัชทายาทให้”
แต่พ่อบ้านกลับไม่รับมา มองดูนางแล้วกล่าวอย่างอ้อนวอน: “ท่านหญิง ท่านก็กลับมาแล้ว ก็เข้าไปดูสักหน่อยเถอะขอรับ ท่านอ๋องคิดถึงท่านนะขอรับ”
หยวนหย่งอี้ส่ายหน้า “ไม่แล้ว ข้าต้องกลับไปแล้ว”
หยวนหย่งอี้ร้องเรียกก็ไม่ขานรับ ทำได้เพียงเทยาเทลงบนอุ้งมือ “เม็ดนี้ไท่ซ่างหวงให้มา ท่านกินก่อน จากนั้นค่อยกินยาที่พระชายารัชทายาทให้มา สามารถลดไข้ได้”
อ๋องฉีมองดูฝ่ามือที่ขาวสะอาดของนาง เอื้อมมือไปหยิบยาเข้าปาก หยวนหย่งอี้ลุกขึ้นยกน้ำเข้ามา ให้เขากลืนยาลงไป
อ๋องฉีเชื่อฟังเป็นอย่างมาก กินยาอย่างว่านอนสอนง่าย ยังคงจับมือนางไม่ปล่อย ชำเลืองมองอย่างซื่อๆ
หยวนหย่งอี้หงุดหงิดใจเล็กน้อย “ข้ามาส่งยา ในเมื่อท่านกินยาแล้ว งั้นข้าก็จะไปแล้ว”
คำพูดก็พูดเช่นนี้ แต่คนกลับนั่งอยู่ข้างเตียงไม่ขยับ คลื่นความร้อนโจมตีขึ้นมา โดยเฉพาะภายใต้การจับตามองของเขา ไม่เป็นธรรมชาติเป็นพิเศษ
อ๋องฉีกล่าว: “ข้าป่วยแล้ว จึงไม่ได้ไปหาเจ้า เจ้าโกรธแล้วหรือ?”
“ท่านอยากจะมาไม่มาก็ชั่ง ใครโกรธกัน?” หยวนหย่งอี้เบือนหน้าออกไป ระหว่างที่พูด กลับแฝงไปด้วยความโกรธเคือง
“เช่นนั้นพรุ่งนี้ข้าก็จะไปหาเจ้าอีก” อ๋องฉีกล่าว
หยวนหย่งอี้กล่าว: “ไม่ต้องมา ท่านป่วยก็พักฟื้นให้ดีๆ”
“ข้ากลัวเจ้าโกรธ” ลมหายใจอุ่นๆของอ๋องฉีขึ้นมาที่ข้างหูอย่างเงียบๆ กระตุ้นให้นางจิตใจว้าวุ่นไม่เป็นสุข อาจเป็นเพราะไม่ได้เจอสองสามวัน ในใจจึงรู้สึกอยากเกาะติดอยู่กับนางเป็นพิเศษ
คำพูดที่อบอุ่นและการมองด้วยความเสน่หาของเขา เสียงทุ้มต่ำแหบพร่า นางหันหน้าไปมองเขาอย่างอดไม่ได้ แต่กลับเห็นสีหน้าของเขาแดงเป็นอย่างยิ่ง ตกใจเล็กน้อย “ทำไมท่านถึงได้ไข้ขึ้นรุนแรงขึ้นอีก?”
นางยื่นมือไปคลำหน้าผากของเขา ร้อนผ่าวเป็นที่สุด
ปากของอ๋องฉีใกล้เข้า กระซิบข้างหูของนาง ลมหายใจร้อนผ่าวพ่นอยู่ข้างหูข้างปากของนาง “เจ้าให้ข้ากินยาอะไร? ทำไมกินแล้วทั้งร่างกายของถึงได้ร้อนผ่าว?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...