ซาลาเปาเล่าผลสรุปที่ฟางหวูได้ทำการตรวจวินิจฉัยทั้งหมดกับร่างกายของนางเมื่อคืนนี้ในสถาบันวิจัย “เจ้าอาวาสบอกว่า เล่าให้ท่านฟังแล้วท่านก็จะรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่”
หยู่เหวินเห้ามองหยวนชิงหลิง “เจ้ารู้หรือว่ามันเป็นเรื่องอะไร”
หยวนชิงหลิงมองเขา อ้าปากพูด “เรื่องนี้……”
“เจ้าแค่พูดผลสรุปก็พอ ผลสรุปแล้วดีหรือไม่ดี ”เขารู้จักตัวเองดี เรื่องคลื่นไฟฟ้าเหล่านั้นเขาไม่เข้าใจ
หยวนชิงหลิงพูดว่า “ดูจากภายนอกแล้ว ผลสรุปคือดี แต่ว่า ต้องดูการสังเกตการณ์ในระยะต่อไปด้วย”
“ สังเกตการณ์อะไร”หยู่เหวินเห้าถาม
“สังเกตดูว่ายังคงมีการเกิดใหม่เรื่อยๆหรือไม่ ”ในใจของหยวนชิงหลิงรู้สึกตื่นตระหนกอยู่บ้าง ปฏิกิริยาแรกก็คือไม่ว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่ต่ออีกหรือไม่ การวิจัยนี้ไม่สามารถทำต่อไปได้อีกแล้ว เพราะว่าสถานการณ์อาจควบคุมไม่ได้
“เจ้าอาวาสยังพูดอะไรอีก”หยวนชิงหลิงถามซาลาเปา
“นางถามว่าท่านยังมีอะไรที่เก็บไว้ไม่ได้บอกนาง นางจะทำการวิจัยพัฒนาต่อไป”
หยวนชิงหลิงส่ายหน้า“เจ้าไปบอกนาง ไม่มีแล้ว ทุกสิ่งล้วนอยู่ในแฟ้มข้อมูลของข้า ยังมี ให้นางหยุดการวิจัยทั้งหมด อย่าทำต่อไปอีก ไม่เช่นนั้นจะควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ ”
บางที การค้นคว้าต่อไปสามารถทำให้สมองของมนุษย์ก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้น ครั้นแล้วจะทำให้อารยธรรมมีความก้าวหน้าอย่างยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีกขั้น แต่ว่า บนโลกใบนี้ ไม่สามารถมีคนที่ฉลาดมากเกินไป จะเสียความสมดุล
นางเริ่มจะเสียใจที่ทำไมตัวเองต้องเริ่มการศึกษาวิจัยเรื่องนี้ นี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ทุกสิ่งที่ทำอยู่ ให้หยุดลงเพียงเท่านี้
หยู่เหวินเห้ากับซาลาเปาต่างก็มองตากันแวบหนึ่ง สีหน้าของนางไม่ดีเลย สองพ่อลูกอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา
เก็บอารมณ์ทั้งหมดกลับมา เดินทางเข้าวัง
ไท่ซ่างหวงยังคงนั่งอยู่บนบันไดหิน เพียงแต่ไม่มีฉางกงกงคอยรับใช้อยู่ข้างกายแล้ว เขาเองก็ไม่อนุญาตให้ใครมาทำหน้าที่ในตำแหน่งของฉางกงกงทั้งนั้น บนโต๊ะเตี้ยตัวหนึ่งไว้วางน้ำชาเอาไว้ แต่เย็นชืดไปนานแล้ว ฝูเป่าหมอบที่อยู่ใต้ขา มองดูลมในฤดูใบไม้ร่วงพัดใบไม้แห้งที่ร่วงหล่นอยู่กับพื้น สูบกระบอกยาสูบ
เป็นพวกเด็กๆที่วิ่งเข้ามาก่อน จากนั้น หยู่เหวินเห้าก็จูงมือหยวนชิงหลิงเดินเข้ามา
ไท่ซ่างหวงเบิกตากว้างมองดูเป็นเวลานาน ดวงตาที่ลู่ลงคู่นั้นจากที่ไร้ซึ่งชีวิตชีวาก็มีประกายแห่งเปลวไฟผุดขึ้นมาเล็กน้อย ประกายไฟนั้นได้ครอบคลุมความเปียกชื้นในดวงตา ด้วยจิตใต้สำนึกจึงเอากระบอกยาสูบยัดไว้ใต้โต๊ะชา เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วไร้ร่องรอย
ดวงตาของหยวนชิงหลิงร้อนผ่าว เดินเข้าไปคุกเข่าลงกับพื้น โขกศีรษะคำนับกับพื้นให้กับไท่ซ่างหวงอย่างมีมารยาทสามครั้ง จากนั้นก็พูดด้วยเสียงสะอื้นว่า “เสด็จปู่ ข้ากลับมาแล้ว”
หยู่เหวินเห้าสงสารภรรยาที่เพิ่งจะฟื้นขึ้นมาร่างกายยังคงอ่อนแอ ยื่นมือไปประคองนางลุกขึ้น “ต่อหน้าเสด็จปู่ ไม่ต้องมากพิธี พื้นเย็นมาก อย่าคุกเข่าอยู่เลย”
ไท่ซ่างหวงกลอกตาทีหนึ่ง ไม่อยากเห็นเจ้าคนไม่เอาไหนอย่างนี้ กางแขนออกกอดเด็กๆเอาไว้ รอยยิ้มที่หายไปนานมากแล้วกลับคืนสู่ใบหน้าอีกครั้ง เรียกเด็กๆว่าเหลนรักทุกคน ดูคล้ายกับไทเฮาคนก่อนอยู่หลายส่วน
รอให้เอะอะกันอยู่ชั่วครู่ หยู่เหวินเห้าก็ออกคำสั่ง ให้เด็กๆไปเล่นกับเสด็จปู่ของพวกเขา พวกเขาสองสามีภรรยาได้ประคองไท่ซ่างหวงเข้าไปด้านใน
ไท่ซ่างหวงจับข้อมือของหยวนชิงหลิงไว้แน่น ในปาก็พึมพำขึ้นมาคำหนึ่งว่า “กลับมาก็ดีแล้ว”
หยวนชิงหลิงได้กลิ่นบุหรี่ มีความรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
ฉางกงกงยังคงอยู่ในตำหนักบรรทมของไท่ซ่างหวง ได้มีการจัดเตรียมเตียงอีกหลังหนึ่งเอาไว้ให้เขา คนแก่สองคนได้อยู่เป็นเพื่อนกันเช่นนี้ทุกคืน
ฉางกงกงพูดไม่ค่อยได้ ปากเบี้ยว ตอนที่เห็นหยวนชิงหลิง ดวงตาที่ขุ่นมัวมีน้ำตาไหลพรากออกมาไม่หยุด พยายามพยุงร่างท่อนบนให้ลุกขึ้นมา อยากจะพูดจา แต่ก็พูดไม่ออก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...