บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 907

หมันเอ๋อเป็นปริศนาข้อหนึ่ง ในระหว่างที่หยวนชิงหลิงได้คลุกคลีกับนาง รู้สึกว่าบางเวลานางจะรู้เรื่องราวมากมายขึ้นมาอย่างกะทันหัน บางเวลาก็ดูมึนงงไม่เข้าใจอะไรเลย บนร่างนางมีกลิ่นอายของความไม่ย่อท้อ ความไม่ย่อท้อนี้ทำให้เวลานางต้องเผชิญหน้ากับความลำบากอะไรก็ไม่เคยจะปล่อยวาง

และบนตัวนางยังมีจิตใจที่งดงามส่วนหนึ่ง จิตใจที่ดีมีค่ามากกว่าความฉลาดมากนัก เมื่อก่อนตอนที่ติดตามฉู่หมิงหยาง ต้องเผชิญหน้ากับอำนาจที่กดขี่จากฉู่หมิงหยาง ในที่สุดนางก็ทำตามเสียงเรียกร้องภายในใจในการต่อต้านความโหดร้ายของฉู่หมิงหยาง

หยวนชิงหลิงนึกถึงฉู่หมิงหยางขึ้นมา ถามว่า “ใช่แล้ว ฉู่หมิงหยางให้กำเนิดลูกหรือยัง”

“ใครจะไปรู้”ตอนนี้หยู่เหวินเห้าไม่ได้สนใจเรื่องของหยู่เหวินจุนเลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะเรื่องการตั้งครรภ์ของฉู่หมิงหยางที่ทำให้เขารู้สึกคลื่นไส้มาก ราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปตัวหนึ่ง “แต่ว่า ไม่ได้ยินพี่ใหญ่บอกว่าคลอดลูกชาย ไม่รู้ว่าเด็กจะสามารถกำเนิดออกมาหรือไม่”

“ใครจะคลอดลูกอีกแล้ว”ทังหยวนเขยิบเข้ามาอย่างสนอกสนใจ “เป็นเสด็จน้าเจ็ดหรือ”

“เสด็จน้าเจ็ดใกล้จะคลอดแล้ว”หยวนชิงหลิงพูดยิ้มๆ

“น้าเจ็ดบอกว่า ถ้าหากคลอดน้องสาว เขาจะให้ข้าอุ้มกลับบ้าน ”ทังหยวงพูดด้วยความดีใจ

หยวนชิงหลิงหลุดเสียงหัวเราะออกมา “ทำไม ในท้องของแม่จะไม่ใช่น้องสาวหรืออย่างไร เอาแต่คิดถึงแต่ของคนอื่น”

“ท่านแม่ แต่ว่าข้าวเหนียวบอกว่าจะเอาน้องชาย ”ทังหยวนวางศีรษะเอาไว้ที่ต้นขาของหยวนชิงหลิงอย่างเชื่อฟัง ดวงตาเป็นประกาย “เช่นนั้นก็เอาตามที่ข้าวเหนียวว่ามา”

“เอ๋ ยังรู้สึกสงสารน้องชายด้วยหรือ”หยวนชิงหลิงรู้สึกคาดไม่ถึงอยู่บ้าง

ทังหยวนดึงแขนเสื้อของหยวนชิงหลิง ดวงตาสดใส “ข้าเป็นเด็กดีหรือไม่”

“เป็นเด็กดีมาก”หยวนชิงหลิงจับที่ใบหน้าเล็กๆของเขาเอาไว้ พูดอย่างปลอบโยน

“เช่นนั้นท่านก็บอกให้พี่ชายให้ข้าไปบ้านคุณตาสักครั้ง ”ทังหยวนแอบมองไปทางซาลาเปาแวบหนึ่ง พูดเสียงเบา

พอซาลาเปาได้ยิน ก็กัดเขี้ยวเคี้ยวฟันขึ้นมาทันที “คุยกันแล้ว ทุกคนแข่งขันกันอย่างยุติธรรม ห้ามหาท่านแม่กดดัน เจ้ามันคนไร้อนาคต บิดพลิ้ว”

“ห้ามทะเลาะกัน ใครทะเลาะคนนั้นลงจากรถม้า ”หยู่เหวินเห้าโมโหจนดวงตาเบิกกว้าง อยากจะจัดการกับพวกเขาทั้งสามคนตั้งนานแล้ว ก่อนที่ยายหยวนจะตื่นมา แต่ละคนเอาแต่ชักสีหน้าวางมาดอวดดี ตอนนี้ไม่ต้องขอร้องพวกเขาแล้ว ยังไม่สามารถจัดการได้อีกหรือ

ทั้งสามคนเห็นพ่อแสดงอำนาจบารมี ต่างก็หดหัวลงไม่กล้าพูดจาอีก ใช้เพียงสายตาในการเพิ่มระดับสงคราม กลับไปค่อยสู้กันต่อ

หยู่เหวินเห้าเห็นว่าสงบลงแล้ว ก็หันไปมองที่ท้องของหยวนชิงหลิงอย่างไม่ค่อยใส่ใจนักแวบหนึ่ง “ท้องนี้ใหญ่อยู่นะ”

“ทำไม กลัวหรือ”หยวนชิงหลิงหลุดขำ

“พูดตามความจริง ก็กลัวอยู่บ้าง เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเป็น สามคนอีกแล้ว”หยู่เหวินเห้ายื่นมือไปลูบชั่วครู่ รู้สึกกลัวจนใจเต้นรัว

หยวนชิงหลิงเอนร่างไปทางด้านหลังเล็กน้อย ถอนหายใจหนึ่งเฮือก “วางใจได้ ไม่ใช่แน่”

หยู่เหวินเห้าเองก็ผ่อนลมหายใจออกมาหนึ่งเฮือก “เช่นนั้นก็ดี โชคดีที่ได้ตั้งครรภ์ปกติเสียที ไม่เช่นนั้นคงตกใจตาย”

ชะงักไปชั่วครู่ เขาก็เผยให้เห็นรอยยิ้มราวกับพ่อผู้เปี่ยมด้วยความรักความเมตตาออกมา “พวกเราในหลายปีมานี้ เรียกได้ว่าคิดสิ่งใดก็สมดังปรารถนา คิดว่าครรภ์นี้คงจะเป็นลูกสาวแน่”

หยวนชิงหลิงพูดว่า “ข้ากลับไม่สนใจว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ขอแค่คลอดออกมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว”

หยู่เหวินเห้านึกถึงตอนท้องแรก หัวใจก็รู้สึกกลัวขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าพูดว่า “ถูกต้อง เจ้าพูดได้ถูกต้อง อะไรก็ไม่สำคัญ ความปลอดภัยสำคัญที่สุด ”

หลังจากที่หยวนชิงหลิงฟื้นจากการสลบไปในครั้งนี้ คนในจวนต่างก็ดูแลราวกับสิ่งล้ำค่า แม่นมสี่ใส่ใจทำอาหารอย่างประณีตและอร่อยมาให้นางกินทุกวัน หมันเอ๋อกับอะซี่แทบจะไม่ห่างกายนางแม้แต่ก้าวเดียว เกรงว่าจะเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดกับนางอีก

เพราะว่า ทุกคนได้รับบทเรียนแล้ว ในจวนอ๋องฉู่ที่ไม่มีพระชายารัชทายาท ก็ราวกับไร้ซึ่งวิญญาณ

หยู่เหวินเห้ากลับไปที่กรมการพระนคร ในที่สุดตำแหน่งเจ้ากรมที่อ๋องฉีรักษาการอยู่ก็สามารถถอยออกมาได้ซะที เขาดีใจมาก เพราะว่าสามารถมีเวลาว่างบ้างแล้ว สามารถอยู่เป็นเพื่อนหยวนหย่งอี้ได้มากขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน