หลังจากการสู่ขอจบลง ก็เป็นเวลาเตรียมพร้อมจัดงานแต่งงานแล้ว
เรือนของสวีอีอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง แน่นอนว่าคู่บ่าวสาวต้องแต่งงานแล้วย้ายเข้าไปอยู่กันในเรือนหลังใหม่ ไม่ใช่จวนอ๋องฉู่ ส่วนบ้านตระกูลสวีนั้นยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่
ทังหยางหาช่างผู้มากฝีมือมาได้แล้ว จึงว่าจ้างในขั้นแรกให้สร้างเรือนของสวีอีด้วยความสามารถทั้งหมดที่มี ทุ่มเทก่อสร้างทั้งกลางวันกลางคืน คาดว่าจะใช้เวลาราวๆ สามเดือนกว่า
งานแต่งจึงกำหนดให้มีขึ้นในต้นฤดูใบไม้ผลิปีหน้า นับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด
แต่ความต้องการของทางตระกูลหยวนคือ พวกเขาหวังว่าจะสามารถจัดงานแต่งงานได้โดยเร็วที่สุด จะให้ดีคือก่อนที่หยวนชิงหลิงจะคลอดลูก เพราะทันทีที่เด็กเกิดมา ในจวนคงต้องยุ่งวุ่นวายขึ้นมาไม่น้อย ถ้าต้องมาตระเตรียมงานแต่งในระหว่างนั้น ก็เกรงว่าอาจจะยุ่งเกินไปจนทำไม่ไหว
บวกกับเหตุผลที่ว่า ไทเฮาทรงเสด็จสวรรคตไปยังไม่ถึงสามปี พิธีการสำคัญใดๆ ในช่วงสามปีนี้จึงไม่อาจจัดอย่างเอิกเกริกได้ ด้วยเหตุนี้ การจัดงานแต่งงานที่เรียบง่ายและตรงตามขนบประเพณี จึงถือได้ว่าเป็นความสำเร็จที่ตรงตามเป้าประสงค์แล้ว
หลังจากพิจารณาอยู่หลายครั้ง ทังหยางจึงขอให้ช่างฝีมือเร่งทำงานโดยเร็ว ส่วนของโถงหลักกับห้องเจ้าบ้านหลักให้สร้างขึ้นมาให้เสร็จก่อน ในวันจัดงานแต่งจะได้สามารถใช้ทำเป็นเรือนหอให้คู่บ่าวสาวทำพิธีเข้าเรือน หลังแต่งงานไปสามวันก็ให้พวกเขากลับไปพักอยู่ที่จวนอ๋องฉู่ไปก่อนจากนั้นรอให้เรือนทั้งหลังสร้างเสร็จ ก็ค่อยย้ายกลับเข้าไปอีกครั้ง
เรื่องที่ทำให้เจ้าสาวต้องน้อยเนื้อต่ำใจขนาดนี้ ก็คงมีแค่ตระกูลหยวนที่มีหัวใจอันแสนจะเปิดกว้างเพียงตระกูลเดียวเท่านั้นแหล่ะ ถึงจะสามารถยอมให้ทำอะไรแบบนี้ได้
สวีอี ไอ้เจ้าคนบุญหล่นทับเอ๊ย!
เพียงไม่นาน ข่าวเรื่องการแต่งงานของสวีอี ขุนนางรับใช้ในจวนรัชทายาทกับลูกสาวตระกูลหยวนก็แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวง บรรดาจวนขุนนางน้อยใหญ่ ต่างก็เริ่มตระเตรียมของขวัญแต่งงานกันถ้วนหน้า
ว่ากันว่าของขวัญนี้มอบให้กับตระกูลหยวน ถ้าพูดตรงๆ ตระกูลหยวนแต่งลูกสาวออกไปให้กับสวีอี จะพูดอย่างไร ทางตระกูลหยวนก็มีความสามารถในการต่อสู้ที่ดีกว่านิดหน่อย
แต่เนื่องจากตอนนี้ สวีอีได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทางการแล้ว อีกทั้งงานแต่งงานนี้ถูกจัดขึ้นในจวนรัชทายาท จะอย่างไรก็ต้องไว้หน้ารัชทายาท ดังนั้น ของขวัญแต่งงานจึงส่งไปให้ทั้งสองฝ่าย ด้านหนึ่งคือแสดงความยินดีกับตระกูลหยวน อีกด้านหนึ่งคือแสดงความยินดีกับจวนอ๋องฉู่สำหรับพิธีแต่งงาน
หยู่เหวินเห้ามองไปที่ของขวัญแสดงความยินดี ที่บัดนี้กองพะเนินอยู่ในห้องเก็บของ พลางพึมพำอะไรบางอย่างกับตัวเองว่า "คืนทุนแล้ว ครั้งนี้ข้าคืนทุนแล้ว"
หยวนชิงหลิงตีแขนของเขาเบาๆ "คืนทุนอะไรกันล่ะ? นี่คือของขวัญที่ส่งให้สวีอีกับอะซี่ เจ้าจะหน้าไม่อายกล้าเอาไว้เองอย่างนั้นรึ?"
"ไม่ได้จะเอาไว้ทั้งหมดเสียหน่อย แค่เก็บไว้เป็นสิริมงคลเอาโชคเอาลางเท่านั้น" หยู่เหวินเห้า มองจนตาพร่า ในใจนึกอิจฉาอย่างมาก มีทั้งแก้วแหวนเงินทองรวมถึงเครื่องประดับมากมายลายตาไปหมด "คิดไม่ถึงเลยว่าตอนแต่งงานจะมีคนส่งของขวัญมาให้มากมายขนาดนี้ นึกถึงตอนงานของข้า ทั้งเงียบเหงาทั้งแร้นแค้นยิ่งนัก"
แม่นมสี่เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม “ทำไมหรือเพคะ? ยังอยากจัดงานแต่งงานใหม่อีกครั้ง?”
หยวนชิงหลิงแค่นยิ้มเย็นชา “จัดงานแต่งงานใหม่ ? รับชายารองน่ะรึ?”
แววตาของหยู่เหวินเห้ากลับเป็นประกายพร่างพราว ระยิบระยับขึ้นมาทันที “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? งานแต่งงานครั้งก่อนไม่นับ พวกเราสามารถจัดใหม่อีกครั้งก็ได้นี่”
“เพียงเพื่อจะได้รับของขวัญน่ะรึ?” หยวนชิงหลิงไม่เคยเห็นเขาเห็นแก่เงินขนาดนี้มาก่อนจริงๆ
“ ประเด็นหลักคือการชดเชยต่างหาก งานแต่งงานในครั้งนั้นจริงๆ แล้ว…” จริงๆ แล้วหยู่เหวินเห้าไม่ค่อยอยากนึกย้อนไปถึงเรื่องที่เก่าก่อน เพราะมันเป็นอะไรที่น่าเศร้ามาก ตอนนั้น เขาไม่เป็นที่โปรดปรานของเสด็จพ่ออีกต่อไป ใครๆ ก็บอกว่าเขาเป็นพวกลามกหื่นกาม ไม่มีใครอยากไปมาหาสู่กับจวนอ๋องฉู่ทั้งสิ้น งานแต่งงานนั้นจึงเรียกได้ว่าเงียบเหงาแร้นแค้นอย่างยิ่ง
เขาโน้มตัวไปที่หูของหยวนชิงหลิง "อันที่จริง พวกเรายังไม่นับว่าได้เข้าพิธีแต่งงานกัน เราจึงควรจัดงานแต่งงานใหม่อีกครั้งไม่ใช่รึ?"
หยวนชิงหลิงกลอกตามองบนใส่เขา "จะใช้เหตุผลอะไรล่ะ?"
“นี่ล่ะที่เป็นปัญหา” หยู่เหวินเห้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
หยวนชิงหลิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “นี่เจ้าคิดจริงๆ รึ? ช่างมันเถอะ อย่าทรมานทรกรรมข้าอีกเลยน่า ข้าไม่ได้พิสมัยเรื่องงานแต่งงานขนาดนั้น แค่ในแต่ละวันต้องคอยวางแผนงานแต่งงาน ก็ต้องใช้เรี่ยวแรงกำลังไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? อายุข้ามากแล้วนะ ทนรับการเคี่ยวกรำขนาดนั้นไม่ไหวหรอก "
หยู่เหวินเห้าคิดจริงๆ ว่า ในชีวิตของคนคนหนึ่ง สมควรจะต้องมีงานแต่งงานที่วิเศษจนลืมไม่ลงสักครั้ง ในใจของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังที่จะได้แต่งงานกับคนที่ตนรัก เพราะความหมายของมันไม่ได้เป็นแค่พิธีกรรมพิธีหนึ่ง แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่อีกด้วย
หลังจากหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดว่า “รอให้ข้าทำพิธีขึ้นครองราชย์แล้ว ก็สามารถจัดงานแต่งได้อีกครั้งแล้วล่ะ เป็นพิธีแต่งตั้งยศฮองเฮา”
หยวนชิงหลิงเตะเขาไปครั้งหนึ่ง "เจ้าเสียสติไปแล้วรึ ? พูดจาไร้สาระอะไร?"
พิธีขึ้นครองราชย์ ไม่ใช่สิ่งที่เอาไว้ให้คนเป็นฮ่องเต้ทำอะไรแบบนั้นเสียหน่อย
หยู่เหวินเห้าพูดอย่างไม่เต็มใจ: " ใครๆ ต่างก็มีกันหมด มีแต่ข้าที่ไม่มี ในใจข้าไม่ได้รับความรู้สึกเท่าเทียม!"
“นายท่าน อ๋องชุนได้นำคนมาส่งมอบของขวัญเพคะ” ฉี่หลอเข้ามารายงาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...