หยวนชิงหลิงมองดูเสือน้อยทั้งสอง ในสมองกลับมีเพลงผุดขึ้นมาเพลงหนึ่ง จึงกลั้นหัวเราะอยู่
ตอนนี้ในจวนมีสุนัข หมาป่าหิมะ เสือ ดังนั้นหยู่เหวินเห้าจึงตัดสินใจทำลานบ้านแยกต่างหากลานหนึ่ง จัดที่ทางให้พวกนายท่านเหล่านี้
อย่างไรเสีย ฐานะทางสังคมของทุกคนล้วนไม่ได้ต่ำต้อย เหมือนกับว่ายังจะเข้าใจนิสัยอารมณ์ของคนอีกด้วย ต้องจัดที่ทางให้ดี
พริบตาเดียวก็เป็นงานเลี้ยงฉลองครบเดือน มาตรฐานสูงกว่าพี่หญิงเป่าในเวลานั้นเล็กน้อย อย่างไรเสียหยู่เหวินเห้าเป็นรัชทายาท และให้กำเนิดบุตรคู่หนึ่ง บรรดาขุนนางมาแสดงความยินดี บรรยากาศคึกคักเป็นที่สุด
ของขวัญใช้ภูเขาเล็กๆมาเปรียบเปรยก็ไม่เกินไปแม้แต่น้อย ของล้ำค่าของมีชื่อแต่ละชนิดมีทั้งหมด ได้รับความรักความเอ็นดูอย่างล้นหลาม
ไท่ซ่างหวงเปิดคลังทองเล็กๆออก หามทองคำสองสามกล่องเข้ามา บอกว่าให้เด็กทั้งสองไว้ใช้ยามขอแต่งงานในอนาคต
หยู่เหวินเห้ามองดูทองคำสีทองอร่ามนั่น กล่าวด้วยความปลงว่า: “ไม่ต้องพูดถึงแต่งแค่คนเดียว แต่งเป็นสิบคนก็เกินพอ”
เมื่อก่อนฝู่ฉู่มอบของขวัญล้วนเป็นของอะไรก็ได้ตามใจชอบ โดยเฉพาะบางครั้งที่เข้ามาในจวน ก็หิ้วเพียงเนื้อหมูหนึ่งกิโลมาเท่านั้น แต่ครั้งนี้มีความจริงจังและตั้งใจเป็นอย่างมาก มอบเสื้อคลุมที่ทำจากทองบางๆให้สองชุด แต่ว่าใหญ่เกินไป ไม่ใช่อายุห้าหกขวบก็สวมใส่ไม่ได้
เพียงแต่ฝีมือการทำเสื้อคลุมนี้ทำให้หยวนชิงหลิงตกตะลึงแล้ว ส่วนด้านหลังเป็นตาข่าย แต่ด้านหน้ากลับร้อยเข้าด้วยกันออกมาเป็นรูปเสือที่เหมือนดั่งมีชีวิตจริงเช่นนั้น
“ใช้เวลาทำหนึ่งเดือน ยังพอได้อยู่สินะ?” โสวฝู่ฉู่เลิกคิ้วชำเลืองมองแม่นมสี่ เอ่ยถาม
แม่นมสี่ใบหน้ายิ้มแย้ม “ได้ได้ได้ พบเห็นได้ยากเป็นอย่างมาก”
“ธรรมดาธรรมดา!” ฝู่ฉู่โบกมือ ทั้งถ่อมตัวทั้งขี้อวด
สวีอีหามกล่องใบหนึ่งกลับมา เข้าตำหนักเซี่ยวเยว่ไปโดยตรง วางกล่องลงแล้วกล่าว: “อันนี้พบที่ทะเลสาบจิ้ง คาดว่าเป็นทางนั้นส่งมาพ่ะย่ะค่ะ”
หยู่เหวินเห้าจัดกำลังคนไว้ที่ทะเลสาบจิ้งทางนั้น สังเกตการณ์อยู่ตลอด และพยายามไม่ให้ผู้คนเข้าใกล้ทะเลสาบจิ้ง
แม้สวีอีจะไม่รู้ว่าตรงนั้นคือสถานที่อะไร แต่ตรงนั้นเป็นสถานที่ที่พระชายารัชทายาทให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
อีกทั้งกล่องชนิดนี้เขาก็ไม่เคยเห็นมาก่อน เปิดไม่ออก ดังนั้นจึงส่งเข้าตำหนักเซี่ยวเยว่โดยตรง
หยู่เหวินเห้าเข้ามาใกล้ๆ ชำเลืองมองกล่องสีแดงใบนี้ “กล่องนี้ใช้อะไรทำ? เป็นเหล็กหรือ? ก็ไม่ค่อยเหมือนนี่”
หยวนชิงหลิงช่วยพวกเด็กๆเปลี่ยนผ้าอ้อมแล้ว เมื่อหันกลับไปก็เห็นกล่องบนพื้น ตะลึงแล้ว น้ำตาพุ่งขึ้นมาจากในตาอย่างความรวดเร็ว
กล่องใบนี้เป็นกระเป๋าเดินทางที่นางวางไว้ในห้องเก็บของ ป้ายโหลดกระเป๋าที่เดินทางด้วยเครื่องบินครั้งสุดท้ายยังไม่ถูกฉีกออก เป็นการบินจากปักกิ่งไปเมืองก่วง นางจำได้ว่าเป็นการประชุมทางการแพทย์ครั้งหนึ่ง หลังจากประชุมอยู่ที่ปักกิ่งเจ็ดวัน ไปที่พระราชวังต้องห้ามรอบหนึ่ง เนื่องจากการลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ตลอดทางนั้นยากลำบากมาก รองเท้ากัด ส้นเท้าเลือดออก จากนั้นก็นั่งบนกระเป๋าแล้วถูกเพื่อนร่วมงานลากอยู่สิบกว่านาที สุดท้ายทำจนกระเป๋าเปลี่ยนรูปเล็กน้อยแล้ว
หยู่เหวินเห้ารู้ว่าน่าจะเป็นของที่มาจากที่บ้าน จึงให้สวีอีให้ออกไป ให้นางได้รำลึกถึงความคิดถึงบ้านด้วยตัวเอง
“อันนี้คืออะไรหรือ?” หยู่เหวินเห้าเข้าไปใกล้ๆ ตะลึงจนลิ้นยื่นออกมาแล้ว “เอ๊ะ? ด้านในมีคน? โอ้สวรรค์ ด้านในมีคน เป็นกล่องวิเศษหรือ?”
ริมฝีปากของหยวนชิงหลิงสั่นเทาเล็กน้อย ตื่นเต้นจนไร้ที่เปรียบ “นี่เรียกว่าโทรศัพท์ มีความสามารถในการถ่ายภาพและบันทึก หากว่าพวกเขาอยากพูดกับพวกเรา สามารถบันทึกไว้ได้ ข้าก็สามารถได้ยินพวกเขาพูดจาได้ ยังมีแบต ข้าลองดู”
ทั้งสองนั่งบนเตียงอรหันต์ เปิดวิดีโอ มีวิดีโอสี่อัน อันแรกเป็นคุณพ่อ เขาพูดกับกล้องว่า: “หลิงเอ๋อ พวกเราไม่ได้พบเจอกันนานแล้ว พ่อคิดถึงลูกมาก ฟังทังหยวนบอกว่าลูกคลอดลูกสองคน พ่อดีใจมากๆ ดีใจจนนอนไม่หลับทั้งคืน คิดว่าถ้าลูกอยู่ข้างๆพวกเรา แบบนั้นจะดีขนาดไหนกันนะ แต่ว่า ลูกยังสามารถมีชีวิตได้ก็พอแล้ว ไม่ว่าพวกเราพ่อลูกยังจะมีวันที่ได้พบหน้ากันอีกหรือไม่ เพียงแค่ลูกอยู่ดี ทุกอย่างก็ดี ในบ้านลูกไม่ต้องเป็นห่วง พ่อจะดูแลแม่ ลูกใช้ชีวิตของตัวเองดีๆ ช่วยพ่อดูแลคุณย่าให้ดี”
เสียงของคุณพ่อเป็นความตื่นเต้นและดีใจที่บรรยายไม่ออกทะลุออกมา ขณะที่การพูดจาหยุดชะงักฟังออกว่าสะอื้นออกมา หยวนชิงหลิงน้ำตาไหลเงียบๆ ดวงตาบวมแดง
วิดีโออันที่สอง เป็นของพี่ชาย เขานั่งอยู่ในห้องหนังสือ ในมือถือภาพถ่ายรวมทั้งครอบครัวไว้ “น้องสาว ภาพถ่ายรวมทั้งครอบครัวนี้ฉันจะใส่ไว้ในกระเป๋าใบนี้ส่งไปให้เธอ อยากบกเธอว่า ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าอยู่ในมิติเวลาไหน หัวใจของพวกเราทั้งครอบครัวล้วนอยู่ด้วยกัน
พี่ต้องการจะกล่าวขอโทษต่อเธอคำหนึ่ง ครั้งสุดท้ายที่เธอกลับมา เธอบอกให้ฉันไปส่งเธอ เวลานั้นฉันกำลังเล่นเกม จึงช่วยเธอเรียกแท็กซี่ด้วยแอปพลิเคชันตีตีให้เธอด้วยความหงุดหงิดมาก ในใจของฉันรู้สึกเสียใจมาก เกลียดตัวเอง ฉันเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้งแล้ว เกมทั้งหมดก็ลบทิ้งแล้ว ฉันคิดว่าชีวิตนี้ของฉันจะอภัยให้ตัวเองไม่ได้ มีคำพูดมากมายอยากพูดกับเธอ หวังว่าเธอจะสืบเรื่องทะเลสาบจิ้งได้ทะลุปรุโปร่ง จากนั้นพวกเราทั้งครอบครัวก็ยังมีวันที่จะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา พี่เฝ้าหวังอยู่ทั้งวันคืนว่า ถ้าหากเธอสามารถกลับมาพบเจอพวกเราได้ ฉันขับรถส่งเธอไปทุกๆที่ที่เธออยากไป พวกเราพูดคุยกันมากมายตลอดทาง หรือว่าไม่ได้พูดจากัน ก็อยากสัมผัสความรู้สึกที่ว่าเธอยังอยู่ข้างกายของพวกเราอีกสักครั้ง......”
หยวนชิงหลิงร้องไห้จนไม่สามารถบังคับตัวเองได้ ความเจ็บปวดใจเอ่อล้นอยู่ในใจ แม้จะรู้ว่าจากไปของตัวเองจะทำให้ครอบครัวโศกเศร้าเป็นที่สุด แต่เมื่อได้ฟังด้วยหูของตัวเองได้เห็นด้วยตาของตัวเอง ก็ยังรู้สึกเป็นทุกข์ใจมาก
หยู่เหวินเห้าตกอยู่ในความตกตะลึงและความโศกเศร้าประเภทหนึ่ง ตกตะลึงคือในกล่องเล็กๆนี้มีคนปรากฏตัวออกมาได้อย่างคาดไม่ถึง และเหล่านี้ก็คือคนในครอบครัวของยายหยวน โศกเศร้าคือคำพูดของพวกเขาสามารถทำให้คนรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดอย่างชัดเจน
เขากอดหยวนชิงหลิง ลำคอฝืดบวม กล่าวคำปลอบโยนออกมาไม่ได้สักคำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...