บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่ นิยาย บท 37

กลุ่มชาวประมงกลับคืนสู่หมู่บ้าน!

เมื่อเห็นหวังหยวน เด็ก ๆ ต่างพากันวิ่งหนีไป บางคนก็ร้องด้วยความตกใจ

เมื่อเหล่าหญิงสาวเห็นหวังหยวน ก็ก้มหน้าลงหน้าแดงก่ำ และเม้มริมฝีปากเพื่อกลั้นหัวเราะ

เมื่อชาวบ้านเห็นหวังหยวน สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง

ผู้เฒ่าหวังปี่จงหันหลังเดินจากไป เมื่อเห็นหวังหยวน ไม่วิ่งเข้ามาหาเหมือนเมื่อก่อน

หลังอาหารเย็น

กลุ่มประมงมาประชุมกัน

ไม่มีเก้าอี้ โต๊ะหรือห้องประชุม คนกลุ่มหนึ่งมารวมตัวกันที่ลานบ้านของหวังหยวน

ส่วนใหญ่กำลังนั่งยอง ๆ และบางคนก็นั่งลงกับพื้นเลย

หวังหยวนนั่งอยู่ที่ประตู

ทั้งสองฝ่าย มีสมาชิกหลักสี่คน ได้แก่หวังหานซาน หวังซื่อไห่ ต้าหู่และเอ้อหู่

ถักจากต้าไห่คือเอ้อไห่ ซานไห่ ชิงซาน เสี่ยวซานและลุงอีกห้าคน

ยิ่งสนิทสนมกันก็ยิ่งนั่งใกล้กัน หวังหยวนกับชาวบ้านเองก็รู้ตำแหน่งของตนอยู่ในใจ

ชาวบ้านมากกว่าสามสิบคนนั่งล้อมวงกันเป็นวงขนาดใหญ่ และยังมีชาวบ้านนอกลานบ้านที่ไม่ได้เข้ามาด้วย

บางคนเป็นครอบครัวของกลุ่มชาวประมง บางคนเป็นคนในหมู่บ้านที่ต้องการชมความสนุกสนาน

ห้าวันที่ผ่านมาจับปลาได้กว่าสามพันจิน ขายได้สองพันสี่ร้อยจิน หาเงินได้ทั้งหมดแปดสิบสามก้วน

ในขณะนี้ ชาวบ้านต่างตื่นเต้นและเป็นกังวล เมื่อมารวมตัวกันเพื่อประชุม

ตอนนี้หวังหยวนไม่ใช่หวังหยวนคนเดิมที่เคยเป็นอีกต่อไปแล้ว เขาเป็นคนที่โหดเหี้ยมที่สุดในตำบลเป่ยผิง

หลิวโย่วไฉผู้มีอำนาจ ถูกส่งตัวไปที่เรือนจำประจำอำเภอ ถูกจับไปสักแล้วส่งไปที่กองทัพ

หวังหยวนเดินไปกลางวง กวาดสายตามองชาวบ้าน แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ห้าวันมานี้ทุกคนทำงานกันหนักมาก หากใครมีคำถามเกี่ยวกับการจับปลา เชิญยืนขึ้นพูดที่นี่ได้เลย!”

ชาวบ้านมองกันไปมา แต่ไม่มีใครกล้ายืนขึ้นพูด

“พวกเราทุกคนล้วนเป็นคนกันเอง เมื่อเจอปัญหาก็ต้องกล้าพูดออกมา สองหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว หากทุกคนผนึกกำลังและปัญญาเข้าด้วยกัน ก็ไม่มีปัญหาใดที่แก้ไม่ได้!”

หวังหยวนกระตุ้นด้วยการเริ่มเรียกชื่อ “ลุงหานซาน ท่านเป็นหัวหน้ากลุ่ม เชิญพูดก่อนเลย”

หวังหานซานยืนขึ้น แล้วเดินไปกลวงวง ก่อนมองชาวบ้านโดยรอบ แล้วเงยหน้าขึ้นมองเขา ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับทหารหลายพันคน เขาก็ไม่กลัวเกรง แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกกังวลเล็กน้อยโดยไม่มีเหตุผล เขาสะดุ้งแล้วพูดว่า “หวังหยวน ตอนนี้ทุกคนกำลังมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก เจ้าช่วยจ่ายค่าจ้างล่วงหน้าให้ทุกคนก่อนได้หรือไม่”

เฮือก!

ชาวบ้านมากกว่าสามสิบคนกลั้นหายใจ แล้วแอบมองหวังหยวนโดยไม่รู้ตัว

หากเข้าร่วมกลุ่มประมง เงินขั้นต่ำคือหนึ่งก้วน และสูงสุดคือสองก้วน

แต่ค่าจ้างยังไม่ได้จ่าย ชีวิตของพวกเขาจึงยังคงเหมือนเดิม แม้จะมีอาหารพอประทังชีวิต แต่ค่าใช้จ่ายในครอบครัวก็เพิ่มขึ้น ภรรยาและลูกก็มีกินน้อยลง

หวังหานซานรู้สึกกังวล และสงสัยว่าหวังหยวนจะเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้หรือไม่

เขาเห็นชาวบ้านหลายคนคุยกันเป็นการส่วนตัว จึงรู้สึกว่าควรพูดถึงเรื่องนี้

หวังหยวนยกยิ้ม แล้วพูดว่า “ทุกคนโปรดบอกข้าที ว่าข้อเสนอนี้ของลุงหานซานดีหรือไม่!”

“ดี!”

ชาวบ้านตะโกน

“แล้วจะรออะไรล่ะ ในเมื่อได้ข้อเสนอแนะดี ๆ ก็ควรปรบมือเฉลิมฉลองกัน!”

หวังหยวนเป็นผู้นำในการปรบมือ!

แปะ แปะ แปะ…

เสียงปรบมือดังก้องไปทั่วลานบ้าน

เมื่อเห็นทุกคนปรบมือกันอย่างกระตือรือร้น หวังหานซานก็ตกอยู่ในภวังค์ และรู้สึกแปลก ๆ ในใจ

บอกไม่ถูกว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร แต่รู้สึกดี

“ต้าหู่ เอ้อหู่ ซื่อไห่ เข้าไปในบ้านเพื่อรับเงินค่าจ้างให้ทุกคน!”

หวังหยวนหันกลับเข้าไปในบ้าน “จากนี้ไป เงินเดือนของทุกเดือนจะจ่ายล่วงหน้าในช่วงต้นเดือน ส่วนเงินพิเศษจะจ่ายให้ตอนสิ้นเดือน จึงมีการจ่ายเงินเดือนละสองครั้ง”

ต้าหู่,เอ้อหู่ และซื่อไห่เดินเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว แล้วหยิบเหรียญทองแดงออกมา

ชาวบ้านแตกตื่น!

ค่าจ้างจ่ายล่วงหน้า เรื่องเช่นนี้ไม่เคยมีมาก่อน ไม่เคยได้ยินมาก่อน!

หากเป็นนายจ้างข้างนอก บางคนก็ได้รับค่าจ้างล่าช้า หรืออาจไม่ได้รับค่าจ้าง

หวังหยวนไม่เพียงจ่ายเงินล่วงหน้าเท่านั้น แต่เขายังจ่ายเงินพิเศษตอนสิ้นเดือนอีกด้วย ช่างเป็นคนใจบุญผู้ประเสริฐเสียจริง!

หวังปี่จงที่ยืนพิงผนังฟังอยู่ก็ส่ายหน้า เจ้าคนเสเพลคนนี้ ไม่รู้วิธีคบคุมพวกลูกน้องบ้านนอกของเขา หากเจ้าไม่กดค่าจ้าง แล้วพวกเขาจะยอมทำงานหนักเพื่อเจ้าหรือ?

“เจ้าหนึ่งก้วน!”

“เจ้าสองก้วน!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่