บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่ นิยาย บท 48

แต่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์สำหรับชำระล้าง!

“สามี นี่คือสบู่หอมหรือ?”

หลี่ซื่อหานเดินออกจากห้อง แล้วรู้สึกประหลาดใจ เมื่อนางได้กลิ่นสบู่ในมือของหวังหยวน “กลิ่นหอมมาก!”

“หอมแล้วมีประโยชน์อะไร? มันกินไม่ได้แล้ว!”

หวังชิงซานและหวังเสี่ยวซานก้มหน้าลง ยังคงรู้สึกผิดที่ทำลายของดีไป

หวังหยวนยิ้มแล้วพูดว่า “นี่คือสบู่ที่ทำความสะอาดได้ดีกว่าจ่าวโต้วหรือสบู่หอม!”

ต้าเย่ก็มีอุปกรณ์สำหรับทำความสะอาด เช่น จ้าวเจี่ยว จ่าวโต้วและสบู่หอม

โดยทั่วไปนั้น จ้าวเจี่ยวใช้ในการซักผ้า

จ่าวโต้ว คนรวยนิยมใช้ ทำมาจากถั่ว สมองหมูและเครื่องเทศ

สบู่หอมทำจากตับหมู ขี้เถ้าพืชและเครื่องเทศ มีแต่พวกขุนนางระดับสูงเท่านั้นที่ใช้

“อ๊ะ จริงด้วย ล้างสะอาดกว่าจ่าวโต้วกับสบู่หอม ทั้งยังมีกลิ่นหอมอีกด้วย!”

หลี่ซื่อหานลองใช้ แล้วยื่นมือขาวอ่อนนุ่มของนางออกมาตรงหน้าหวังหยวน

“มือของเจ้าขาวเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว หลังจากล้างมือแล้ว ไม่ค่อยมีความแตกต่างมากนัก!”

หวังหยวนคว้ามือเล็ก ๆ ขาวผ่องและนุ่มนวลของนางมากุมไว้

“มีคนอยู่!”

หลังจากชำเลืองมองสามีแล้ว หลี่ซื่อหานก็ก้มหน้าลง แล้วดึงมือเล็ก ๆ ของตนออกมาอย่างไม่เต็มใจ

เมื่อเห็นคนสองคนอารมณ์ไม่ดี หวังหยวนก็ยิ้ม แล้วพูดว่า “ลุงชิงซาน ลุงเสี่ยวซาน พวกท่านก็ลองใช้สบู่นี้ล้างมือ แล้วดูผลสิว่าเป็นอย่างไร”

คนในหมู่บ้านไม่มีเงินพอที่จะซื้อจ่าวโต้ว นับประสาอะไรกับสบู่หอม พวกเขามักจะใช้วิธีซักแห้ง

นอกจากนี้ เมื่อทำงานกันหนักในวันธรรมดา คนส่วนใหญ่ก็มีฝุ่นติดเต็มมือจนดำน่ากลัวมาก!

หวังชิงซานและหวังเสี่ยวซานก็เช่นกัน

พวกเขาทั้งสองถือสบู่ไว้ในมือดำ เลียนแบบวิธีการใช้ของหลี่ซื่อหาน ด้วยการถูมันไปมาในมือ

ขี้เถ้าสีดำบนมือเริ่มจางหายไปทันที เพียงแค่ถูเบา ๆ อ่างน้ำก็กลายเป็นสีดำ

“จริงหรือเนี่ย ล้างจนขาวแล้ว!”

หวังชิงซานยกมือที่ขาวสะอาดทั้งสองข้างขึ้น แล้วมองด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ!

เขาไม่เข้าใจว่าสิ่งทีดูเหมือนไม่สามารถนำมาซักล้างได้นั้น เมื่อนำมาผสม ต้ม และกวนให้เข้ากัน

จะใช้ชะล้างสิ่งสกปรกได้อย่างไร

“ลูกพี่หยวน เจ้าอยากขายของที่ใช้ล้างมือเหล่านี้ เพื่อหาเงินหรือ?”

หวังเสี่ยวซานฉลาด เขามองมือที่ล้างแล้วของตัวเอง แล้วตอบสนองอย่างรวดเร็ว

“ไม่เลว!”

หวังหยวนพยักหน้า “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป กลุ่มทำสบู่ได้ถูกก่อตั้งขึ้นแล้ว ลุงชิงซาน ท่านจะเป็นหัวหน้า ส่วนลุงเสี่ยวซาน ท่านจะเป็นรองหัวหน้า เราจะรับสมัครคนเพิ่มอีกสิบคน แล้วมาแยกฝ่ายผลิตตามกระบวนการ โดยคนงานต้องมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งจะได้ค่าตอบแทนเหมือนกับกลุ่มประมง ได้รับเงินคงที่ต่อเดือน มีเงินพิเศษปลายเดือน อาหารสามมื้อในโรงอาหารใหญ่ และได้กินเนื้อสามชิ้นในตอนเที่ยง”

“ข้าก็ได้เป็นหัวหน้าเหมือนกันแล้ว!”

หวังชิงซานรู้สึกปลาบปลื้มใจ

ในฐานะหัวหน้าภายใต้หวังหยวน เขาสามารถนำไปพูดในหมู่บ้านได้ภาคภูมิใจ มากกว่าเป็นหัวหน้าตระกูล

พี่ใหญ่เป็นหัวหน้า ต้าหู่และเอ้อหู่เป็นรองหัวหน้า เขากับเสี่ยวซานก็เป็นรองหัวหน้า

บ้านหนึ่งเป็นหัวหน้าถึงห้าคน เทิดเกียรติให้บรรพบุรุษ!

“ข้าได้เป็นรองหัวหน้าแล้ว!”

หวังเสี่ยวซานก็ดีใจไม่แพ้กัน เขาขมวดคิ้วแล้วรีบพูดว่า “ลูกพี่หยวน เมื่อคืนมันหมูสิบจินและเครื่องเทศมากมาย ทำสบู่ได้ไม่ถึงร้อยชิ้น และมีราคาเกือบห้าก้วน หากจ่ายเงินเดือนให้พวกเราเยอะเช่นนี้ จะไม่ขาดทุนแย่หรือ?”

ในเมืองมีร้านขายจ่าวโต้ว และมีเพียงเจ้าของที่ดินเท่านั้นที่ยินดีซื้อ ในราคาถุงละสิบอีแปะ

สบู่ก้อนหนึ่งมีราคาห้าสิบอีแปะ หากจ่ายค่าจ้างให้คนงานเยอะ ก็ต้องขายในราคาอย่างน้อยหนึ่งร้อยอีแปะ เพื่อชดเชยค่าใช้จ่าย

มีเพียงคนโง่เท่านั้นที่ยินดีจ่ายเงินหนึ่งร้อยอีแปะ เพื่อซื้ออุปกรณ์ล้างมือและอาบน้ำ!

หวังหยวนยกยิ้ม “ข้าจะขายสบู่ พวกท่านแค่ต้องรับสมัครคนมาทำงาน และต้องรักษาความลับให้ดี”

พวกเขาทั้งสองพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า สูตรลับเช่นนี้ถูกส่งต่อจากตระกูลสู่ตระกูล หวังหยวนยินดีส่งต่อให้กับพวกเขา จากนี้ไป พวกเขาจะทุ่มเททั้งใจทำงานร่วมกับเขาด้วย แม้แต่พี่ชายคนโตก็จะไม่ยอมบอก

“ให้ทุกคนในกลุ่มจับปลามารับสบู่ หัวหน้าและรองหัวหน้าจะได้สบู่สองก้อน สมาชิกในกลุ่มจะได้สบู่หนึ่งก้อน เมื่อกลับบ้านไปก็ให้ใช้สบู่อาบน้ำสระผม จะได้เป็นคนสะอาดสะอ้าน!”

ในวันแรกที่เขามาที่นี่ หลิวโหย่วไฉมาทวงหนี้ และหวังหยวนต้องการทำสบู่

แต่ไม่มีเงินมากนัก และต้องซื้อของมากเกินไป เพื่อทำปฏิกิริยาสะพอนิฟิเคชัน

ทุกวันนี้ผู้ชายทุกคนในกลุ่มจับปลา ไม่ได้อาบน้ำสระผมมาเป็นเวลานาน ร่างกายจึงมีแต่กลิ่นเหงื่อและเหา ซึ่งทำให้เขาลำบากใจ

ตอนนี้สบู่พร้อมแล้ว จึงมีสิทธิ์พูดได้ ในที่สุดคนเหล่านี้ก็สามารถดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลได้

วันนี้ฤกษ์งามยามดี กลุ่มประมงในหมู่บ้านต้าหวังต่างทำความสะอาดร่างกาย!

......

ณ เทศบาล บ้านของสิงซาน

“นายท่านสิง คนเหล่านั้นในหมู่บ้านต้าหวัง ขายปลาได้อย่างน้อยห้าถึงหกร้อยตัวทุกวัน แย่สุดคือขายได้สามสิบก้วน ซึ่งก็เกือบหนึ่งพันก้วนต่อเดือน หากเราเก็บร้อยละยี่สิบ ก็จะได้สองร้อยก้วน มาลงมือกันเถอะ พวกเราจะเสียเงินน้อยลงร้อยละสามสิบ ซึ่งเป็นเงินหกสิบก้วน นายท่านสิง ท่านจะเสียเงินหนึ่งร้อยสี่สิบก้วนทุกเดือนไป!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่