บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่ นิยาย บท 50

กลุ่มทำสบู่เพิ่มเป็นสิบคน ตั้งหม้อขนาดใหญ่สามใบพร้อมกัน ผลผลิตเพิ่มขึ้นจากวันละหนึ่งร้อยก้อน เป็นสามร้อยก้อนทันที

นอกจากนี้ยังมีเทียนไขสามร้อยเล่มทุกวัน แต่หวังหยวนไม่คิดจะขายมัน!

ตะเกียงน้ำมันมีควันมากเกินไป และอาจทำร้ายดวงตาได้ หากใช้นานเกินไป แต่เทียนมีควันน้อยกว่าและสว่างกว่า

หวังหยวนแจกสบู่และเทียนให้กับสมาชิกกลุ่มประมง เพื่อเป็นสวัสดิการ

หลังจากสามวันของการผลิตอย่างต่อเนื่อง หวังหยวนก็รวบรวมสบู่ได้หนึ่งพันก้อน แล้วออกเดินทางสู่เทศบาล

ไม่ไปไม่ได้ เมื่อวานซื้อรถม้ามาในราคายี่สิบก้วน

ขายน้ำตาลได้มาหกร้อยก้วน ตอนนี้เหลือเพียงไม่กี่สิบก้วนเท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงการสร้างบ้านขนาดสิบหมู่หรอก ไม่พอแม้แต่จะซื้ออิฐด้วยซ้ำ

สถานการณ์ที่ตลาดปลาก็ไม่ค่อยเป็นไปด้วยดีเช่นกัน หวังซื่อไห่ก็รู้สึกว่าฝานเจียงหลงกำลังจะมาอีกแล้ว

ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย เอ้อหู่และสามพี่น้องสกุลกัว ต่างก็ติดตามไปด้วย พร้อมเตรียมเอกสาร

เรื่องสำคัญที่สุด คือหลี่ซื่อหานต้องการกลับไปที่บ้านพ่อแม่ของนาง!

ต้าหู่ขับรถม้า ส่วนหวังหยวนและหลี่ซื่อหานนั่งอยู่ในรถม้า ทั้งสามคนออกเดินทางสายกว่ากลุ่มประมง และออกเดินทางตอนรุ่งสาง หลังจากกินอาหารเช้า

“สามี หากไปบ้านพี่ชายข้า แล้วเขาพูดอะไรไม่ดีกับท่าน ท่านโปรดอย่าได้ถือสา!”

ใบหน้างามของหลี่ซื่อหานเอียงอาย อยู่ในอ้อมแขนของหวังหยวน น้ำเสียงของนางอ้อนวอน!

พ่อของนางเป็นจิ้นซื่อ พี่ชายคนโตและพี่ชายคนรองเป็นจู่เหริน และพี่ชายคนที่สามเป็นซิ่วไฉ การศึกษาของพวกเขาเหนือกว่าสามีนางมาก อีกทั้งสามีของนางยังเป็นคนเสเพล ครอบครัวนางจึงดูถูกเหยียดหยามเขา

พ่อพาพี่ชายไปเรียนรู้การเป็นข้าราชการที่เมืองจิงตู พี่ชายคนโตได้ทำงานที่เมืองจวิ้น มีเพียงพี่ชายคนรองเท่านั้นที่กำลังเรียนที่บ้านในเมืองฝู เพื่อเตรียมตัวสอบ

ทุกครั้งที่พาสามีกลับไปที่บ้านเก่า พี่ชายคนรองมักจะทำหน้าเย็นชา และพูดประชดประชันอยู่เสมอ

ทำให้สามีของนาง ทุบตีและด่าทอนางทุกครั้งที่กลับบ้าน เพื่อระบายความโกรธ

นางกลัวว่าเมื่อกลับไปบ้านพ่อแม่อีก สามีของนางจะกลับมามีพฤติกรรมเช่นเดิม หลังจากถูกกระตุ้น

แต่มีข้อความมาจากพี่ชายของนาง โดยบอกว่าพี่สะใภ้ป่วยหนักและอยากพบนาง จึงต้องรีบกลับไปหา

หวังหยวนกะพริบตา “ต่อให้พี่รองจะตีข้า เพื่อเห็นแก่ภรรยาของข้า สิ่งที่ข้าทำได้มากที่สุดคือการถ่มน้ำลายใส่หน้าเขา!”

“ฮ่าฮ่า!”

สามีช่างล้อเล่น พี่ชายนางเป็นจู่เหริน เขาจะไม่ทำอะไรเลย แม้ว่าเขาจะโกรธเพียงใดก็ตาม หลี่ซื่อหานหัวเราะจนน้ำตาไหล “ท่านพี่ ท่านดีกับข้ามาก มันเหมือนกับความฝัน หลายครั้งข้ากลัวว่ามันจะเป็นแค่ความฝัน เมื่อข้าตื่นขึ้นมาแล้วมันจะหายไป”

“ขอโทษนะ เมื่อก่อนข้าชั่วร้ายถึงเพียงนั้น ข้าไม่ควรปฏิบัติต่อเจ้าเช่นนั้นเลย!”

หวังหยวนขอโทษแทนเจ้าของร่างเดิม

“ไม่ ท่านพี่ ข้าถูกเสมอ หากปราศจากความขมขื่นในอดีต ปัจจุบันก็คงไม่มีความหวานชื่น!”

นางแตะริมฝีปากของหวังหยวนด้วยมือเนียนนุ่ม นัยน์ตาคู่งามของหลี่ซื่อหานเป็นประกาย ใบหน้าเล็กมีแก้มนุ่มขาวอมชมพู

หวังหยวนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก้มหน้าลงจุมพิตนาง

ใบหน้างามของหลี่ซื่อหานเปลี่ยนเป็นสีแดง เสียงนางแผ่วเบาดั่งเสียงยุง “ท่านพี่ ทำเช่นนี้ไม่ได้!”

หวังหยวนกระซิบ “ญาติไม่อยู่แล้วไม่ใช่หรือ?”

“อืม!”

หลี่ซื่อหานรู้สึกเขินอายมากจนติ่งหูของนางเปลี่ยนเป็นสีแดง “แต่มีคนอยู่ข้างนอก ต้าหู่กำลังขับรถม้าอยู่!”

หวังหยวนเงยหน้าขึ้นแล้วตะโกน “ต้าหู่ จอดรถ!”

“อ๊ะ!”

ต้าหู่มองไปรอบ ๆ และเห็นว่ายังเป็นกลางวันแสก ๆ เขาอดไม่ได้ที่จะหน้าแดง แล้วพูดว่า “พี่ พี่หยวน นี่ไม่ดีนะขอรับ นี่มันกลางถนน!”

ช่วงนี้มีคนเล่าให้เขาฟังเรื่องการมีภรรยา และเขาก็พอรู้เรื่องการแต่งงานกับภรรยามาบ้างเล็กน้อย

หลี่ซื่อหานรู้สึกเขินอายมาก จนอยากจะแทรกแผ่นดินหนีไป “ไม่ได้นะ ไว้ค่อยคุยกันใหม่เมื่อเรากลับไปคืนนี้ ตรงนี้ไม่ได้จริง ๆ!”

“พวกเจ้ากำลังคิดอะไรกันอยู่ ต้องคิดไม่ดีกันเป็นแน่!”

หลังจากกลอกตามองทั้งสองคนแล้ว หวังหยวนก็ยกม่านรถม้าขึ้น ลงจากรถม้า แล้ววิ่งไปที่ริมถนน “ข้าจะรีบไปปัสสาวะข้างทาง เพื่อบำรุงดอกไม้ต้นไม้แถวนี้ มันผิดกฎหมายหรืออย่างไร?”

หลี่ซื่อหาน “...”

ต้าหู่ “...”

รถม้าแล่นเข้าไปในเมือง จนมาถึงจวนที่มีสามทางเข้าออก มีสิงโตหินขนาดใหญ่สองตัวอยู่หน้าประตู และตัวอักษรสีทองขนาดใหญ่สองตัว เขียนว่า 'จวนหลี่' บนแผ่นป้ายประตูสีดำ!

รถม้าจอดอยู่หน้าประตู

เมื่อหวังหยวนและหลี่ซื่อหานลงจากรถม้า คนรับใช้ก็รีบวิ่งเข้าไปข้างใน “นายน้อยรอง นายหญิงรอง คุณหนูกลับบ้านแล้ว ชายคนนั้นก็มาด้วยขอรับ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่