บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่ นิยาย บท 52

หญิงสาวสะดุ้ง แล้วถอนหายใจ “เจ้าฉลาดพอ ๆ กับพี่ชายของเจ้า เขาก็พูดถึงหลิวเจี้ยนเย่เช่นเดียวกัน”

หลี่ซื่อหานขมวดคิ้ว แล้วพูดว่า “แล้วเหตุใดท่านกับท่านพี่ถึงพยายามชักชวนข้าเช่นนี้อีก”

หญิงสาวถอนหายใจเบา ๆ “ประการแรก มันเป็นเพราะเจ้า เจ้าคนเสเพลคนนั้นทุบตีเจ้าทุกวัน ซ้ำยังนำเจ้าไปเป็นหลักประกันกู้เงินอีกด้วย พี่ชายของเจ้าจะโล่งใจหายห่วงได้อย่างไร!”

“ตอนนี้สามีของข้าดีกับข้ามาก ไม่เคยทุบตีข้าอีกเลย!”

หลี่ซื่อหานอธิบายอีกครั้ง

แต่นางก็รู้ว่ามันยากที่พี่ชายและพี่สะใภ้ของนางจะเชื่อ แม้แต่ตัวนางเองก็ยังรู้สึกเหมือนกำลังฝันอยู่

“ประการที่สองคือเพื่อช่วยท่านพ่อ!”

หญิงสาวทำหน้าเศร้า “แม้ว่าท่านพ่อจะมีความสามารถพอ แต่การกลับมาใช้ชีวิตในเมืองหลวงนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ราชสำนักเต็มไปด้วยกลอุบาย ทุกอย่างต้องได้รับการดูแล ไม่เช่นนั้นทุกอย่างจะถูกขัดขวาง ท่านพ่อเป็นข้าราชการที่ซื่อสัตย์ ตระกูลหลี่มีฐานะทางการเงินที่อ่อนแอ จึงต้องการการสนับสนุนจากตระกูลที่เชื่อถือได้ เราเป็นมิตรกับตระกูลหลิวมานานหลายชั่วอายุคน แม้ว่าจะมีเหตุการณ์พลิกผัน ก่อให้เกิดความบาดหมางกันหลายครั้ง แต่หากเจ้าตกลงปลงใจกับหลิวเจี้ยนเย่ เราก็สามารถซ่อมแซมความสัมพันธ์ได้ และทั้งสองฝ่ายก็สามารถวางใจกันได้ นี่คือสิ่งที่พี่ชายของเจ้าต้องการให้พี่มาบอกเจ้า การทำเช่นนี้จะดีสำหรับเจ้าและตระกูลเรา”

หลี่ซื่อหานวางของลง “หากจะให้กตัญญูต่อท่านพ่อ แม้ต้องเชือดเฉือนเนื้อให้เป็นยา ข้าก็ยินดี แต่หากจะให้ละทิ้งสามีของตัวเอง เพื่อไปแต่งงานครั้งที่สองกับคนสกุลหลิว ท่านก็ช่วยบอกท่านพี่หน่อยเถอะว่า แม้ข้าจะต้องตายก็ไม่มีวันยอม! นี่คือของกำนัลที่ข้ากับสามีเตรียมไว้ให้พวกท่าน ตอนนี้ข้าขอตัวไปพบพี่ชายก่อน”

พี่ชายของนางทนกล่าววาจารุนแรงกับนางไม่ได้ เขาจึงมักจะบอกให้พี่สะใภ้มาพูดแทน

เช่นนั้นนางจึงขอให้พี่สะใภ้ส่งต่อคำพูดตอบกลับให้ด้วย

“สามี ข้ารู้อยู่แล้วว่าผู้หญิงหัวแข็งคนนี้ไม่ยอมหรอก แต่ท่านกลับขอให้ข้าชักชวนอีก!”

หญิงสาวยกยิ้มฝืดเฝื่อน แล้วส่ายหน้า เปิดห่อใส่ของแล้วมองของกำนัลต่าง ๆ

“เจ้าของที่ดินใช้ขี้ผึ้งน้ำมันหมู ตระกูลหลี่ก็ใช้ขี้ผึ้งเนย สามารถมอบให้คนรับใช้ได้”

“เอ๊ะ พู่กัน หินหมึก กระดาษซวนจื่อและหินฝนหมึกล้วนมีคุณภาพสูง ราคาคงยี่สิบก้วนได้ เจ้าคนเสเพลคนนั้นหาเงินมาได้มากมายถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?”

“นี่อะไรเนี่ย? มันคล้าย ๆสบู่หอม มีกลิ่นหอมมาก ไม่รู้ว่าจะทำความสะอาดได้ดีเพียงใด!”

“นี่มันอะไรกัน? ขาวดั่งเกล็ดเพชร หวานยิ่งกว่าน้ำตาลทรายแดง!”

“นี่อาจเป็นน้ำตาลคริสตัล ที่มีข่าวลือว่าทำให้ผู้คนในโจวเฉิงคลั่งไคล้เมื่อเร็ว ๆ นี้!”

....

เมื่อหญิงสาวและหลี่ซื่อหานเข้าไปในจวน หวังหยวนก็ยกข้าวของเตรียมเข้าไปในจวนด้วย!

เขาไม่ใช่คนที่จะแก้ปัญหาก็ต่อเมื่อเกิดปัญหา เขาไม่ชอบให้ผู้หญิงออกหน้าแทน และเอาแต่หลบอยู่หลังผู้หญิง

“หากกล้าบุกเข้าไปในจวนหลี่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายน้อยรอง ให้ลงมือได้เลย!”

คนรับใช้สองคนถือท่อนไม้ขวางทาง

ต้าหู่ดูกังวล เขาสามารถเอาชนะคนรับใช้สองคนนี้ได้ด้วยมือเดียว

แต่นี่คือบ้านพ่อตาของพี่หยวน หากทะเลาะวิวาท แล้วจะเกิดอะไรขึ้น

หวังหยวนก้าวไปข้างหน้า โดยไม่สนใจทั้งสองคน

ชายทั้งสองถือท่อนไม้ ก่อนที่จะทันได้ลงมือ หวังหยวนก็สะบัดแขนเสื้อไปทางทั้งสองคน

“อ๊ะ!”

มีบางอย่างกระทบหน้าผาก คนรับใช้ทั้งสองก็ปิดหน้าและร้องออกมา แต่เมื่อพวกเขามองดูให้ดี ดวงตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความสุข

สิ่งที่ลอยมากระทบหน้าผากคือเศษเงินสองชิ้น ชิ้นหนึ่งหนักประมาณหนึ่งหรือสองจ้ง

พวกเขาทั้งสองหยิบเงินขึ้นมา แล้วเก็บไว้ในแขนเสื้อเงียบ ๆ เมื่อหวังหยวนกำลังจะเดินเข้าไปในลานบ้าน พวกเขาก็ตะโกนดังลั่น “นายน้อยรอง ท่าไม่ดีแล้วขอรับ ท่านเขยกำลังจะบุกเข้าไปแล้ว!”

ท่านเขยทำตัวสมกับเป็นจอมสุรุ่ยสุร่าย จึงได้ให้เงินหนึ่งตำลึงเมื่อเขาพบเขา ส่วนนายน้อยตระกูลหลิวนั้นเป็นคนตระกูลร่ำรวยในเทศบาล แต่เจอหน้าเมื่อใดก็ไม่เคยให้เงินเลย ตระหนี่ยิ่งนัก

“เจ้าคนเลวทราม ใช่เขยตระกูลหลี่ที่ไหน จะตะโกนเสียงดังเพื่ออะไร!”

เสียงโกรธเกรี้ยวดังขึ้นจากสวนหลังบ้าน แล้วชายหนุ่มสองคนก็เดินออกมาทีละคน

นายน้อยรองของตระกูลหลี่ หลี่ซานซือ เดินนำหน้า เขาสวมชุดผ้าแพร และมีจี้หยกคล้องอยู่ที่เอว ดูสง่างามและหล่อเหลา แต่ใบหน้าของเขาค่อนข้างซีดเผือด

หลิวเจี้ยนเย่จากตระกูลหลิวเดินตามหลัง สีหน้าลำพองใจ

หวังหยวนหรี่ตาลง ก็คิดอยู่ว่าเหตุใดเรื่องใช้ภรรยาเป็นหลักประกันกู้ยืมเงิน ถึงมาไกลเสียจนเข้าหูคนตระกูลหลี่ได้ ปรากฏว่าชายคนนี้อยู่เบื้องหลังนี่เอง

หลี่ซานซือจ้องมองหวังหยวน แล้วกัดฟันพูด “เจ้าคนเลวทราม เจ้าทำเช่นนั้นกับน้องสาวของข้า แล้วยังกล้ามาเหยียบจวนหลี่อีกหรือ เจ้าคิดว่าคนจากตระกูลบัณฑิตจะไม่ทุบตีคนจริงหรือ! เอาเลย พวกสุนัขรับใช้ไปจัดการเขาเดี๋ยวนี้!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่