บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 103

บทที่ 103 ท่าทางที่ปรกติ

เช้าตรู่วันต่อมา ซ่านจินจื๋อและซ่านเชียนหยวนออกจากเมืองเทียนเหยียนไปพร้อมกัน ตรงไปยังบ้านริมน้ำโล่เสีย

กู้อ้าวเวยเตรียมยาชั้นดีให้พวกเขาพกติดตัวไปด้วยไม่น้อย อีกทั้งหลายวันมานี้ยังต้องช่วยซ่านเชียนหยวนจัดการตำหนักใหม่ ส่วนเสียนเฟยก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องให้แม่นางลี่วานมาใช้ชีวิตอยู่กับซ่านเชียนหยวนชั่วคราว จะเรียกให้ดีๆ ก็คือไปพัฒนาความรู้สึก

ทั้งสองคนเพิ่งจะไปจากตำหนักอ๋อง ก็มีลี่วานกับกู้เหยียนจือมาอีกสองคน

โชคดีที่ลี่วานเป็นแม่นางที่สุภาพและใจเย็น พอมาถึงตำหนักอ๋องก็ไม่สนใจจะดึงซูพ่านเอ๋อมาเป็นพวก นางตรงมาหากู้อ้าวเวยที่วิหารเฟิ่งหมิง อีกทั้งยังเอาของพื้นเมืองของเจียงหนานติดไม้ติดมือมาด้วยไม่น้อย นอกจากนั้นนางยังเรียกกู้อ้าวเวยว่าพี่สาวทุกคำ

นางจึงทำได้แค่หาห้องที่เป็นของสตรีในบ้านให้นางได้อยู่

“เหนื่อยมากๆ เลย ชิงต้าย” กู้อ้าวเวยฟุบลงบนโต๊ะด้วยอาการใจร้อนไม่เป็นสุขมาก หรี่ตามองไปยังชิงต้าย

“จริงๆ แล้วพระชายาจะต้องรับผิดชอบงานต่างๆ เพียงแต่ปรกติแล้วท่านอ๋องจะไม่ให้คุณหนูดูแลจัดการเท่านั้น” ชิงต้ายปิดปากแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ จากนั้นก็เอาชุดที่ไว้ใส่ในฤดูร้อนที่ตัดมาให้พอดีตัวแล้วใส่เข้าไปในตู้เสื้อผ้า

นางถอนหายใจออกมายาวเหยียด นางคงไม่ได้กลับไปหาฉีหลินที่ร้านยาสักพักหนึ่ง

ในมือของนางยังมีแบบตำหนักขององค์ชายสี่ หลายวันมานี้นางจะต้องดูแลคนทั้งภายนอกและภายในด้วยตัวเอง โชคดีที่มีชิงต้ายคอยอยู่ช่วยเหลือนาง ไม่อย่างนั้นนางคงลำบากไม่น้อย

“ท่านพี่” กู้เหยียนจือยื่นศีรษะออกมาจากด้านข้างของประตู

“มีอะไรงั้นหรือ?” กู้อ้าวเวยรีบลุกขึ้นมาโต๊ะ

“ข้าค่อนข้างชินกับการฝึกฝนวรยุทธ์ในทุกๆ วัน แต่ว่าสระน้ำที่อยู่ในลานบ้านของท่านพี่จี้เหยามันใหญ่เกินไป จึงไม่มีพื้นที่ที่สามารถฝึกได้” กู้เหยียนจือลูบศีรษะอย่างเขินอาย ดูเหมือนจะเกรงใจไม่น้อย

“ลานบ้านของพี่ก็ดูจะกว้างขวางไม่น้อย เจ้าอยากจะมาฝึกตอนไหนก็ได้” กู้อ้าวเวยหัวเราะเบาๆ

ซ่านจินจื๋อไม่อยู่ ตำหนักอ๋องมีสถานที่ต้องห้ามอยู่มากมาย กู้อ้าวเวยก็ไม่กล้าหาที่ที่ใหญ่กว่านี้ให้เขา โชคดีที่ตำหนักของนางอยู่ห่างจากตัวเมือง จึงมีลานบ้านที่กว้างขวาง แต่ก็ไม่มีของอะไร เป็นพื้นที่ว่างเปล่า

“เพียงแต่ว่า หากข้าทำเช่นนี้จะรบกวนการพักผ่อนของท่านพี่หรือไม่” กู้เหยียนจือก้มหน้าลงอีกครั้ง

“ไม่เป็นไรหรอก เวลาข้านอนข้าหลับลึกจะตาย และยิ่งกว่านั้นเจ้าคือน้องชายของข้า ใช้ได้ตามสบาย” กู้อ้าวเวยโบกมือไปมา จากนั้นก็ตั้งใจหยิบกล่องยาที่เตรียมเอาไว้เป็นอย่างดียัดใส่อ้อมแขนให้เขา “ปรกติหากเจ้าไม่สบายก็มาหาพี่ได้ ยาพวกนี้เจ้าสามารถใช้มันได้ทุกที่ เมื่อใดที่เจ้าฝึกวรยุทธ์แล้วได้รับบาดเจ็บ”

“ขอบคุณท่านพี่ขอรับ” กู้เหยียนจือยกยิ้มขึ้นมา กอดกล่องยาแล้ววิ่งออกไป

ชิงต้ายที่อยู่ด้านหลังก็อุ้มเสื้อผ้าเดินเข้ามา “คุณหนู คุณชายน้อยดูน่ารักน่าเอ็นดูมากเจ้าค่ะ”

“ก็จริงของเจ้า” กู้อ้าวเวยพยักหน้า ทันใดนั้นก็เหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงเงยหน้าตะโกนขึ้นไปบนหลังคา “กุ่ยเม่ย”

เงาสีดำสายหนึ่งที่อยู่ใต้บันไดมานานแล้ว กุ่ยเม่ยยังคงแต่งตัวเช่นนั้นเหมือนทุกๆ วัน เดินมาตรงหน้าของกู้อ้าวเวย “พระชายามีสิ่งใดจะรับหรือสั่งพ่ะย่ะค่ะ?”

“ข้าคิดว่าวรยุทธ์ของเจ้าก็ไม่เลว ถ้าวันปรกติเหยียนจือมาฝึกวรยุทธ์ เจ้าก็อยู่ฝึกเป็นเพื่อนเขาสักสองสามกระบวนท่า ได้หรือไม่?”

“ได้พ่ะย่ะค่ะ” กุ่ยเม่ยพยักหน้าอย่างจริงจัง ยังไม่ทันได้ออกไป ก็ถูกกู้อ้าวเวยจับข้อมือเอาไว้ แล้วจะลากเขาออกไปด้านนอก “เจ้าใส่สีดำทั้งตัวเช่นนี้ทุกวันไม่กลัวแดดเผาตายหรือ ข้าจะพาเจ้าไปตัดเสื้อผ้าที่ร้านสักสองชุด”

เมื่อฟังมาถึงตรงนี้ กุ่ยเม่ยก็หยุดเดินทันที ไม่ว่ากู้อ้าวเวยจะใช้แรงอย่างไร เขาก็ยังไม่ขยับไปไหน

“พระชายา กระหม่อมไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงอะไรพ่ะย่ะค่ะ” กุ่ยเม่ยคว้าข้อมือของกู้อ้าวเวยกลับ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์