บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 113

สรุปบท ตอนที่113 ชีวิตมีค่าที่สุด: บุบผาร้อยเสน่ห์

อ่านสรุป ตอนที่113 ชีวิตมีค่าที่สุด จาก บุบผาร้อยเสน่ห์ โดย ลิ่วเยว่

บทที่ ตอนที่113 ชีวิตมีค่าที่สุด คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ บุบผาร้อยเสน่ห์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ลิ่วเยว่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่113 ชีวิตมีค่าที่สุด

กลิ่นเลือดในสนามรบที่เจือจาง รวมทั้งกลิ่นอายของทะเลทรายสีทอง

แต่ตอนนี้ กลิ่นเลือดอันไม่พึงประสงค์ทำให้ซ่านเซียนหยวนพะอืดพะอม แต่กระนั้นก็ต้องยืนอยู่ข้างซ่านจินจื๋อ ยืนเฝ้ามองเลือดหยดลงจากข้อมือขาวไม่ขาดสาย

เมี่ยวหารเกรงว่าเลือดนี้จะแข็งตัวก่อนไหลลงสู่ถ้วย จึงขยายบาดแผลให้ใหญ่ขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก แม้แต่ใช้เล็บมือบีบ เพื่อให้เลือดไหลทะลักเร็วขึ้น

......หนึ่งหยด สองหยด.....

“เสด็จอา!ท่านเสียสติไปแล้ว!” ซ่านเซียนหยวนระงับอาการพะอืดพะอมไว้แล้วตะโกนเสียงดัง เขาอยากจะผลักออกซ่านจินจื๋อที่ยืนขวางไว้ แต่ก็โดนเฉิงซานล็อกเข้าที่แขน

“องค์ชายหกโปรดระงับอารมณ์ด้วย”เฉิงซานพูดด้วยความนอบน้อม"

“นางคือพระชายาของท่าน อีกทั้งเวลาปกติแล้วนางต้องทานยาบำรุงเลือด ท่านเห็นชีวิตนางไม่สำคัญใช่หรือไม่?” ซ่านเซียนหยวนพยายามบิดตัวออก แต่กลับยิ่งทำให้มีคนเข้ามาจับตัวเขามากขึ้น เขาตะโกนขึ้นว่า: “เสด็จอาที่ข้ารู้จักถึงจะเป็นคนเด็ดขาด แต่ไม่มีทางที่จะใช้เลือดของคนข้างกายมาทำเป็นตัวยา”

“ข้ายังเคยใช้เลือดจากอกนาง”ซ่านจินจื๋อพูดอย่างไม่แยแส"

ซ่านเซียนหยวนไม่เข้าใจการกระทำของซ่านจินจื๋อ แต่เขารู้สึกเหมือนถูกแช่อยู่ในน้ำแข็ง หนาวเย็นถึงกระดูก

แต่เมี่ยวหารก็ควรมีจิตเมตตาของหมอใหญ่บ้าง หลังจากเลือดหนึ่งถ้วย เขายังหยิบขวดหยกมารองเพิ่ม แล้วถึงได้ปิดแผลด้วยสมุนไพร จากนั้นถึงให้กุ่ยเม่ยทำการพันผ้าพันแผลให้: “ท่านอ๋อง ข้าขออนุญาตไปปรุงยาให้แม่นางพ่านเอ๋อ”

ซ่านจินจื๋อเพียงพยักหน้า จากนั้นเฉิงซานก็ปล่อยซ่านเซียนหยวน

ซ่านเซียนหยวนรีบวิ่งเข้าไปดูกุ่ยเม่ยที่กำลังทำการพันแผลให้กับนาง เห็นสีหน้าที่ซีดเซียวของนาง เขาก็ค่อยๆพยุงนางขึ้น

“เจ้าชอบนาง?”ซ่านจินจื๋อจ้องที่เขา

“ข้าชอบนาง ก็เหมือนที่ข้าชอบเสด็จพี่!” ซ่านเซียนหยวนกระชับนางไว้ในอ้อมแขน แล้วจับจ้องซ่านจินจื๋อด้วยสายตาโกรธเคือง: “เพียงเพื่อช่วยซูพ่านเอ๋อร์เหตุใดท่านถึงกล้ากระทำเรื่องราวแบบนี้! หรือว่าท่านลืมเสด็จพี่แล้ว หวงเสด็จพี่คนที่เคยอยู่เคียงข้างคอยช่วยเหลือท่านแก้ไขปัญหามากมาย! สุดท้ายแล้วนางได้รับผลตอบแทนอะไรบ้าง?

มันคือความทรงจำที่เจ็บปวด หายากที่ซ่านจินจื๋อจะเปิดเผยอาการที่เจ็บปวดออกมา

“นางเสียสละชีวิตเพื่อซูพ่านเอ๋อ ข้าจดจำได้ดี ดังนั้นข้าถึงได้เคารพซูพ่านเอ๋อ เพราะชีวิตของนางแลกมาด้วยชีวิตของเสด็จพี่ ณ ตอนนี้ ท่านยังจะต้องการให้พระชายาซ้ำลอยอย่างเสด็จพี่อีกหรือ!” ซ่านเซียนหยวนดวงตาแดงก่ำ เหตุการณ์ในอดีตเกิดขึ้นตรงหน้าอีกครั้ง

เสด็จพี่ซ่านหลิงเอ๋อร์นางตาบอดตั้งแต่เกิด ตอนเด็กเคยตามซ่านจินจื๋อเพื่อไปพักรักษาตัวระยะหนึ่งกับท่านอาจารย์ ยิ่งไปกว่านั้นในคืนที่ซูพ่านเอ๋อโดนรอบฆ่านางได้เข้าไปรับมีดแทนขณะที่อาการตนเองกำเริบ ทำให้ต้องเสียชีวิตลงหลังจากนั้น

จากวันนั้นเป็นต้นมา ซ่านเซียนหยวนรู้ดีว่าชีวิตของซูพ่านเอ๋อร์แลกมาด้วยชีวิตของพี่สาวตนเอง ดังนั้นเขาถึงได้เคารพนับถือซูพ่านเอ๋อ แต่ตอนนี้ เขารู้สึกเคารพซูพ่านเอ๋อน้อยลง

“ท่านยังจดจำคำพูดสุดท้ายก่อนเสด็จพี่จะเสียชีวิตได้หรือไม่….…”

ความเจ็บปวดบนใบหน้าของซ่านจินจื๋อจางหายไป แล้วมองไปยังซ่านเซียนหยวน: “ดูแลนางให้ดี”

พูดเสร็จ เขาก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงซ่านเซียนหยวนที่รีบอุ้มกู้อ้าวเวยไว้ในอ้อมแขน แล้วนำนางไปวางไว้บนเตียง ท้องฟ้าข้างนอกนั้นมืดลงเล็กน้อย เหมือนวันเดียวกับที่ซ่านหลิงเอ๋อร์เสียชีวิต

ซ่านเซียนหยวนจดจำได้เสมอ วันนั้นซ่านหลิงเอ๋อร์ทำได้เพียงกุมมือเขาไว้ และเอ่ยประโยคสุดท้ายก่อนสิ้นลมว่า: “ชีวิต มีค่ายิ่งกว่าสิ่งอื่นใด”

“อืม” ซ่านเซียนหยวนเดินเข้ามาพร้อมกับดึงเก้าอี้ตัวหนึ่งมานั่งข้างเตียง: “รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือไม่ ก่อนหน้านั้นนายท่านเห้อบอกว่าเจ้าไม่ได้ดูแลร่างกายตัวเองเลย และยังเสียเลือดเป็นจำนวนมาก เลยทำให้เจ้าสลบไป”

กู้อ้าวเวยหัวเราะเบาๆ ข้อมือที่โดนกรีดเลือดออกยังไร้เรี่ยวแรงและสั่นตลอด นางซ่อนแขนข้างนั้นไว้: “ไม่มีอะไรเลย ข้าชินเสียแล้ว รอเมื่อข้าจัดการปัญหาจบข้าจะดูแลร่างกายอย่างดี”

ซ่านเซียนหยวนกับชิงต้ายทั้งสองสอบถามเรื่องราวอีกนิดหน่อย กู้อ้าวเวยก็ตอบด้วยรอยยิ้ม โดยไม่คิดอะไรและรีบไล่ทั้งสองออกไป: “อย่าได้ว่าข้าอีกเลย ถ้าจะตำหนิก็ตำหนิท่านอ๋อง ข้าต้องการนอนแล้ว”

ทั้งสองไม่มีทางเลือกนอกจากต้องออกไป

รอจนกระทั่งคืนที่เงียบสงบ กู้อ้าวเวยลุกขึ้นท่ามกลางความมืด และจุดเทียนขึ้นริมหน้าต่างก่อนจะกลับไปยังเตียง มือซ้ายประคองมือขวาที่อ่อนแรงพร้อมสั่นสะท้านไปทั้งตัว เหงื่อไหลซึมเปียกทั่วเสื้อผ้า

ความรู้สึกมึนๆงงๆเหมือนกำลังจะตาย

แต่ไม่มีใครรู้ คนที่บอกว่าอยู่เฝ้าซูพ่านเอ๋ออย่างท่านอ๋อง กำลังยืนอยู่หน้าวิหารเฟิ่งหมิงในเวลานี้ กำลังยืนชิดติดกำแพง ได้ยินเพียงเสียงร้องไห้แผ่วเบาที่ออกมาจากในห้อง

กู้อ้าวเวยกลัวตาย กลัวตายยิ่งกว่าคนอื่นๆ

“บ้าจริงๆ เหตุใดถึงหลั่งน้ำตาได้” นางเร่งรีบเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าใส โดยที่ไม่รู้ว่ามีเงาดำที่ซ่อนตัวอยู่ด้านนอกจากไปอย่างเงียบๆ

แต่เธอรู้ดี ว่าน้ำตาเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ที่สุด

…………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์