บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 112

สรุปบท ตอนที่112 เลือดถ้วยเดียว: บุบผาร้อยเสน่ห์

สรุปตอน ตอนที่112 เลือดถ้วยเดียว – จากเรื่อง บุบผาร้อยเสน่ห์ โดย ลิ่วเยว่

ตอน ตอนที่112 เลือดถ้วยเดียว ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง บุบผาร้อยเสน่ห์ โดยนักเขียน ลิ่วเยว่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่112 เลือดถ้วยเดียว

ซ่านจินจื๋อนานแล้วที่ไม่ได้ฝัน

ในฝันมือเล็กๆที่อบอุ่นของซูพ่านเอ๋อไม่ใช่มือคู่เดิมที่เขาเคยกุมไว้ในฤดูหนาว และไม่ใช่กลิ่นอายแห่งความตายในทะเลทราย ยิ่งไม่ใช่เลือดอุ่นที่ไหลรินในสนามรบ

มันเป็นเพียงแผ่นหลังที่เลือนรางของกู้อ้าวเวย

กู้อ้าวเวยที่ปรากฏอยู่ในฝันนั่งเงียบๆที่มุมโต๊ะ กำลังพลิกหน้ากระดาษหนังสือในมือ และนางกำลังหมกมุ่นกับตัวอักษรที่อัดแน่นในหนังสือ ละอองฝนตกลงมานอกชายคา ภาพตรงหน้าทำลายกำแพงหัวใจที่แข็งกระด้างของเขาอย่างเงียบๆ

ในตอนท้ายของความฝันคนที่อ่านหนังสือทางการแพทย์เสร็จแล้วยิ้มและยืนขึ้นปล่อยให้เขากลับไปเหงาอีกครั้งท่ามกลางละอองฝนที่ตกลงมา เสียงของนางทะลุผ่านเข้าสู่หูของซ่านจินจื๋อโดยตรง :”มีคนกำลังรอข้าอยู่”

มีคนถือร่มให้นางในสายฝน และใบหน้าด้านข้างของนางถูกย้อมด้วยความสุข

คนที่รอนางไม่ใช่ข้า

ความเงียบสงบทั้งหมดถูกห่อหุ้มอยู่ในความมืดและเสียงฝนตกหนักที่กระทบชายคาทำให้ตื่นจากฝัน

ซ่านจินจื๋อลุกนั่งบนเตียง นอกหน้าต่างยังมืดอยู่โดยไม่มีฝนตกชุกที่รบกวนจิตใจเหมือนในความฝัน และไม่มีกู้อ้าวเวยนั่งอยู่ที่หน้าต่างอย่างเงียบ ๆ เขาลุกจากเตียงอย่างกระวนกระวาย

ในไม่ช้าเฉิงซานก็ได้ยินความเคลื่อนไหวและมาที่ประตูแล้วก็กระซิบว่า "ท่านอ๋องต้องการรับสั่งอะไร?”

“ตักน้ำเย็นมาหนึ่งกะละมัง”เขาใส่รองเท้าแล้วยืนขึ้นเดินไปเปิดหน้าต่างเพื่อให้ลมพัดความฝันของเขาให้จางหายไป

นี่ไม่เรียกว่าฝันดี แต่ก็ไม่ใช่ฝันร้าย

เพียงแต่ว่าเขาไม่เคยเห็นด้านเงียบของกู้อ้าวเวย นางเป็นคนโหวกเหวกโวยวาย ทำอะไรมักจะรีบร้อน มีเพียงวันนี้ที่นางลงมือต่อสู้กับท่านอ๋องผู้ไม่มีใครกล้าแตะต้อง หลั่งน้ำตาเพื่อเด็กๆพวกนั้น และนางยังบอกว่าชอบความรู้สึกที่ถูกซ่านเซิ่งหานรอ

ปล่อยนางไปไม่ได้

ในใจมีใครคนหนึ่งเรียกร้อง เขารับกะละมังน้ำจากมือเฉิงซานด้วยท่าทีหงุดหงิด แล้วกวักน้ำล้างหน้า จึงจะลบเลือนสิ่งที่ไม่ควรคิดเหล่านั้นออกจากสมองได้ เขานั่งลงอีกข้างอย่างไม่มีความอดทน “หลายวันนี้พระชายาอยู่ในตำหนักทำอะไรบ้าง”

“ข้าจะเรียกกุ่ยเม่ยมา”เมื่อได้ยินดังนั้นเฉิงซานเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

ชั่วขณะนั้นกุ่ยเม่ยก็มาถึงข้างกายซ่านจินจื๋อและได้บอกเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหลายวันที่ผ่านมารวมถึงคำสารภาพที่แสดงได้ดีและสถานการณ์ช่วงที่ปรึกษากันได้เกิดสงครามเล็กๆระหว่างซูพ่านเอ๋อกับกู้จี้เหยา

ดูแล้วหู้ปู้เซ่อหลาง(ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายการเงิน)จะไม่รู้จักหนักเบา” ซ่านจินจื๋อทำหน้าเยือกเย็นพูดต่อว่า ”รอหู้ปู้เซ่อหลางเข้ามาขอโทษเป็นการส่วนตัวนอกจากนี้ไปบอกกู้จี้เหยาสำหรับสถานะอย่างนางในตำหนักนี้ยังไม่ถึงขั้นที่นางจะสู้กับใครโดยให้นางนำเสื้อผ้ากลับมาจากโรงยาด้วยให้ฮ่องเต้เป็นผู้ตัดสินเรื่องของโหวเซ่อ”

เฉิงซานขมวดคิ้ว

นี่ไม่ใช่ปกติของซ่านจินจื๋อ

ถ้าเป็นปกติซ่านจินจื๋อจะไม่แก้ปัญหาของสองพระชายาเป็นอันดับแรก แต่จะจัดการปัญหาระหว่างซูพ่านเอ๋อกับกู้จี้เหยาก่อน ความรู้สึกแปลกแบบนี้เขาไม่พูดออกไปเพียงพยักหน้าและให้เรื่องเหล่านี้ดำเนินต่อไป

กุ่ยเม่ยหันหลังกำลังจะเดินออกแต่ซ่านจินจื๋อพูดดักหยุดเขาไว้ ”องค์ชายหกได้สั่งคนตามพระชายาแล้วหรือไม่?”

“สั่งแล้ว แต่ลูกน้องไม่ได้สนใจหรือถามอะไร”กุ่ยเม่ยพยักหน้าหลายวันนี้คนที่ติดตามกู้อ้าวเวยมี3-4คนปกติจะซ่อนตัวลึกลับน้อยมากที่จะปรากฏตัว

“เจ้ารู้เรื่องก่อนหน้านี้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างองค์ชายหกและพระชายาหรือไม่?” ซ่านจินจื๋อได้ถามขึ้นอีกคำถาม

“ข้าจะไป ครั้งนี้ขอบคุณท่านมาก”ว่านฟานพยักหน้าอย่างจริงจังกู้อ้าวเวยช่วยเขาไว้เยอะมากพอแล้ว

กู้อ้าวเวยอยู่ไม่นานก็เดินทางกลับตำหนักอ๋อง เมี่ยวหารวิ่งช้าๆมาที่ประตูวิหารเฟิ่งหมิง สีหน้าซีดเซียวแล้วพูดว่า: “พระชายาแม่นางพ่านเอ๋อล้มป่วยอีกแล้ว”

“อยากให้ข้าไปดูอาการของนางหรือ?” กู้อ้าวเวยถามโดยไม่รู้ตัว

“ต้องการ.....เลือดของเจ้ามาทำยาท่านคือลูกหลานตระกูลหยุน มีเลือดในร่างกายที่แตกต่างและสามารถรักษาอาการป่วยของแม่นางพ่านเอ๋อ” เมี่ยวหารพูดถึงจุดนี้แล้วจับคางแน่น

กู้อ้าวเวยวางมือทาบอกตัวเอง

ซูพ่านเอ๋อป่วยถูกจังหวะจริงๆ

“พ่านเอ๋อเป็นคนแบบไหนเจ้าไม่ต้องมาตัดสิน!”ซ่านจินจื๋อเดินพรวดพราดเข้ามา: “พ่านเอ๋อจะเอาเลือดของเจ้าเป็นเรื่องด่วน!”

ดูเหมือนว่าซ่านจินจื๋อจะกลับไปเป็นเหมือนวันที่กำลังแต่งงานเพื่อซูพ่านเอ๋อไม่สนใจมิตรภาพใดๆทั้งสิ้น

“ต้องมีวิธีอื่นสิ”ซ่านเซียนหยวนวิ่งตามเข้ามาอย่างรวดเร็ว

“เอาแค่เลือดหนึ่งถ้วย”ซ่านจินจื๋อดึงซ่านเซียนหยวนไว้ เปล่งเสียงอย่างเยือกเย็น”เดี๋ยวนี้!”

กู้อ้าวเวยอยากพูดว่านางไม่ได้ป่วย นางเพียงแต่รู้สึกเจ็บคอแล้วหมดสติไป แต่เฉิงซานแทงมีดจากด้านหลังนาง”ปล่อยเลือดไหลเถอะ”

…………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์