บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 158

บทที่158 อำนาจดึงดูด

“แม่นางเอ่อร์ชิง คำพูดไม่สามารถพูดไปเรื่อย”

เมิ่งซู่ชัดเจนว่าไม่เชื่อ ถึงแม้กู้อ้าวเวยจะไม่เหมือนคนอื่นๆ แต่เมืองเทียนเหยียนนั่นเป็นสถานที่เช่นไร ใครที่ไม่มีเส้นสายสักนิดไปที่นั่นแล้ว สุดท้ายก็ไม่พ้นจบลงด้วยการกลายเป็นแค่ตัวหมาก

“ข้าจริงจังมาก” กู้อ้าวเวยหยิบบันทึกอีกเล่มของเขาเกี่ยวกับการควบคุมน้ำ พูดด้วยเสียงต่ำว่า: “เพียงแค่เจ้ามอบตำราเล่มนี้ให้กับราชสำนัก ข้าให้คำมั่นสัญญาว่าเจ้าจะได้ตำแหน่งขุนนางหนึ่ง

ตอนนี้นางคือพระชายาจิ้ง แต่ต้องมีวันหนึ่งนางต้องตัดขาดจากซ่านจินจื๋อ จวนเฉิงเสี้ยงก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด

ขุนพลที่ชำนาญด้านการรบนางเชื่อในความสามารถของกู้เหยียนจือ แต่ขุนนางที่ชำนาญด้านอักษร นางกลับคิดว่าเมิ่งซู่คนนี้เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลย รอจนถึงวันที่นางวางรากฐานมั่นคงแล้ว นางก็เหมือนดั่งนกที่บินไปในท้องนภา ปลาที่แหวกว่ายกลางทะเลอย่างอิสระ

เมิ่งซู่นิ่งชะงัก ขมวดคิ้วเป็นปม: “อยากถามแม่นางว่าเป็นคนอย่างไรกันแน่?”

“ก็แค่คนฉลาดคนหนึ่งเท่านั้น เจ้าและข้ามีโชคชะตาต่อกัน ก็จะสามารถสร้างความผาสุกให้กับชาวบ้าน ข้าอยากให้เจ้าปีนขึ้นบนตำแหน่งขุนนาง ปกป้องความปลอดภัยให้ข้า นี่คือข้อแลกเปลี่ยน เจ้าพึงพอใจหรือไม่?” กู้อ้าวเวยเดินมาตรงหน้าเขาด้วยสีหน้าที่จริงจัง: “เจ้ามีพรสวรรค์เช่นนี้ ตำบลซ่านหลินสำหรับเจ้าก็ไม่พ้นแค่นกในกรง เจ้าควรจะกางปีกให้กว้างแล้วทะยานไปสู่ผืนดินชางหลาน

กู้อ้าวเวยน้ำเสียงราบเรียบ พูดออกมาแต่ละคำพูดแน่นอนว่าทำให้เมิ่งซู่เมื่อได้ฟังแล้วมีความทะเยอทะยานไม่น้อย

“ข้าไม่เชื่อเจ้า”

“แต่ข้าเชื่อเจ้า” กู้อ้าวเวยยิ้มแล้วหยิบบันทึกอีกเล่มออกมา เล่าเกี่ยวกับจะจัดการบ้านเมืองตนอย่างไร แต่ไม่ใช่ไปจัดการกับทุกแคว้นในใต้ล่า ข้างในมีบางจุดที่ยังไม่ค่อยลงตัว แต่เมื่อเทียบกับคนอื่นๆในตอนนี้ก็ล้ำหน้าไปมาก จึงพูดต่อ: “ฐานะของข้าหากว่าพูดออกไปให้เจ้ารู้ ถ้ามีคนได้ยินเข้า คนของโหวเซ่ออาจจะมาอีก ข้าไม่สามารถเป็นภาระให้พวกเจ้า”

เมิ่งซู่ขมวดคิ้วถาม: “เจ้าสามารถช่วยข้าให้เดินขึ้นสู่ขุนนางจริงหรือ?”

“ได้ เจ้าก็มีความสามารถอยู่แล้ว เพียงแค่จัดการความสัมพันธ์เล็กน้อยข้าจะช่วยเจ้าเอง ขอเพียงแค่ให้เจ้าจำไว้ว่าหลังได้ตำแหน่งแล้วเจ้าต้องทำเพื่อบ้านเมืองและชาวบ้าน เป็นขุนนางที่ใสสะอาด ข้าขอรับรองเจ้า” กู้อ้าวเวยพูดขณะ ยังยืนอยู่ข้างๆกายของเมิ่งซู่

เขียนจดหมายฉบับหนึ่งไว้ ลงท้ายคำว่าเยียน แล้วพูดต่อ: “ถ้าวันหนึ่งเจ้าสอบเคอจวี่(การสอบขุนนาง)ได้จอหงวน(ผู้ที่สอบได้อันดับที่1)หรือถ้านฮัว(ผู้ที่สอบได้อันดับ3) ให้นำจดหมายฉบับนี้ส่งถึงตำหนักอ๋องจิ้งก็พอ”

พูดมาถึงขนาดนี้ เมิ่งซู่ยังไม่อยากจะเชื่อนัก แต่ก็เก็บสิ่งของไว้

เห็นเขาเก็บลง กู้อ้าวเวยก็วางใจแล้ว กลับคาดไม่ถึงว่าอยู่ที่แปลกถิ่นนี้ ยังสามารถหาเจอผู้มีพรสวรรค์ที่ไม่เปิดเผยความสามารถ เป็นเรื่องที่ไม่เลว

กระทั่งอาหารค่ำ เมิ่งซู่กล่าวว่ารอให้ร่างกายหายดีแล้วหลังจากนั้นก็จะเข้าเทียนเหยียนเพื่อสอบ

“แน่นอนว่าดี!” นายท่านเมิ่งหัวเราะด้วยความยินดี ดวงตามีความชื้นเล็กน้อย แล้วมองไปยังกู้อ้าวเวยที่อยู่ข้างๆ: “ขอบคุณแม่นางเอ่อร์ชิงยิ่งนักที่คอยดูแล ใบสั่งยาของสามเดือนนี้ เหล่าฟูจะให้คนดูเขาทานให้หมดไม่ให้คลาดสายตา ฤดูใบไม้ผลิของปีหน้า จะให้เขาไปยังเทียนเหยียน”

“นายท่านเมิ่งอย่าได้เกรงใจ เพียงแค่ไม่กี่วันข้าก็ต้องไปหลิ่งหนานแล้ว ขอให้นายท่านโปรดให้ทานค่าเดินทางเล็กน้อย”

“ให้ทานคงเป็นไปไม่ได้ พอดีบุตรชายคนโตของข้าอีกสี่วันให้หลังกองคาราวานจะต้องเดินทางผ่านที่นี่ เพียงให้พวกเขาอ้อมหน่อยพาเจ้าไปหลิ่งหนานรอบหนึ่งก็พอ หากเจ้าต้องการอะไรอีก ขอเพียงแค่ให้บอกข้า” นายท่านเมิ่งตบหน้าอกแล้วพูด

กู้อ้าวเวยขอมาเพียงสมุนไพรจำนวนไม่น้อย ทำการวิจัยทั้งกลางวันและกลางคืน จนต้องซื้อกล่องยาใบเล็กใบใหม่ ทำหลายสิ่งหลายอย่าง เติมลงไปข้างในจนเต็มไปหมด หายาสมุนไพรตัวที่น่าสนใจและมีประโยชน์จากในโรงยา ทำตู้ยาให้กับนายท่านเมิ่งหนึ่งตู้

เวลาสามวันที่เฝ้ามองดู นายท่านเมิ่งท่านมีความตั้งใจที่จะจับคู่ให้ทั้งสอง แต่เมิ่งซู่เพียงแค่รับปาก: “ข้ากับนางเป็นสามีภรรยา ไม่ดีเท่าเราสองคนเป็นสหายคนสนิท เรื่องที่จะแต่งงาน ก็คงต้องรอหลังจากให้ข้ามีลาภยศและเงินทองแล้ว”

หากไม่เป็นเช่นนี้ จะสามารถคู่ควรกับคนฉลาดอย่างกู้อ้าวเวยเช่นนี้ได้อย่างไร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์