บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 173

บทที่ 173 ปกป้องนางอย่างละเอียดรอบคอบ

ซ่านจินจื๋อที่อยู่นอกประตูเมื่อได้ยินประโยคนี้กลับหยุดฝีเท้า

กู้อ้าวเวยที่อยู่ในห้องกำลังนั่งอยู่บนกราบเตียงกวักมือเรียกกุ่ยเม่ย “มาช่วยข้าอุ่นเตียงหน่อยได้หรือไม่ มุดเข้าผ้าห่มแล้วมือเท้าข้าเย็น กลัวว่าจะนอนไม่หลับ”

“ชายหญิงไม่ควรใกล้ชิด ท่านเป็นถึงพระชายา กระหม่อมเป็นเพียงบ่าวไพร่”

“ช่วงฤดูใบไม้ผลิชิงต้ายกับหยินเชี่ยวก็ช่วยข้าอุ่นเตียงแบบนี้เหมือนกันน่า” กู้อ้าวเวยจนด้วยเกล้า ราวกับว่าตราบใดที่มีเลือดไหลออกรับรองได้เลยว่านางจะต้องป่วยแน่ๆ อีกทั้งคุณสมบัติทางกายภาพของลูกหลานตระกูลหยุนล้วนเป็นเช่นนี้ หยุนชิงหยางจึงปลูกฝังเลี้ยงดูนางในฐานะทายาท ส่งสมุนไพรมาให้ไม่น้อยตั้งแต่ยังเล็ก ถึงแม้ส่วนใหญ่เป็นยาชูกำลังแต่ในอนาคตก็ไม่ง่ายที่จะถูกวางยา ทว่าสุดท้ายแล้วก็ยังทำลายสุขภาพร่างกายของนาง ลูกหลานตระกูลหยุนคนอื่นๆคล้ายว่าไม่เคยเป็นนี้แบบนี้มาก่อน

คิดๆแล้ว ชีวิตนางก็ขมขื่นนัก

กุ่ยเม่ยได้แต่ถลึงตาใส่ ไม่ขยับเขยื้อน

“เช่นนั้น....เจ้าก็หาสาวใช้ให้ข้าสักคนสิ” กู้อ้าวเวยขยิบตาใส่เขา กุ่ยเม่ยเกือบจะตาเหลือกแล้ว จึงรีบโบกมือห้ามส่งสายตามองไปที่ประตู แต่กู้อ้าวเวยกลับไม่รู้เรื่อง “ที่ประตูไม่มีคนหรอก อย่างไรซ่านจินจื๋อก็ยังไม่กลับ ข้าเรียกสาวใช้มาช่วยข้าอุ่นเตียง ไม่ใช่หาคนมาวางกลอุบายแหวกฟ้าคว้าเมฆกับข้า”

กุ่ยเม่ยไหล่ตก กลับนึกไม่ถึงว่าซ่านจินจื๋อที่ถึงหน้าประตูแล้วกลับไม่ยอมเข้ามา

จึงได้แต่ตอบด้วยความเร่งรีบ“แบบนี้ไม่เหมาะสมพะย่ะค่ะ”

“ไม่มีอะไรไม่เหมาะสมหรอก ก่อนหน้านี้ที่เขาอยู่ข้าก็ไม่สามารถหลับดีๆสักครั้ง ถูกความหนาวเย็นตอนกลางคืนปลุกตลอด” กู้อ้าวเวยสูดลมหายใจ ฤดูร้อนที่แคว้นชางหลานนี่ก็ไม่เคยเห็นที่ไหนจะอากาศร้อน พอถึงยามฝนตกยังหนาวกว่าช่วงฤดูใบไม้ผลิเสียอีก

“อาการเลือดลมพร่องของท่านเพิ่งถึงจะหนาว ช่วงฤดูร้อนห่มผ้านวมคลุมมิดทำไมถึงหนาวได้ล่ะ”

“หนาวสิ” กู้อ้าวเวยฉวยมือข้างหนึ่งของกุ่ยเม่ยมาจับไว้แน่น

กุ่ยเม่ยเป็นคนฝึกฝนวรยุทธ์ ร่างกายจึงเหมือนเตาไฟที่ให้ความร้อนตลอดทั้งปี เมื่อถูกจับกุ่ยเม่ยพรั่นพรึงไม่น้อย กู้อ้าวเวยกลับประคองมือของเขา หัวเราะเบาๆ “มือของเจ้านี่ร้อนจังเลยนะ ไม่พิจารณามาอุ่นเตียงให้ข้าจริงๆหรือ?”

“ดูเหมือนพอข้าไม่อยู่ เจ้าก็เผยนิสัยแท้จริงออกมาเลยนะ” เมื่อประตูถูกเปิดออกซ่านจินจื๋อเดินตรงเข้ามากำลังเห็นคนทั้งสองต่างฝ่ายต่างจับมือกัน สีหน้าพลันมืดครึ้ม กุ่ยเม่ยรีบสลัดออกอย่างเร็วลงคุกเข่าคำนับ “คารวะท่านอ๋อง”

กู้อ้าวเวยตกตะลึงเล็กๆ นึกไม่ถึงว่าซ่านจินจื๋อจะมาอยู่ที่นี่

ในเมื่อเขามาแล้ว การที่กู้อ้าวเวยคิดจะหาสาวใช้มาอุ่นเตียงสักคนย่อมเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน

จึงกลับขึ้นเตียงของตนเสียดื้อๆแล้วหันหน้ามาหา “หม่อมฉันเป็นฝ่ายกระทำกับกุ่ยเม่ยก่อน หากท่านอยากจะลงโทษข้าก็ตามใจ”

กุ่ยเม่ยตกตะลึง เฉิงซานที่อยู่ข้างๆรีบลากกุ่ยเม่ยออกมา เกรงว่าเขาอยู่ที่นี่แล้วเรื่องจะเสียการ

ซ่านจินจื๋อเห็นท่าทางที่ไม่แยแสของนางจึงถอดเสื้อคลุมออก ขึ้นเตียงมุดร่างเข้าไปในผ้าห่มข้างๆนาง กู้อ้าวเวยตกใจสะดุ้งกับการเคลื่อนไหวที่ด้านหลังของนาง ขณะที่กำลังจะพลิกร่างซ่านจินจื๋อก็ฉวยนางมาไว้ในอ้อมกอด “ไม่ใช่ว่าเจ้าหาคนอุ่นเตียงอยู่หรือ?”

““่ท่านไม่กลัวว่าจะหม่อมฉันจะเกิดความรู้สึกบางอย่างกับท่านแล้วจากนั้นก็ใส่อารมณ์ลงที่อาการป่วยซูพ่านเอ๋อหรือ?”กู้อ้าวเวยแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจดึงสาบเสื้อของเขาเปิดออกเล็กน้อย คล้ายกับเป็นฝ่ายรุก

“เจ้ายั่วข้าครั้งแล้วครั้งเล่ายังคิดว่าข้าจะตกหลุมพรางเจ้าจริงๆงั้นสิ” ซ่านจินจื๋อนำนางเข้ามาในอ้อมกอดแล้วโอบเอวของนาง ร่างของคนทั้งสองแทบจะแนบชิดติดเข้าด้วยกัน

ซ่านจินจื๋อที่กำลังอยู่ในช่วงวัยคึกคะนองแต่ในยามนี้เขากลับระมัดระวังอย่างดี เพียงเพราะรู้สึกว่าคนในอ้อมกอดนั้นซูบผอมจนสุดจะทนได้ เขาพยายามใช้แรงน้อยๆเพื่อไม่ให้นางบุบสลาย

กู้อ้าวเวยเมื่อได้ยินคำพูดของเขากลับรู้สึกเขินอายขึ้นมาจริงๆ “หม่อมฉันไม่ต้องการคนอุ่นเตียงแล้ว....”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์