บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 206

บทที่ 206 เสี่ยวหงก่อเรื่อง

กู้เฉิงไม่ได้เห็นว่านางเป็นลูกสาวแท้ๆ เลยสักนิด หลานเอ๋อร์มีไหวพริบ ย่อมไม่อาจทำให้กู้จี้เหยาเชื่อมั่นตัวเองขึ้นมาจริงๆ อยู่แล้ว

แต่ดวงตาของนางก็ยังไม่ได้หายดีเป็นปกติโดยสมบูรณ์ มองดูสิ่งต่างๆ ยังคงพร่าเลือนอยู่

คิดถึงตรงนี้ หัวใจทั้งดวงของกู้อ้าวเวยก็เคร่งขรึมลงมา มองไปทางชิงต้ายคล้ายกับว่าเห็นอะไรสักอย่าง “ข้าทำแบบนี้เจ้าจะคิดว่าข้าไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งนั้นหรือเปล่า...”

“จะเป็นไปได้อย่างไรเล่า ในยามปกตินายท่านปฏิบัติต่อท่านอย่างไร พวกเราก็ประจักษ์แก่สายตาทั้งนั้น ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงว่าเมื่อก่อนนายท่านไม่คิดจะช่วยท่านให้รอดพ้นจากอันตราย ถ้าว่าเป็นข้า ป่านนี้คงตัดญาติขาดมิตรไปตั้งนานแล้ว” ชิงต้ายค่อนข้างขุ่นเคือง

“ว่ามาก็ถูก” กู้อ้าวเวยพยักหน้าอย่างตั้งใจ นับประสาอะไร ถึงแม้ว่านางจะไม่ได้พูดอย่างชัดเจน แต่ถ้าคิดเช่นนี้ นางจะใช่ลูกของกู้เฉิงหรือไม่ก็ยังยากจะพูดเช่นเดียวกัน

ยามเยาว์วัยเด็กเล็กมีรูปร่างคล้ายคลึงกัน แต่พอโตขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเห็นถึงความแตกต่างชัดเจน ความเป็นหญิงนั้นยิ่งไม่เหมือนกันมากขึ้น

ไม่แน่ว่าเป็นเพราะเหตุนี้ กู้เฉิงถึงได้สงสัยในตัวเอง แต่กลับต้องหลอกใช้ประโยชน์จากตนเอง ถึงได้เลี้ยงดูตนในฐานะลูกสาวแท้ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับไม่ได้มีความรู้สึกใดๆ เลยแม้แต่เสี้ยวเดียว

จู่ๆ กู้อ้าวเวยก็รู้สึกว่าตัวเองคิดออกแล้ว “ชิงต้าย เจ้าว่าข้าเป็นลูกสาวแท้ๆ ของบิดาจริงๆ หรือไม่”

อิริยาบถในการเทชาของชิงต้ายแข็งทื่อ ริมฝีปากค่อยๆ อ้าออกเล็กน้อย แต่กลับไม่ได้พูดอะไรออกมา อ้ำๆ อึ้งๆ พูดเป็นนานกว่าจะรวบรวมความกล้า และแนบเข้าข้างใบหูของกู้อ้าวเวย “ท่านคลอดอยู่นอกจวนเฉิงเสี้ยงเจ้าค่ะ แต่จะเป็นลูกของนายท่านหรือไม่นั้น ตอนที่ท่านเกิดมายังเป็นประเด็นถกเถียงกันในหมู่ฝูงชนอยู่ แต่ตอนนั้นข่าวลือเหล่านี้ก็ได้ถูกคุณท่านหยุนและนายท่านคนปัจจุบันทำให้ซาลงเจ้าค่ะ”

ใบหน้าของนางเคร่งขรึมลง กู้อ้าวเวยกลับยิ่งเพิ่มข้อกังขามากยิ่งขึ้น

แต่พอย้อนคิด กู้อ้าวเวยคนก่อนจากไปตั้งนานแล้ว นางในตอนนี้ไม่จำเป็นต้องใส่ใจต่อสิ่งเหล่านี้เลยแม้แต่นิดเดียว หยุนเซ่อดีกับนาง นางถึงปฏิบัติตอบด้วยชีวิต ส่วนเฉิงเสี้ยงเห็นนางเป็นแค่วัตถุชิ้นหนึ่งเท่านั้น ถ้าอย่างนั้นนางก็คงไม่จำเป็นต้องหลงเหลือเยื่อใยใดๆ เลยสักนิด

“เจ้าไปจับตามองทุกการเคลื่อนไหวของกู้จี้เหยา” กู้อ้าวเวยโบกมือให้นาง “เรื่องลงเขาข้าจะให้เจ้านายน้อยสักสองสามคนคอยช่วยข้าก็พอแล้ว”

“เจ้าค่ะ แต่ว่าคุณหนู ท่านลงเขาไปครั้งนี้ มีเรื่องอะไรต้องไปทำอย่างนั้นหรือ” ชิงต้ายพยักหน้า

“ต้องไปรอการมาถึงของเมิ่งซู่อยู่แล้ว” กู้อ้าวเวยกระตุกมุมปาก

……

ผ่านไปหลายวัน

ก็เป็นเพียงแค่การร่วมขบวนกลางคันของกุ่ยเม่ยเท่านั้น กู้อ้าวเวยทำเพียงแค่บอกว่ากู้จี้เหยาอาจจะตั้งครรถ์ทายาทของอ๋องจิ้งแล้วก็ได้ และพูดไปเรื่อยเปื่อยหลายประโยคว่าร่างกายของกู้จี้เหยาไม่สู้ดีนัก กุ่ยเม่ยจึงรีบหันเหไปปรนนิบัติรับใช้ข้างกายของกู้จี้เหยาขึ้นมาทันที

วันนี้ลมหนาวบาดกระดูก นางไม่ได้ไปตรวจชีพจรที่หน้าประตู ทำเพียงเฝ้ารออยู่ที่ลานบ้าน ให้เจ้านายน้อยหลายๆ คนคอยจับจ้องที่ท้องถนนทุกบริเวณ ถ้าหากมีบัณฑิตร่างผอมนามว่าเมิ่งซู่มา ก็ปล่อยตัวเขาเข้ามา

“แม่นางเอ่อร์ชิง ใบสั่งยานี้จะทำอย่างไรดี” คนหนุ่มในศูนย์การแพทย์มองใบสั่งยาในมืออย่างไม่เข้าใจ

“นี่ไม่ใช่ใบสั่งยา ข้าก็แค่เขียนไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น เมื่อก่อนก็ค้นพบว่าบริเวณนี้คล้ายกับว่ามียาสมุนไพรที่ไม่เคยเห็นจำนวนไม่น้อยเลย” กู้อ้าวเวยเอ่ยคำอย่างจนปัญญา ตอนนี้นางแสร้งมองไม่เห็น สูตรยาที่เขียนลงไปจึงได้บิดๆ เบี้ยวๆ ไม่เป็นรูปร่างด้วย

เด็กหนุ่มลูบหูเกาพวงแก้มพลางศึกษาอยู่ครู่หนึ่ง คล้ายกับว่าไม่ได้ค้นพบถึงความแตกต่างใดๆ ทำได้เพียงไปคอยมองดูอยู่มุมอับเท่านั้น

ชิงต้ายที่อยู่ข้างๆ ช่วยนางท่องตำราแพทย์ นางเอนหลังลงครึ่งหนึ่งบนเก้าอี้ มองดูผู้อาวุโสหลายคนทักทายกับบรรดาผู้ลี้ภัยหนาว

ปราศจากกลอุบาย ช่างดูบริสุทธิ์อย่างแท้จริง

ขณะที่กำลังง่วงเหงาหาวนอน ด้านนอกศูนย์การแพทย์ก็มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งพุ่งถลาเข้ามา ร้องตะโกนลั่น “แม่นางเอ่อร์ชิง คุณชายเมิ่งซู่ท่านนั้นมาถึงแล้ว ข้างกายยังมีเด็กสาวจอมซนคนหนึ่งมาด้วย กำลังมีปากเสียงกับคนนอกตำบลอยู่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์