บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 242

บทที่ 242 ใบหย่า

กู้อ้าวเวยตกตะลึง เงียบสักพักและตอบว่า “คนที่ตบ เป็นอ๋องจิ้งเองค่ะ”

ไทเฮากำลังจะถามต่อ แต่ได้ยินเสียงของคนรับใช้ที่อยู่ข้างนอก กำลังถวายบังคมอ๋องจิ้ง สายตาของกู้อ้าวเวยมีความหมายที่ไม่รู้จะทำยังไงแสดงแดงออกมา เธอนั่งเงียบอยู่ที่เดิม และไม่เคยถอดผ้าคลุมหน้าออก

ซ่านจินจื๋อพึ่งว่าราชกิจจบ แล้วรีบตรงมาที่นี่ เห็นกู้อ้าวเวยไม่ได้ถอดผ้าคลุมหน้าออก จึงวางใจลง พูดว่า “เสด็จแม่ให้ลูกมาเพราะเรื่องอะไรครับ”

“ไม่ได้เจอกันนาน จึงเรียกมานั่งเล่นคุยกันหน่อย” ไทเฮาเล่นลูกประคำในมือ สายตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “อ๋องจิ้ง เชิญนั่งก่อน”

นั่งลงที่ข้างบนเตียง จริงๆซ่านจินจื๋อไม่ได้มาเยี่ยมไทเฮานานมากแล้ว เมื่อก่อนเพราะเรื่องซูพ่านเอ๋อนั้น เขามีปัญหากับฮ่องเต้และยังสูญเสียตำแหน่งมกุฎราชกุมารไป ที่สำคัญ ยังสูญเสียความรักของเสด็จแม่ที่รักเขาสองคนไปด้วย

สองแม่ลูกพูดคุยกันอย่างดี กู้อ้าวเวยนั่งอยู่ข้างๆ หัวเราะตัวเองอยู่ในใจ

แม้ว่าไทเฮาจะชอบเธอขนาดไหน แต่ยังไงไทเฮาก็เป็นคุณแม่ของซ่านจินจื๋ออยู่ดี

เธอหยิบเอาหนังสือทางแพทย์มาอ่านเอง ไม่สนใจเรื่องรอบข้างแม้แต่นิดเดียว ดูเหมือนเธอกับสองแม่ลูกนี้ไม่รู้จักกัน

“แต่ว่า สองสามวันนี้ อายเจียได้ยินเรื่องบางเรื่องที่เกี่ยวกับคุณ” พอเปลี่ยนเรื่อง ไทเฮาหันมามองกู้อ้าวเวย พูดจาไม่ค่อยพอใจ “พระชายาจิ้งพักอยู่ที่เทียนเหยียนเป็นประจำ ไม่ได้พักอยู่ที่ตำหนักอ๋องใช่ไหม คุณอธิบายเรื่องนี้ว่าเกิดอะไรขึ้นแน่”

ได้ยินชื่อของตัวเอง กู้อ้าวเวยตกตะลึง ทำไมอยู่ดีๆแล้วพูดถึงเรื่องนี้คะ

“ทำไมลูกไม่ทราบเรื่องนี้ครับ” ซ่านจินจื๋อยิ้มเบาๆ

“แต่ก่อน ซู๋เซ่อได้มาเล่าให้อายเจียฟังว่า เคยเห็นพระชายาจิ้งกลับไปตำหนักอ๋องอย่างรีบร้อนเพื่อกลับไปพบเจอซู๋เซ่อ ดูไม่ค่อยคุ้นเคยกับตำหนักอ๋องเลย อายเจียสั่งให้คนไปตรวจสอบแล้ว ทราบว่าพระชายาพักอยู่ที่ร้านยาเหย้า จริงไหมคะ” ไทเฮาคิ้วขมวด แล้วดื่มยาลงไปให้หมด

ไทเฮาหมายความว่ายังไง ซ่านจินจื๋อกับกู้อ้าวเวย ทั้งสองคนไม่เข้าใจเหมือนกัน

“ไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหรอกครับ” ซ่านจินจื๋อตอบอย่างมั่นใจ

“งั้นเรื่องที่พระชายาจิ้งไปรักษาคนไข้ที่จี้ซื่อถาง เป็นเรื่องจริงหรือไม่”

ซ่านจินจื๋อคิ้วขมวด นึกว่าไทเฮาแค่ไม่ชอบผู้หญิงที่ออกไปทำงานข้างนอกเฉยๆ มองไปทางกู้อ้าวเวยที่กำลังทำหน้าตางงๆอยู่ พูดต่อว่า “ส่วนมากเวยเอ๋อมักจะศึกษาแพทย์และยาสมุนไพรที่บ้าน ถ้าพูดจริง ก็แค่สนิทกับนายท่านเห้อ แค่นั้นนะ”

“ใช่แบบนี้จริงเหรอ” ไทเฮาจึงรู้สึกสบายใจขึ้นนิดหน่อย แต่พอซ่านจินจื๋อวางใจลงนิดหน่อย เห็นไทเฮาโกรธขึ้นและโยนถวยเปล่าในมือออกไปทุบตีกับพื้นจนแตก “อ๋องจิ้งยังจะโกหกอายเจียถึงเมื่อไหร่ ฮะ”

“เพราะพระชายาจิ้งพูดอะไรกับเสด็จแม่ด้วยซ้ำ” ซ่านจินจื๋อดูโกรธขึ้นมาทันที ในใจโทษแต่กู้อ้าวเวยที่นั่งอยู่ข้างๆ

กู้อ้าวเวยเอาหนังสือทางแพทย์วางไว้บนโต๊ะ ยิ้มด้วยความเย็นชา พูดว่า “ขอสอบถามอ๋องจิ้งหน่อย ฉันกู้อ้าวเวย เป็นพระชายาที่ไม่สำคัญๆแบบนี้ จะพูดอะไรกับเสด็จแม่ไดไงคะ”

“เสด็จแม่ครับ อย่าเชื่อที่เธอ...”

“ฉันไม่ได้พูดอะไรจริงๆ ถ้าอ๋องจิ้งไม่เชื่อ แค่เขียนใบอย่าให้ก็จบ” กู้อ้าวเวยลุกขึ้นอย่างไม่พอใจ ดูหน้าซีดมากแค่ทักลากับไทเฮา แล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

ซ่านจินจื๋อมองที่หลังของกู้อ้าวเวยด้วยความโกรธ เธอกล้าทำแบบนี้ได้ไง

กุ้ยมามารีบออกไปตามหากู้อ้าวเวย เห็นไทเฮาทำหน้ามืดมน และพูดว่า “ก่อนหน้านี้ คิดว่าคุณสองคนเป็นคู่สมรสที่รักษาสันติสุขต่อกัน คาดไม่ถึงเลยว่าเป็นสภาพแบบนี้”

“เสด็จแม่ครับ กู้อ้าวเวยไม่ใช่คนที่ไร้เดียวส่าเหมือนที่เสด็จแม่คิดหรอกครับ ที่จริงแล้ว เธอเป็นคนที่ช่างวางแผนอย่างรอบคอบและคิดการณ์ไกล...”

“แต่เธอไม่ได้พูดอะไรกับฉันจริงๆ เรื่องพวกนี้ทั้งหมด อายเจียสั่งให้คนไปตรวจสอบเองจึงรู้จัก รวมถึงเรื่องที่คุณไล่เธอไปพักอยู่ที่จวนเก่าๆเพราะซูพ่านเอ๋อ แล้วปล่อยให้ข่าวลือเผยแพร่ออกไปขนาดนั้น แต่คุณไม่สนใจอะไรเลยสักนิด” ดวงตาของไทเฮาแดงขึ้นด้วยความโกรธและไออย่างรุนแรง

ซ่านจินจื๋อตกใจและรีบไปประคองไหล่ของไทเฮา “เสด็จแม่ อย่าโกรธครับ ใจเย็นๆ”

“อายเจียได้ปล่อยให้ซูพ่านเอ๋อรอดชีวิตไปหนึ่งครั้งแล้วนะ คุณยังทำแบบนี้กับเวยเอ๋อได้ไง คุณรู้ไหมคุณเป็นสามีของเธอ ก็ควรเป็นท้องฟ้าของเธอ ปกป้องเธอช่วยเธอกันฝนกันลม” ไทเฮาผลักเขาออกไป “หลังจากนี้ ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าจะเคารพภรรยาของตัวเองยังไง งั้นไม่ต้องมาเจออายเจียอีกแล้ว”

ไทเฮาไล่เขาออกไป ซ่านจินจื๋อไม่รู้จะทำยังไงถูก

กุ้ยมามาไม่ได้ไปตามหากู้อ้าวเวย แค่สั่งให้ขันทีตามไปหา เธอเองเดินกลับมาถึงที่ตรงหน้าประตู และหอบเบาๆด้วยความเหนื่อย เห็นซ่านจินจื๋อยืนอยู่หน้าห้อง ยิ่งถอนหายใจต่อเนื่อง และพูดว่า “อ๋องจิ้งคะ ท่านเข้าใจผิดกับพระชายาจริงๆแล้วนะ”

กุ้ยมามาได้เล่าเรื่องที่เมื่อกี้เกิดขึ้นทั้งหมดให้เขาฟังอย่างชัดเจน แต่ไม่ได้พูดถึงหลี่กงกง แค่พูดว่าเป็นคนรับใช้ของไทเฮาเฉยๆ การที่ไม่ได้บอกให้ซ่านจินจื๋อทราบ เพราะถ้าเขารู้จักแล้ว ต้องคิดว่าฮ่องเต้เป็นคนที่สั่งให้ไปตรวจสอบเรื่องนี้เองแน่นอน ย่อมมีผลเสียต่อความเป็นพี่น้องรักกันของทั้งสองอีก

ซ่านจินจื๋อทำหน้ามืดมนและจับหน้าผากเบาๆ การที่เสด็จแม่สามารถช่วยเขารอดชีวิตจากวังหลังได้อย่างปลอดภัย จะเป็นคนโง่ๆแบบนั้นได้ไง กลับมาดูเขาตัวเอง เมื่อกี้ยังคิดว่าตัวเองฉลาดและตอบเสด็จแม่ไปอย่างงั้น คราวนี้จึงทำให้เสด็จแม่โมโห

“อ๋องจิ้งควรดูแลพระชายาดีๆนะคะ แต่ก่อนไทเฮาไม่ได้เจอท่าน มีแต่ฟังเรื่องราวของท่านที่พระชายาเล่าให้ฟังเท่านั้น ไม่มีการใส่ร้ายหรอก พูดแต่สิ่งดีๆที่เกี่ยวกับท่าน ไทเฮายังรู้จักเรื่องที่เกิดขึ้นในบ้านริมน้ำโล่เสียด้วยนะ” กุ้ยมามาเช็ดเหงื่อที่หน้าผากและพูดว่า

ซ่านจินจื๋อดูหนักใจขึ้นอีก ว่า “เรื่องที่เกี่ยวกับบ้านริมน้ำโล่เสีย เธอได้พูดถึงตัวเองไหม”

“ไม่ได้พูดถึงค่ะ แต่ไทเฮาได้สั่งให้คนไปตรวจ เลยทราบว่า พิษโหวเซ่อนี้ พระชายาเป็นคนรักษาให้หายเอง แล้วยังรักษาแม่ทัพทุ้งโจวหายดีด้วย พระชายาที่ดีแบบนี้ อ๋องจิ้งต้องดูแลเป็นอย่างดีนะ” กุ้ยมามาพูดไม่หยุด

ซ่านจินจื๋อเงียบและไม่พูดอะไรสักคำ

ปกติถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับซูพ่านเอ๋อ ทุกคนล้วนเตือนเขาอย่าไปก้าวก่าย

แต่หลังจากเขาได้แต่งงานกับกู้อ้าวเวยแล้ว คนข้างๆส่วนมากจะชื่นชมเห็นด้วย และให้เขาดูแลเธอดีๆ

ถ้าเตือนแค่หนึ่งครั้งสองครั้งไม่เป็นไร แต่ว่าอยู่ในสายตาของเขา กู้อ้าวเวยไม่ดีจริงๆ กู้อ้าวเวยเป็นคนที่เข้าใจยาก ช่างวางแผนอย่างรอบครอบ ถ้าไทเฮากับกุ้ยมามาไม่เตือนในครั้งนี้ เขาเองก็อาจจะลืมไปแล้วว่า ที่จริง กู้อ้าวเวยก็เป็นผู้หญิงอ่อนแอธรรมดาๆคนหนึ่ง

เขาน่าจะให้ความอดทนกับเธอมากกว่านี้

ซ่านจินจื๋อได้ถามคนอื่นแล้วตามมาหา เห็นกู้อ้าวเวยกำลังนั่งอยู่ใต้ศาลาที่ริมทะเลสาบ นอนคว่ำอยู่บนโต๊ะหิน และให้อาหารนกอยู่ ในขณะเดียวกัน เห็นที่ไหล่ของพระชายามีคนเอาเสื้อคลุมยาวไปคลุมให้ คนรับใช้กับขันทีที่ยืนอยู่ข้างๆมองเขาอย่างระมัดระวัง

มาถึงที่ใต้ศาลา คนที่นอนคว่ำอยู่บนโต๊ะถามว่า “อ๋องจิ้งเขียนใบหย่าเสร็จยังคะ”

“เธอรู้ไหม ถ้าผมหย่ากับเธอ ในอนาคตย่อมไม่มีใครกล้าแต่งงานกับเธออีก และยังจะถูกคนอื่นเขาทอดทิ้งด้วย ซ่านจินจื๋อนั่งลงด้วยความโกรธนิดๆ นกสองตัวบินออกไปเหมือนตกใจมาก

กู้อ้าวเวยจึงลุกขึ้นมา เห็นหน้าแดงขึ้นกว่าถ้าเปรียบเทียบกับเมื่อกี้ที่ดูหน้าซีดมาก ผ้าคลุมหน้าหายไปไหนไม่รู้ ใช้มือค้ำหน้าไว้และพูดว่า “ถ้าเปรียบเทียบกับการอยู่ข้างๆคุณนั้น ฉันยอมให้คนอื่นทอดทิ้งตำหนิมากกว่า”

“ไม่สบายเหรอ” ซ่านจินจื๋อยกมือสัมผัสหน้าผากของเธอ แต่เธอหลบหนีไม่ให้เขาจับ เกือบตกหลุดจากที่นั่ง แต่ก็ไม่สนใจและขยับออกไปจากอ๋องจิ้ง “อ๋องจิ้งระวังอย่าติดเชื้อนะ ไม่งั้นเดี๋ยวไทเฮาต้องโทษฉันแน่เลย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์