บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 245

บทที่ 245 ได้รับความโปรดปรานอีกครั้ง

ส่งคนที่แววตาไร้ความรู้สึกและจิตวิญญาณคนนี้กลับไปกึงร้านยา ชิงต้ายแค่จุดเทียนหอมที่มีส่วนประกอบด้วยยากล่อมจิตประสาท กู้อ้าวเวยนอนหลับสบาย ถอดผ้าคลุมหน้าออกแล้วเห็นขอบตาดำคล้ำอย่างชัดเจน ใบหน้ายังบวมอยู่ เหมือนไม่หายบวมเลยแม้แต่นิดเดียว

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่” ซ่านจินจื๋อยืนอยู่ข้างนอก สีหน้ามืดมน

ชิงต้ายอ้ำๆอึ้งๆ สักพัก จึงตอบมาว่า “พระชายายังรับเรื่องที่สูญเสียลูกไปไม่ได้ คิดถึงลูกทั้งวันทั้งคืน ปกติมีแต่คนมาทำร้ายจิตใจและจุดอ่อนของพระชายา เวลานานแล้วก็ยิ่งลืมไม่ได้ กลางคืนก็นอนไม่หลับด้วย”

“เพราะฉะนั้น เธอจึงจะเอามีดฆ่าตัวตายเหรอ” ซ่านจินจื๋อยังจำได้อย่างชัดเจน กู้อ้าวเวยเคยพูดว่าเหลียนจื่อเกิงเป็นมีดแพทย์ ห้ามเอาไปทำร้ายคน แต่วันนี้...

“ไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ แต่เมื่อวานกลับมา พระชายาบอกว่าไทเฮาเหมือนไม่ค่อยชอบท่าน รู้สึกเสียใจมาก” ชิงต้ายมองดูซ่านจินจื๋ออย่างระมัดระวัง และพูดต่อว่า “วันนั้น พระชายาได้ข่าวว่าคุณตาเสียไปแล้ว แม้ว่าไม่ได้แสดงอาการออก ดูเงียบๆ แต่จริงๆในใจต้องเสียใจมากค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะดูแลและกตัญญูไทเฮาเป็นอย่างดี แต่ว่าไทเฮาจะยอมเชื่อฟังที่ท่านอ๋องพูดมากกว่า ก็เลยเกลียดพระชายา เมื่อคืนยิ่งไม่ได้นอนพักเลยทั้งคืน”

ปวดหัวจริงๆ

น่าจะเพราะที่ไทเฮาว่าเขาตอนนั้น ทำให้กู้อ้าวเวยเข้าใจผิดแน่นอน

ยังไม่ทันทำอะไร เห็นชิงต้ายคุกเข่าลงแล้วพร้อมร้องไห้ด้วย พูดว่า “ขอร้องท่านอ๋องโปรดเข้าใจและปล่อยคุณหนูของข้าทาสไปเถอะค่ะ ถึงแม้ว่าปกติ ท่านจะกล้าหาญขนาดไหน แต่ในใจก็เต็มไปด้วยความปวดร้าว แค่ท่านอ๋องหย่ากับท่าน คุณหนูก็อิสระแล้ว”

เห็นคนรับใช้ที่คุกเข่าอยู่บนพื้น ซ่านจินจื๋อในใจจริงๆก็อยากจะอย่ากับเธอและไล่ออกจากตำหนักอ๋องเหมือนกัน

แต่ในสมองของเขาตอนนี้คิดถึงแต่กู้อ้าวเวย จึงพูดว่า “ให้เฉิงซานเอาเอกสารทั้งหมดส่งมาที่นี่”

ชิงต้ายมองเขาด้วยการขอร้อง แต่ซ่านจินจื๋อไม่สนใจ กลับเข้าไปในห้อง นั่งอยู่ที่ข้างโต๊ะทำงาน หันไปมองกู้อ้าวเวยที่นอนอยู่บนเตียงอย่างไม่ตั้งใจ และคิ้วขมวดขึ้นมา

คุณอยากได้ลูก ใช่ไหม

กู้อ้าวเวยตื่นมาด้วยความร้อนแห้ง เห็นมีหน้าอกแข็งแกร่งติดกับหน้าอกเธออย่างแน่นหนา ทำให้เธอหายใจไม่ออก

มือที่มีรังไหมกำลังสัมผัสร่างกายของเธอเบาๆ ดูเหมือนคุ้นเคยมาก เธอปฏิเสธและผลักซ่านจินจื๋อที่อยู่ข้างบนออกไปด้วยความมึนงง รีบใส่เสื้อที่ตกหลุดออกจากไหล่ไป ขาสั่นและพูดว่า “ออกไป”

“ผมจะอยู่ข้างๆคุณนะ” เสียพูดของซ่านจินจื๋อแหบกร้านนิดหน่อย

จับเอามือของกู้อ้าวเวยอย่างเบาและอ่อนโยน ซ่านจินจื๋อเห็นกู้อ้าวเวยไม่ได้ปฏิเสธ ก็เลยแนบร่างกายตัวเองลงไปเบาๆ จูบน้ำตาที่หางตาของกู้อ้าวเวยอย่างระมัดระวัง และกอดเธอเข้ามาอ้อมแขนของตัวเองอย่างเอ็นดูมาก การกระทำอ่อนโยน

สองคนสัมผัสกันทั้งคืน

จนกระทั่ง คนที่ข้างๆนอนหลับ กู้อ้าวเวยใส่เสื้อผ้าและเดินออกจากห้องนอนอย่างเหนื่อยล้า ที่นอกห้อง ชิงต้ายนั่งอยู่หน้าประตู แกลืมตาและมองดูเธอ เรียกว่า “คุณหนู”

“ออกไปกับฉัน” กู้อ้าวเวยยิ้มเบาๆ

“ค่ะ ข้าทาสไปเอาเสื้อกันหนาวมาให้” จนกว่าชิงต้ายช่วยกู้อ้าวเวยใส่เสื้อหนาวเสร็จเรียบร้อย จึงถือโคมไฟส่องสว่างเดินออกไปพร้อมกัน

กลางคืน สองคนเดินอยู่ที่ตลาดเมืองเทียนเหยียน กู้อ้าวเวยจับเสื้อผ้าของตัวเองให้แน่นๆ และพาชิงต้ายมาโรงเตี้ยมที่ยังซ่อมแซมไม่เสร็จ

หยินเชี่ยวไม่ได้นอนพักในคืนนี้ทั้งคืน เห็นรอยจูบสีชมพูที่บนคอของกู้อ้าวเวย แววตามีความปวดร้าวสะท้อนออกมานิดๆ “คุณหนูคะ แสดงว่าคุณหนูน่าจะสำเร็จแล้ว”

“ฉันเคยมีลูกกับเขาด้วยซ้ำ ตอนนี้แค่นอนด้วยกันเฉยๆ ไม่ต่างกันมากหรอก”กู้อ้าวเวยนั่งลงเอง

คนที่ใส่เสื้อสีดำและนั่งอยู่ตรงข้าม คือ ซ่านเซิ่งหาน เขาจ้องมองกู้อ้าวเวย พูดว่า “ที่คุณมาตอนนี้ คืออยากจะมาบอกว่า คุณจะแก้แค้นเขายังไงเหรอ”

“คนที่ฉันจะแก้แค้น คือ ซูพ่านเอ๋อ” กู้อ้าวเวยยิ้ม เอามือไปสัมผัสคอที่มีจุดรอย เมื่อกี้ตอนนอนอยู่ข้างๆซ่านจินจื๋อ ไม่น่าเชื่อว่า ตัวเองยังรักเขาอยู่

ลมพัดผ่านมา อารมณ์แบบนี้ก็หายไปตามลม

“ที่ฉันมา แค่อยากจะบอกคุณว่า ซ่านจินจื๋อรักฉัน เขาจะไม่รักเดียวใจเดียวกับซูพ่านเอ๋อแน่นอน แล้วฉัน สามารถทำให้เขาเชื่อใจฉันได้”

“คุณลงทุนขนาดนี้ จะให้ผมทำยังไงครับ”ซ่านเซิ่งหานไม่เข้าใจ

“เรื่องที่เกี่ยวกับเมิ่งซู่” กู้อ้าวเวยรับใบหนังสือจากหยินเชี่ยว เป็นบทความที่เมิ่งซู่ได้เขียนตอนสอบ ภาษาสละสลวย จับใจความสำคัญได้ดี ใครๆอ่านแล้วต้องถือว่าผู้เขียนคนนี้เป็นคนเก่งแน่นอน แม้แต่ฮ่องเต้ในปัจจุบันนี้ก็เหมือนกัน

จริงๆ ซ่านเซิ่งหานก็อยากจัดการเรื่องนี้เอง แต่เมื่อคืน หยินเชี่ยวออกจากตำหนักอ๋องมาที่ตำหนักของเขาเพื่อไปเอาบทความนี้ และนัดเขาว่าเจอกันที่นี่ตอนเช้า

“ผมจะชักชวนเขามาเป็นพวกอยู่แล้ว”

“งั้นหลังจากองค์ชายสามดึงมาเป็นพวกสำเร็จแล้ว ทำตัวแกล้งคนอื่นด้วยการยกเขาให้คุณบิดาของฉัน ถ้าอย่างนี้ คุณสามารถอ้างว่าเขาเป็นคนของพวกเราและนัดคุยปรึกษากันได้ และยังแสดงให้คนอื่นเห็นว่า เขาจงรักภักดีต่อจวนเฉิงเสี่ยง” (เฉิงเสี่ยงเป็นตำแหน่ง) กู้อ้าวเวยสีหน้ามืดมนลง “ส่วนเรื่องที่ฉันจะจัดการ ก็คือการที่จะไม่ให่ซ่านจินจื๋อรู้จักเรื่องนี้ แม้แต่นิดเดียว”

“ทำแบบนี้เสี่ยงเกินไป พระเจ้าอาฉลาดกว่าอย่างที่คุณคิดนะ” ซ่านเซิ่งหานส่ายหัว และพูดต่อว่า “และอีกอย่าง พระเจ้าอารู้อยู่แล้ว สำหรับเรื่องที่คุณสนิทกับเมิ่งซู่ ถ้าผมทำแบบนี้ ดูเหมือนตั้งใจและผิดปกติเหลือเกิน”

แต่ว่า ถ้าองค์ชายสามไม่แสดงความหมายว่าเขาจะชักชวนคนเก่งมาเป็นพวก ตามนิสัยของกู้เฉิงนั้น ต้องไม่ให้ความสำคัญกับเมิ่งซู่แน่นอน นอกจากว่าให้เขารู้สึกถึงวิกฤต กู้เฉิงจึงจะยอมเสี่ยงและให้ความสำคัญกับเมิ่งซู่”

กู้อ้าวเวยไร้ทางเลือก ตอบว่า “เขาไม่มีโอกาสรู้หรอก ฉันจะเป็นผู้ช่วยที่ดีของเขาเอง”

“พระเจ้าอาเบื่อที่สุดที่ผู้หญิงไปก้าวก่ายเรื่องการเมือง” ดูแล้วว่าซ่านเซิ่งหานยังไม่ค่อยเชื่อกู้อ้าวเวยเท่าไหร่

“ทำไมองค์ชายสามไม่ลองทำก่อนละ ถ้าพ่ายแพ้แล้ว อย่างน้อยเมิ่งซู่ก็เป็นคนพวกคุณอยู่ดี” กู้อ้าวเวยส่ายหัวด้วยความเบื่อ พูดต่อว่า “เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะไปพบเมิ่งซู่ ชักชวนเขามาทำงานให้คุณบิดาของฉัน คุณมีเวลาคิดแค่วันเดียวเท่านั้น”

“นี่ คุณขู่ผมเหรอ” ซ่านเซิ่งหานคิ้วขมวดและถามเธอ

“ก็คุณไม่เชื่อฉันเองอะ ถ้าคุณไม่ยอมทำ ฉันก็ยังสามารถเลือกให้องค์ชายสี่ องค์ชายหกทำได้” แววตาของกู้อ้าวเวยแหลมคม เธอคิดว่าตัวเองทำดีที่สุดละ แต่ซ่านเซิ่งหานเป็นคนที่ระมัดระวัง วางแผนอย่างรอบครอบไว้ก่อนดำเนินงาน

แต่เรื่องเมิ่งซู่นี้ ไม่มีเวลารอคอยอีกแล้ว มีแต่ว่าให้เมิ่งซู่ได้รับการพัฒนาอย่างดี ดึงดูดความสนใจจากผู้คน เธอจึงสามารถแอบยุให้รำ ตำให้รั่วได้ระหว่างขุนนางที่ซ่านจินจื๋อคุ้นเคย ทำให้อำนาจที่เขาสร้างขึ้นมาพังทลายไปเรื่อยๆ

เรื่องนี้เธอจะไม่บอกให้ซ่านเซิ่งหานทราบแน่นอน เพราะว่าเขาต้องมีอำนาจของตัวเองที่ซ่อนไว้ และกู้อ้าวเวยก็จำเป็นต้องช่วยซ่านจินจื๋อรู้จักความสามารถของซ่านเซิ่งหานที่ซ่อนไว้ด้วย การทำเรื่องหนอนบ่อนไส้ระหว่างสองฝ่าย ไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ

ซ่านเซิ่งหานจ้องมองกู้อ้าวเวย เขายังไม่เคยไปแข่งกับใครแบบนี้เลย แต่ถ้ายังเงียบๆเหมือนเดิม อาจจะไม่มีโอกาสอีกแล้วในอนาคต จึงตอบว่า “ได้ครับ ผมทำครับ”

“ถ้าอย่างนี้ พรุ่งนี้ฉันจะบอกให้เมิ่งซู่ แต่ว่าเรื่องที่ให้เขาจะยอมรับองค์ชายหรือไม่ ฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้นะ” กู้อ้าวเวยยิ้มเบาๆ จับมือกับซ่านเซิ่งหานแล้ว เดินออกไปพร้อมกับชิงต้าย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์