บทที่ 311 คิดการณ์ไกล
เชือกทวงชีวิตปรากฎขึ้น เวลานั้นทั่วทั้งยุทธภพต่างระส่ำระส่าย ทว่าประเทศเอ่อตานที่ได้รับข่าวสารกลับไม่มีการเคลื่อนไหวอันใด ฮ่องเต้และไทเฮาจึงวางพระทัยเล็กน้อย ส่วนในจวนอ๋องจิ้งกลับยังคงถูกสตรีเหล่านั้นวอแวจนไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้
ซูพ่านเอ๋อร์นั่งอยู่บนเก้าอี้ดอกสาลี่ มองดูบ่าวหญิงที่มาใหม่พันบาดแผลอันน่าหวาดเสียวอีกครั้งจนหนาเตอะ เพียงขมวดคิ้วมองมายังเมี่ยวหาร
“แผลเป็นนี้ รักษาให้หายไม่ได้จริงๆหรือ?”
เมี่ยวหารสั่นศีรษะอย่างยากลำบาก บนข้อมือยังหลงเหลือรอยประทับต้องโทษ
ซูพ่านเอ๋อร์เม้มเรียวริมฝีปาก สาวใช้ติดตามเหล่านี้ล้วนไม่รู้จักมักคุ้น นางไม่กล้าระบายโทสะตามอำเภอใจ เพียงจ้องเมี่ยวหารด้วยความขัดเคือง แต่ในตอนแรกมันเป็นเรื่องจริงที่ตนให้เมี่ยวหารวางยาพิษด้วยตนเอง วงกบหน้าต่างไม่เพียงร่วงล้มใส่นาง ซ้ำยังลวกขาของนางด้วย
เมื่อนึกถึงรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ที่จะต้องติดตัวไปตลอดชีวิต ซูพ่านเอ๋อร์แทบทนไม่ไหวที่จะลอกผิวหนังตนเองออกมา
“ไสหัวออกไปให้ข้า” ซู่านเอ๋อโทสะพลุ่งพล่านถีบสาวใช้ตรงหน้ากระเด็นออกไป
สาวใช้เหล่านั้นออกไปด้วยความกลัวตัวสั่นงันงก เมี่ยวหารกลับทัดทานนาง “นี่เป็นเรื่องที่ไร้หนทาง นักฆ่านั่นฉวยโอกาสตอนที่ท่านอ๋องไม่อยู่จึงได้กล้าเข้ามา”
“เช่นนั้นพี่จื๋อยามนี้ไปอยู่ที่ใดกันเล่า!” ซูพ่านเอ๋อร์กระชากคอเสื้อของเมี่ยวหาร “เขาถูกกู้อ้าวเวยตกวิญญาณไปแล้วกระมัง! เดิมทีปล่อยให้นางถูกคนสารเลวนั่นฆ่าก็ดี กลับคาดไม่ถึงว่าไม่ลงมือฆ่านาง!”
“นั่นเป็นเพราะท่านทำร้ายเด็กในครรภ์ของกู้จี้เหยาจนตาย ท่านอ๋องเพียงแค่ไม่สนใจถามไถ่เจ้า นั่นก็นับว่าไม่เลวแล้ว” เมี่ยวหารดึงมือของนางออก แต่หากถูกซ่านจินจื๋อรู้แล้วก็ช่างเถิด
ซูพ่านเอ๋อร์ทรุดเข่าลงบนเตียงอย่างแรง ทึ้งผมของตนด้วยความโกรธเคือง แต่ยังคงโยนความผิดทั้งหมดไปให้กู้อ้าวเวย
กู้จี้เหยารักษาตัวอยู่ภายในเรือน กู้เฉิงกับกู้ฮูหยินส่งข้าวของมายังเรือนอ๋องทุกวี่วัน ครึกโครมจนชาวเทียนเหยียนรู้กันทั้งเมือง
ยามนี้ กู้อ้าวเวยที่พักอยู่ในเรือนก็ยุ่งจนตัวเป็นเกลียว คล้ายเจตนาหลบลี้หนีหน้าซ่านจินจื๋อ บาดแผลบนร่างนางยังไม่ทันจะหายดีก็รับงานมาทำแล้วไม่น้อย ทั้งยังเจาะจงเรียกฉีหรัวมาที่จวน ความ
จริงคือให้นำจางเหยียงซานติดมาด้วย
จางเหยียงซานสุขุมขึ้นมาก ช่วยฉีหรัวจัดการลงมืออยู่สองสามวัน ทั้งคู่ดูเหมือนจะเข้ากันได้ดี
รอจนผู้ติดตามไปกินข้าวที่โถงข้าง จางเหยียงซานจึงเอ่ยกับนางโดยตรง “ข้าน้อยจะแก้แค้นกว่างจี้ได้อย่างไร?”
“สถานการณ์ของหู้ปู้เซ่อหลางในยามนี้เป็นอย่างไร เจ้าเล่ามาก่อน” กู้อ้าวเวยวางพู่กัน เอนกายพิงเชิงชาย โบกมือให้ชิงต้ายที่ต้องการส่งอาหารนอกหน้าต่าง ให้นางรอสักครู่ค่อยส่งมา
จางเหยียงซานชำเลืองมองไปตามครรลองสายตาของนาง กล่าวด้วยน้ำเสียงลุ่มลึก “ยามนี้หู้ปู้เซ่อหลางยอมจำนนต่อองค์ชายรอง องค์ชายรองตอนนี้ยังคงอยู่ที่ด่านชายแดนได้ยินว่าได้ควบคุมอำนาจทางทหารไว้ไม่น้อย ระยะนี้ปิดประตูไม่คบค้าจึงไม่ก่อปัญหา ส่วนเหล่าบุตรชายบุตรสาวของหู้ปู้เซ่อหลางที่ยังไม่แต่งงานดูเหมือนได้เตรียมแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลขุนนางใหญ่ราย่อื่นๆ”
กล่าวจนจบ กู้อ้าวเวยพลันคลี่ยิ้ม “ในเมื่อพวกเขาล้วนเตรียมแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์แล้ว ยังต้องใช้เจ้าแก้แค้นด้วยหรือ เวลาของกว่างจี้ย่อมมีไม่มากนักหรอก”
“ท่านไม่ต้องการช่วยเหลือข้าน้อยจึงได้หาข้ออ้างเช่นนี้กระมัง?” จางเหยียงซานมองนางอย่างแค้นเคือง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์
นางเอกเหมือนจะเก่งแต่ก็ยอมให้ผัวทำร้ายร่างกายตลอด...
บางคำแปลแบบ งงๆ อ่านแล้วเหนื่อยเรื่องนี้ พักก่อน...
สรุปแล้วใครคือพระเอก อ๋องจิ้งไม่เหมาะเลย ขอเป็นคนอื่นแทนได้ไหม...